รองสุเทพย้ำเร่งช่วยวีระแต่อย่าให้บานปลาย

รองสุเทพย้ำเร่งช่วยวีระแต่อย่าให้บานปลาย

รองสุเทพย้ำเร่งช่วยวีระแต่อย่าให้บานปลาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ยอมรับว่า ขณะนี้ ตนยังไม่ได้รับรายงาน การให้ประกันตัว 4 คนไทย ที่ถูกทางการกัมพูชา จับกุมตัวดำเนินคดี ยกเว้น นายวีระ สมความคิด ที่ถูกเพิ่มข้อกล่าวหา โดยเชื่อว่า จากนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเกิดจากความพยายามของฝ่ายต่าง ๆ ซึ่งกรณีของนายวีระ ก็จะพยายามช่วยเหลือต่อไป แต่อย่าดำเนินการให้มีความรู้สึกที่บานปลายออกไปอีก ส่วนรายละเอียดนั้น กระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นผู้ชี้แจง ส่วน นายวีระ นั้น ก็จะต้องมีการช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ ตนไม่อยากคาดการณ์ในทางร้ายว่า จะมีการนำเรื่องที่ นายวีระ ไม่ได้รับการประกันตัวนั้น ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมต่อไป

พร้อมกันนี้ นายสุเทพ กล่าวถึงการชุมนุมของ กลุ่มเครือข่ายประชาชนหัวใจรักชาติ ที่มีการปิดการจราจรนั้น นายสุเทพ ย้ำว่าให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เจรจากับผู้ชุมนุม เพื่อไม่ให้การชุมนุมเกิดผลกระทบต่อประชาชน พร้อมกับ วิงวอนขอความร่วมมือผู้ชุมนุม ให้ปรับปรุงการชุมนุมไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ส่วนจะมีการขอคืนพื้นที่หรือไม่นั้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการ


รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ยังกล่าวถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทย เตรียมนำเรื่องงบประมาณของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. รวมทั้ง เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ในการดูแลความสงบเรียบร้อย ช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งในปี 2552 และปี 2553 มาอภิปราย ไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตนไม่มีความจำเป็นต้องเตรียมข้อมูลเป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมากับเรื่องดังกล่าวทั้งหมด ตนมีข้อมูลที่จะชี้แจงอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลก็ไม่มีคาวมเป็นห่วงในเรื่องนี้ ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย จะไม่เข้าร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ถือเป็นเรื่องภายในพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง ไม่มีส่วนทำให้รัฐบาลเบาใจ เพราะขึ้นอยู่กับข้อมูลข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ เห็นว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย เตรียมตั้งพรรคใหม่ ไม่ได้ทำให้แรงกดดันในการตรวจสอบรัฐบาลลดลง

นอกจากนี้ นายสุเทพ ปฏิเสธว่า การเสนอชื่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. แบบสรรหา ไม่ใช้เป็นการถือประโยชน์ต่างตอบแทน ซึ่งตนเห็นว่า พรรคเพื่อไทย มีความจงใจที่จะเข้าใจถึงเรื่องนี้ว่า ทั้ง 2 คน มีคุณสมบัติที่สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาได้ ส่วนจะได้รับการคัดเลือกหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ก.ตร. ในวันที่ 20 ม.ค.นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook