การเงิน และการลงทุนทั้งหมด
แสดง 5051 - 5,075 จาก 32,893 ข่าว
บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (1 ต.ค.) ดัชนีปรับตัวในแดนบวกต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงขายทำกำไรระยะสั้นโดยได้รับแรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้า ขณะที่มีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่นในหุ้นกลุ่มปตท. หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้น ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 980.89 จุด ต่ำสุดที่ 927.56 จุด ก่อนปิดตลาดในภาคเช้าที่ 976.27 จุด บวก 0.97 จุด หรือ 0.10% มูลค่าการซื้อขาย 21,048.07 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย
IRPC ปิดที่4.38บาท บวก 0.22 บาท
PTTEPปิดที่ 157.50 บาท บวก 3.50 บาท
PTT ปิดที่297.00บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
KTB ปิดที่ 17.40บาท บวก 0.40 บาท
PTTAR ปิดที่ 27.75 บาท บวก 0.25 บาท
ดัชนีนิกเกอิ 225 ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดทำการซื้อขายภาคเช้าวันศุกร์ (1 ต.ค.2553) ที่ระดับ 9,453.14 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 83.79 จุด เปลี่ยนแปลง 0.88%
รมว.คลัง ชี้แจงกระทู้ถามที่รัฐสภา แจงเข้าใจว่าเป็นแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ต้องทำ เผยเตรียมรวมมือธนาคารออกบัตรลดหนี้ที่ผู้เป็นลูกหนี้
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้(30ก.ย.)อยู่ที่ระดับ 30.32/38 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.41/43 บาท/ดอลลาร์
โดยเงินบาททั้งวันนี้ปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่อง ช่วงระหว่างวันพอหลุดจากระดับ 30.40 บาท ก็มีการเข้ามา intervene จากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แต่ก็ยังเอาไม่อยู่ เงินบาทยังแข็งค่าต่อ
ทั้งนี้ ตลาดยังคงวิตกกังวลกับข่าวที่สหรัฐฯ อาจจะใช้มาตรการ QE ที่จะมีการพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์เพิ่ม ซึ่งกรณีนี้ทำให้สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับค่าเงินของทุกสกุล
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงปิดตลาดเย็นนี้ ค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 83.29/33 เยน/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3658/3664 ดอลลาร์/ยูโร
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้ยังคงปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่อง แต่อาจแกว่งตัวในกรอบแคบที่ 30.28-30.32 บาท/ดอลลาร์
การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้(30ก.ย.) ดัชนี ปิดที่ 975.30 เพิ่มขึ้น 5.65 หรือ 0.58% ปริมาณการซื้อขาย 4,331,686,000 หุ้น มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 36,479.85 ล้านบาท โดยสถาบัน ขายสุทธิ 1,375.22 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 4.87 ล้านบาท ต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 3,345.91 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,965.82 ล้านบาท ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากเงินทุนไหลเข้า ส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่นในหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีต่ำสุดที่ 968.30 จุด และสูงสุดที่ 976.08 จุด
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย
PTT ปิดที่297.00 บาท บวก 4.00 บาท
BANPU ปิดที่ 716.00บาท บวก 6.00 บาท
PTTAR ปิดที่ 27.50บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
SCB ปิดที่ 103.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KTB ปิดที่ 17.00บาท บวก 0.50 บาท
ดัชนีหั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดซื้อขายวันพฤหัสบดี (30 ก.ย. 53) อยู่ที่ระดับ 22,358.17 จุด ปรับลดลง -20.50 จุด เปลี่ยนแปลง -0.09% มูลค่าการซื้อขาย 85.95 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (หรือ 11.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ดัชนีหุ้นออลออดินารีส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (30 ก.ย.2553) ที่ระดับ 4,636.90 จุด ปรับลดลง -57.10 จุด เปลี่ยนแปลง -1.23%
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามาเทขาย นอกจากนี้ รายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลงของญี่ปุ่น ยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลงด้วย โดยดัชนีนิกเกอิปิดร่วงลง 190.03 จุด หรือ 1.99% แตะที่ 9,369.35 จุด
เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบรรยากาศการซื้อขาย โดยนักลงทุนเทขายหลังจากดอลลาร์ดิ่งลงสู่ระดับ 83 เยนเศษๆ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ทางการญี่ปุ่นได้เข้ามาแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังถูกกดดันหลังจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และ อุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศลดลง 0.3% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับตัวเลขเดือนกรกฎาคม และเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำนักข่าวเกียวโดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1%
บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF ผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งและบรรจุกระป๋องรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2553 มีมติให้จัดสรรกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือนคือ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2553 – วันที่ 30 กันยายน 2553 เป็นเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.26 บาทโดยไม่ต้องเสียภาษี เพราะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีจากการส่งเสริมการลงทุน
สำหรับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดพิเศษนี้ เนื่องจากบัตรส่งเสริมการลงทุน 1 ฉบับที่จะหมดอายุลงในวันที่ 21 ตุลาคม 2553 ซึ่งถ้าจ่ายตามงวดปกติ (1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 2553) จะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีจากบัตรส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว และเพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์จากบัตรส่งเสริมการลงทุนที่จะหมดไป คณะกรรมการบริษัทจึงขออนุมัติจากที่ประชุมฯ สำหรับการจ่ายปันผลงวดพิเศษนี้
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผลในวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม 2553 นี้
ดัชนีคอมโพสิต (KOSPI) เกาหลีใต้ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (30 ก.ย.2553) ที่ระดับ 1,872.81 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 6.36 จุด คิดเป็น 0.34% มีปริมาณการซื้อขายที่ 347.2 ล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขาย 6.2 ล้านล้านวอน โดยได้รับปัจจัยหนุนของนักลงทุนต่างชาติที่ส่งแรงซื้อเข้ามาในตลาด ซึ่งช่วยชดเชยแรงเทขายทำกำไรได้
ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดในวันนี้ (30 ก.ย.) ปรับตัวลงเล็กน้อย 3.11 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ระดับ 8,237.78 จุด หลังหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง ขณะที่นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอดูผลการประชุมเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางไต้หวัน
น.ส.โสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. จะลงทุนสินทรัพย์ใหม่ ๆ มากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะสินค้าโภค ภัณฑ์ อาทิ น้ำมัน ทองคำ และสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อให้ผลตอบแทนจากการลงทุนอิงกับอัตราเงินเฟ้อ หลังที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจ ยัง มีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กบข.อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อเปิดทางให้ลงทุนสินค้าประเภทโภคภัณฑ์ ซึ่งหากได้ รับการอนุมัติ คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ในปีหน้า เพราะสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะออกตราสารดังกล่าวในปีหน้า โดย กบข. จะลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟ
ทั้งนี้ กบข. ลงทุนในตราสารหนี้สัดส่วน 60% และตราสารทางเลือกอื่นอีก 40% ซึ่งยอมรับว่าในช่วงที่กระแสเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยส่งผลให้ กบข. ต้องปรับพอร์ตการลงทุนบ้าง เล็กน้อย โดยมีสัดส่วนลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากช่วงต้นปีที่มีสัดส่วนลงทุน 9% ส่วนหนึ่งเป็น ผลจากราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้น และ กบข. ได้เทขายทำกำไรเป็นบางส่วน ส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นมากกว่า 20% จากการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 30% ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนโดยรวมของ กบข. ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 6.5% ส่วนทั้งปีต้องติดตามต่อไป
ล่าสุด กบข. ได้ร่วมมือกับสวนสยาม มอบส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก กบข. ที่มีอยู่กว่า 1.2 ล้านคนทั่วประเทศแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ บัตรเที่ยว 1 วัน และบัตรเที่ยวรายปี หลังก่อนหน้านี้ได้ร่วม มือกับซาฟารีเวิลด์ และภูเก็ตแฟนตาซี จัดส่วนลดพิเศษให้กับสมาชิก กบข. และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงเช้าวันนี้(30 ก.ย. 2553) ดัชนีปิดที่ 974.13 เพิ่มขึ้น 4.48 หรือ 0.46 % มูลค่าการซื้อขาย 18,167.42 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,197.90 ล้านบาท ปิดที่ 720.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,097.24 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 705.00 ล้านบาท ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
TCAP มูลค่าการซื้อขาย 690.61 ล้านบาท ปิดที่ 41.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงเช้าวันนี้(29 ก.ย. 2553) ดัชนีปิดที่ 974.13 เพิ่มขึ้น 4.48 หรือ 0.46 % มูลค่าการซื้อขาย 18,167.42 ล้านบาท
ดัชนีนิกเกอิ 225 ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดทำการซื้อขายภาคเช้าวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.2553) ที่ระดับ 9,494.67 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 64.71 จุด เปลี่ยนแปลง 0.68%
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวานนี้(29ก.ย.) ลดลง 22.86 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,858.14 จุด แนสแดก ลดลง 3.03 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,376.56 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.97 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,144.73 จุด
ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ดัชนีสเตรทไทม์ปิดตลาดวันพุธ (29 ก.ย. 53) ที่ระดับ 3,106.03 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 8.68 จุด เปลี่ยนแปลง 0.28%
การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้(29ก.ย.) ดัชนีปิดที่ระดับ 969.65 จุด เพิ่มขึ้น 10.38 จุด (+1.08%) มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 41,640.59 ล้านบาท
ราคาทองคำ ตลาดค้าทองฮ่องกงปิดตลาดวันพุธ (29 ก.ย. 53) ที่ระดับ 1,310.00-1,311.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาปรับเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (28 ก.ย. 53) ที่ระดับ 1,287.00-1,288.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ตลาดทองฮ่องกงเปิดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1,293.00-1,294.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนในวันนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากมีการซื้อหุ้นที่มีน้ำหนักมากในตลาดเพื่อเก็งกำไร รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 268.72 จุด หรือ 1.22% ปิดที่ 22,378.67 จุด มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้สู่ระดับ 8.535 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ดัชนีนิกเกอิ 225 ตลาดโตเกียวปิดตลาดวันพุธ (29 ก.ย.2553) อยู่ที่ระดับ 9,559.38 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 63.62 จุด เปลี่ยนแปลง 0.67%
นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารกลางในเอเชียค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากเป็นการแข็งค่าที่เร็วเกินไป
สำหรับ ค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันแข็งค่า 9% ขณะที่ค่าความผันผวนอยู่ที่ 3%
ส่วน การแข็งค่าของค่าเงินในภูมิภาคมาจากสาเหตุที่เศรษฐกิจในกลุ่ม จี3 อ่อนตัวลงอีก ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนโยกเข้ามา ประกอบกับ เศรษฐกิจสหรัฐ ล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่ดี ประกอบกับ ราคาบ้านตกต่ำอีกรอบหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ต่ำอีกนาน เห็นได้จากราคาทองคำ เงินยูโร แข็งค่าขึ้นจากเดิมที่ยูโรอ่อน
ดัชนีเวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวันปิดตลาดวันพุธ (29 ก.ย.2553) ที่ระดับ 8,240.89 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 51.45 จุด เปลี่ยนแปลง 0.63%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงเช้าวันนี้(29 ก.ย. 2553) ดัชนีปิดที่ 969.45 เพิ่มขึ้น 10.18 หรือ 1.06 มูลค่าการซื้อขาย 22,788.87 ล้านบาท
โดยการซื้อขาย ดัชนีแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า แตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 971.23 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 965.92 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,556.77 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BAY มูลค่าการซื้อขาย 1,356.65 ล้านบาท ปิดที่ 24.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 1,206.37 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,204.61 ล้านบาท ปิดที่ 294.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,110.23 ล้านบาท ปิดที่ 5.10 บาท ลดลง 0.05 บาท
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงเช้าวันนี้(29 ก.ย. 2553) ดัชนีปิดที่ 969.45 เพิ่มขึ้น 10.18 หรือ 1.06 มูลค่าการซื้อขาย 22,788.87 ล้านบาท
