ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น8.25 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น8.25 จุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

            ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) บวก 8.25 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 11,985.44 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 5.45 จุด หรือ 0.42% แตะที่ 1,296.63 และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่ง 20.25 จุด หรือ 0.74% แตะที่ 2,739.50 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.2 พันล้านหุ้น   ขานรับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ที่เสนอให้มีการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อกระตุ้นการลงทุนในภาคเอกชน ในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) เมื่อวานนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 12,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่งในระหว่างวัน แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประเมินในที่ประชุมครั้งล่าสุดว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่มากพอที่จะทำให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้นด้วยก็ตาม โดยเฟดได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0 - 0.25% และยังเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 เพื่อเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน              นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.ปี 2553 พุ่งขึ้น 17.5% แตะที่ 329,000 ยูนิตต่อปี ขณะที่ราคากลางของบ้านใหม่ที่เสนอขายในเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 241,500 ดอลลาร์ จากระดับ 215,500 ดอลลาร์ของเดือนพ.ย.           ทั้งนี้   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค.            ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2553 ครั้งที่ 1, กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4 ปี 2553 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนม.ค.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook