กต.แถลงโต้เขมรวัดแก้วดินแดนไทยจี้ปลดธง
ตามที่ กระทรวงการต่างประเทศ และความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา มีคำประกาศ ลงวันที่ 28 มกราคม 2554 เกี่ยวกับธงกัมพูชาที่ปรากฏอยู่เหนือ "วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ" นั้น กระทรวงการต่างประเทศ ขอแถลง ดังนี้
1. ตามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจ และจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543 อนุสัญญาและสนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศส ปี ค.ศ.1904 และ ค.ศ.1907 และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้สัญญาทั้งสองฉบับ ถือเป็นเอกสารทางกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องในการกำหนดเขตแดน ดังนั้น ประเทศ
ไทยจึงไม่ยอมรับข้ออ้างของกัมพูชาว่าแผนที่ 1 ต่อ 200,000 เป็นเอกสารที่จะกำหนดเขตแดน 2. กัมพูชาได้ยอมรับในคำประกาศฉบับดังกล่าวว่า คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เมื่อปี 2505 (ค.ศ.1962) มิได้ตัดสินในเรื่องเส้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา 3. ประเทศไทยยืนยันว่า "วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ" ตั้งอยู่ในอาณาเขตไทย และเรียกร้องให้ประเทศกัมพูชา รื้อถอนวัดแก้วฯ และปลดธงกัมพูชา ที่ประดับเหนือวัดแก้วฯ ข้อเรียกร้องนี้เป็นการย้ำถึงการประท้วงหลายครั้งของไทยต่อกัมพูชา เกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ในวัดแก้วฯ และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนเป็นการละเมิดอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย 4. กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันอีกครั้ง ถึงความมุ่งมั่นของไทยที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนกับกัมพูชา ตามกฎหมาย
ระหว่างประเทศโดยสันติวิธี ภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา การกำหนดเส้นเขตแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร ยังคงเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการฯ
ด้าน นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ระบุถึงข้อเรียกร้องของ นายกรัฐมนตรีไทย ให้กัมพูชาปลดธงกัมพูชาลง จากยอดเสา ที่บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ว่า การออกแถลงการณ์ดังกล่าว ถือเป็นการดำเนินการขั้นแรก โดยไม่จำเป็นต้องมีการยื่นหนังสือใดๆ ต่อฝ่ายกัมพูชา อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา กระทรวง
การต่างประเทศ ได้มีหนังสือถึงรัฐบาลกัมพูชา เกี่ยวกับการพิจารณาคดี 7 คนไทย โดยย้ำว่า ทั้งหมดไม่ได้เป็นความตั้งใจ
ที่จะเข้าไปในเขตแดนกัมพูชา หรือ ดำเนินการใดๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คำวินิจฉัยของศาลกัมพูชา ไม่มีผลผูกพันทาง
กฎหมาย เกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องเขตแดน และไม่กระทบกับสิทธิของไทย ภายใต้คณะกรรมการปักปันเขตชายแดน หรือ
คณะกรรมการเจบีซี
นอกจากนี้ นายธานี ยังกล่าวถึง การพิจารณาคดี นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ว่า ศาลกัมพูชาขอ
ให้ทั้ง 2 คน ถึงศาลในเวลาประมาณ 07.30 น. คาดว่า จะเริ่มไต่สวนในเวลาประมาณ 08.00 น. ขณะนี้ นายวีระ และ น.ส.
