มอเกอร์ไทยไม่กล้ากลับบ้าน พม่ายังรบอยู่

มอเกอร์ไทยไม่กล้ากลับบ้าน พม่ายังรบอยู่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ที่บริเวณกองร้อยทหารราบที่ 1743 บ้านมอเกอร์ไทย ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก นายพจน์ หรูวรนันท์ นายอำเภอพบพระ ได้เดินทางไปดูแลราษฎรไทยบ้านมอเกอร์ไทย ที่ได้อพยพหนีภัยสงครามจากการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่า SPDC กับกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย DKBA. ที่สนธิบูรณาการ ร่วมกับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU หรือ กะเหรี่ยงคริสต์ ซึ่งมีการสู้รบกันที่ฝั่งพม่า จนทำให้มีกระสุนปืน ค.120 มาตกในเขตไทยหลายนัด โดยชาวไทยทั้งหมด ได้มา
อาศัยบริเวณฐานทหารทั้งหมด ประมาณ 400-500 คน โดย นายอำเภอพบพระ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำอาหารเครื่องดื่ม และหน่วยแพทย์จาก ร.พ.พบพระ ไปดูแลผู้หนีภัยสงคราม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ยอมกลับไปหมู่บ้าน เนื่องจากยังมีสถานการณ์การสู้รบระหว่างฝ่ายกะเหรี่ยง กับฝ่ายพม่า ยังตึงเครียดและไม่ปลอดภัย ส่วนโรงเรียนบ้านมอเกอร์ไทย ได้ปิดเรียนกะทันหัน เนื่องจากระเบิดมาลงข้างโรงเรียน และมาลงยังหมู่บ้านทำให้บ้านเรือน และรถที่ใช้ในการเกษตรได้รับความเสียหาย

นายพจน์ หรูวรนันท์ กล่าวว่า ชาวไทยทั้งหมดหนีภัยจากการสู้รบระหว่างฝ่ายพม่า กับชนกลุ่มน้อย ทำให้มีกระสุนล้ำมาตกในเขตไทย ส่วนฝ่ายปกครองและ
ฝ่ายทหาร ได้นำชาวบ้านมาหลบภัยบริเวณดังกล่าว รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์สู้รบชายแดน มีกระสุนล้ำมาตกในเขตไทย กว่า 10 นัด ถูกบ้านเรือน และรถได้รับความเสียหาย จึงไม่สามารถอยู่ในหมู่บ้านได้ แต่
อย่างไรก็ดี มีผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง-พม่า อีกประมาณ 200-300 คน เข้ามาอยู่บริเวณดังกล่าว โดยมีทางเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานข้าหลวงใหญ่ ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR และองค์กรพัฒนาเอกชน NGO เข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ฝ่ายกะเหรี่ยง กับฝ่ายพม่า ยังคงใช้อาวุธหนักยิงใส่กันเป็นระยะๆ คาดว่า ฝ่ายพม่า จะเข้ายึดพื้นที่ของฝ่ายกะเหรี่ยงทั้งหมดให้ได้โดยเร็วที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook