เขมรยันไม่ปลดธงจากวัดแก้วสิกขาฯ
กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์ ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2011 เพื่อตอบโต้ต่อคำแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา กรณี วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ อ้างแผนที่ของ คณะกรรมการฝรั่งเศส-สยาม ได้จัดทำแผนที่ 1:200,000 รวมถึง แผนที่ "ดงรัก" ซึ่งรวมปราสาทพระวิหารและคำตัดสินของ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ปี ค.ศ. 1962 ที่ระบุถึงการยอมรับผลการปักปันเขตแดนของ คณะกรรมการจัดทำแผนที่ และให้ พระวิหาร อยู่ในดินแดนของกัมพูชา และให้ยึดเส้นบนแผนที่นั้นในฐานะเป็นเส้นเขตแดน รวมถึง หลักฐานการสร้างวัดขึ้นโดยคนของประเทศกัมพูชา ในปี 1998 ดังนั้น วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ จึงตั้งอยู่บนพื้นดินกัมพูชา โดยชอบด้วยกฎหมาย และธงชาติกัมพูชา มีสิทธิ์โบกไสวอยู่เหนือตัววัดได้ต่อไป อีกทั้ง กัมพูชา ก็ยังไม่เคยได้รับข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการจากประเทศไทย ในการปลดธงดังกล่าวลง
นอกจากนี้ แถลงการณ์จากกัมพูชา ยังกล่าวแสดงถึงความหวัง ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติกับประเทศไทย ต่อการจัดทำหลักเขตแดน โดยยึดตามเอกสารทางกฎหมาย รวมถึงข้อตกลงของ คณะกรรมการธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC พร้อมทั้งขอใช้สิทธิ์ ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของตนเอง จากการขู่จะประกาศสงครามต่อกัมพูชาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อีกด้วย
นอกจากนี้ แถลงการณ์จากกัมพูชา ยังกล่าวแสดงถึงความหวัง ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติกับประเทศไทย ต่อการจัดทำหลักเขตแดน โดยยึดตามเอกสารทางกฎหมาย รวมถึงข้อตกลงของ คณะกรรมการธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC พร้อมทั้งขอใช้สิทธิ์ ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของตนเอง จากการขู่จะประกาศสงครามต่อกัมพูชาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อีกด้วย