ราตรี กำลังหารือถึงแนวทางการต่อสู้กับทนาย โดยมีผู้แทนเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ให้คำแนะนำ จึงต้องรอวันที่ 1 ก.พ. ว่าการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป จะเป็นอย่างไร
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณใกล้กับสถูปคู่ ติดกับฐานตรวจการณ์ผามออีแดง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารพรานสังกัด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้นำเอาธงชาติไทยชักขึ้นสู่ยอดเสา ตรงบริเวณใกล้กับจุดสถูปคู่ เพื่อเป็นการตอบโต้ทางการกัมพูชา กรณีนำธงชาติมาติดไว้ บริเวณประตูทางเข้า วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดของทหารไทย และ
กัมพูชา ที่ตรึงกำลังอยู่รอบเขาพระวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แหล่งข่าวทางทหารเผยว่า ขณะนี้ธงชาติของกัมพูชา ที่ติดไว้บริเวณทางเข้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ
ก็ยังไม่ได้ถูกปลดลงมาแต่อย่างใด ซึ่งทหารกัมพูชาได้มีการเสริมกำลังบริเวณบนเขาพระวิหาร เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจม
ตีอย่างเต็มที่ทำให้บรรยากาศบริเวณเขาพระวิหาร ตึงเครียดเป็นอย่างมาก
1. ตามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจ และจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543 อนุสัญญาและสนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศส ปี ค.ศ.1904 และ ค.ศ.1907 และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้สัญญาทั้งสองฉบับ ถือเป็นเอกสารทางกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องในการกำหนดเขตแดน ดังนั้น ประเทศ
ไทยจึงไม่ยอมรับข้ออ้างของกัมพูชาว่าแผนที่ 1 ต่อ 200,000 เป็นเอกสารที่จะกำหนดเขตแดน 2. กัมพูชาได้ยอมรับในคำประกาศฉบับดังกล่าวว่า คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เมื่อปี 2505 (ค.ศ.1962) มิได้ตัดสินในเรื่องเส้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา 3. ประเทศไทยยืนยันว่า "วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ" ตั้งอยู่ในอาณาเขตไทย และเรียกร้องให้ประเทศกัมพูชา รื้อถอนวัดแก้วฯ และปลดธงกัมพูชา ที่ประดับเหนือวัดแก้วฯ ข้อเรียกร้องนี้เป็นการย้ำถึงการประท้วงหลายครั้งของไทยต่อกัมพูชา เกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ในวัดแก้วฯ และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนเป็นการละเมิดอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย 4. กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันอีกครั้ง ถึงความมุ่งมั่นของไทยที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนกับกัมพูชา ตามกฎหมาย
ระหว่างประเทศโดยสันติวิธี ภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา การกำหนดเส้นเขตแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร ยังคงเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการฯ
ด้าน นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ระบุถึงข้อเรียกร้องของ นายกรัฐมนตรีไทย ให้กัมพูชาปลดธงกัมพูชาลง จากยอดเสา ที่บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ว่า การออกแถลงการณ์ดังกล่าว ถือเป็นการดำเนินการขั้นแรก โดยไม่จำเป็นต้องมีการยื่นหนังสือใดๆ ต่อฝ่ายกัมพูชา อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา กระทรวง
การต่างประเทศ ได้มีหนังสือถึงรัฐบาลกัมพูชา เกี่ยวกับการพิจารณาคดี 7 คนไทย โดยย้ำว่า ทั้งหมดไม่ได้เป็นความตั้งใจ
ที่จะเข้าไปในเขตแดนกัมพูชา หรือ ดำเนินการใดๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คำวินิจฉัยของศาลกัมพูชา ไม่มีผลผูกพันทาง
กฎหมาย เกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องเขตแดน และไม่กระทบกับสิทธิของไทย ภายใต้คณะกรรมการปักปันเขตชายแดน หรือ
คณะกรรมการเจบีซี
นอกจากนี้ นายธานี ยังกล่าวถึง การพิจารณาคดี นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ว่า ศาลกัมพูชาขอ
ให้ทั้ง 2 คน ถึงศาลในเวลาประมาณ 07.30 น. คาดว่า จะเริ่มไต่สวนในเวลาประมาณ 08.00 น. ขณะนี้ นายวีระ และ น.ส.
ราตรี กำลังหารือถึงแนวทางการต่อสู้กับทนาย โดยมีผู้แทนเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ให้คำแนะนำ จึงต้องรอวันที่ 1 ก.พ. ว่าการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป จะเป็นอย่างไร
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณใกล้กับสถูปคู่ ติดกับฐานตรวจการณ์ผามออีแดง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารพรานสังกัด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้นำเอาธงชาติไทยชักขึ้นสู่ยอดเสา ตรงบริเวณใกล้กับจุดสถูปคู่ เพื่อเป็นการตอบโต้ทางการกัมพูชา กรณีนำธงชาติมาติดไว้ บริเวณประตูทางเข้า วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดของทหารไทย และ
กัมพูชา ที่ตรึงกำลังอยู่รอบเขาพระวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แหล่งข่าวทางทหารเผยว่า ขณะนี้ธงชาติของกัมพูชา ที่ติดไว้บริเวณทางเข้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ
ก็ยังไม่ได้ถูกปลดลงมาแต่อย่างใด ซึ่งทหารกัมพูชาได้มีการเสริมกำลังบริเวณบนเขาพระวิหาร เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจม
ตีอย่างเต็มที่ทำให้บรรยากาศบริเวณเขาพระวิหาร ตึงเครียดเป็นอย่างมาก