แสดง 5126 - 5,150 จาก 32,893 ข่าว
สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง 96.5% ประจำวันอังคารที่ 21 กันยายน 2553 ทองคำแท่งรับซื้อคืนบาทละ 18,550 บาท ขายออก 18,650 บาททองรูปพรรณรับซื้อคืนบาทละ 18,282.96 บาท ขายออก 19,050 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงเทียบราคาปิดวานนี้ (20 ก.ย)
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธการลงทุน บล.เอเชียพลัส คาดว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าแกว่งตัวแดนบวกในกรอบแคบ ตามทิศทางงตลาดต่างประเทศที่บวกจึ้นมาได้ทั้งตลาดเอเชียและดาวโจนส์ แต่มูลค่าการซื้อขายคงไม่มาก ซึ่งการลงทุนจะเป็นเลือกการลงทุนเป็นรายตัวมากกกว่า อย่าง BANPU รับข่าวทางการออสเตรเลียไม่ขัดข้องการเข้าซื้อหุ้น Centennial รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น นอกจากนี้ มองว่าจะมาจากกลุ่มแบงก์บางตัวที่ปรับตัวต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ หนุนตลาดยืนในแดนบวก เพราะเป็นกลุ่มที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการลงทุนในวันนี้คงซึม ๆ เพราะส่วนใหญ่รอทั้งผลการยื่นอุทธรณ์ประมูล 3G ซึ่งศาลปกครองสูงสุดนัดฟังคำสั่งในวันที่ 23 ก.ย.นี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร รวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่จะมีการประชุมในคืนนี้ ดังนั้นจึงทำให้ตลาดหุ้นคงไปได้ไม่ไกล แต่อาจมีแรงเก็งกำไรในหุ้นรายตัวนอกเหนือจากแบงก์และพลังงานแล้ว กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และนิคมอุตสาหกรรม น่าจะได้รับความสนใจด้วยจากการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนเป็นจำนวนมาก รวมถึงหุ้นที่มีประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล พร้อมให้แนวรับ 920-925 แนวต้าน 925-930 จุด ประเด็นพิจารณาการลงทุน - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(20 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,753.62 จุด เพิ่มขึ้น 145.77 จุด(+1.37%)เอส แอนด์พี 500 ปิดที่ 1,142.71 จุด เพิ่มขึ้น 17.12 จุด(+1.52%) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,355.83 จุด เพิ่มขึ้น 40.22 จุด(+1.74%) - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,659.70 ล้านบาทเมื่อ 20 ก.ย.53 - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 74.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ - "รมว.คลัง" นัดหารือ ธปท.วันนี้ ออกมาตรการควบคุมพันธบัตรระยะสั้น หวังสกัดเงินนอกเก็งกำไร ด้าน ธปท.เร่งปลดล็อกเอกชนไปลงทุนต่างประเทศ คาดออกประกาศใช้มาตรการในสัปดาห์นี้ ย้ำไม่ใช่มาตรการควบคุมค่าเงินบาท ขณะที่ดัชนีค่าเงินเอเชียทะยานแข็งค่ารอบ 2 ปี - "รมว.คลัง" เตรียมหนุน "กสท-ทีโอที" แปลงสัญญาสัมปทานจาก 2 จีเป็น 3 จี บนคลื่นความถี่เดิม ระบุ เป็นแผนสำรองกรณีที่การเปิดประมูล 3จี ต้องชะงักลง ด้าน กทช.รอฟังคำสั่งศาลปกครองสูงสุด 23 ก.ย. เผยหากศาลยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราว พร้อมเดินหน้าประมูล 3จีทันที 25 ก.ย. ศาลสั่ง กสท หาหลักฐานคัดค้านคำอุทธรณ์ของ กทช.เพิ่ม นัดใหม่ 23 ก.ย. "จิรายุทธ" ยันคิดดีแล้วถึงฟ้องเพราะเป็นสิ่งถูกต้อง ขณะ ปธ.บอร์ด กสท ปฏิเสธลาออก ลั่นหนุนแนวคิดฝ่ายบริหาร "จุติ" ขอยอมรับผิดคนเดียว - ธปท. ออกประกาศหนุน ลงทุนนอก 30 ก.ย. ย้ำไมมีมาตรการพิเศษ ค่าเงินบาทเริ่มนิ่ง ขณะที่ดัชนีค่าเงินบาทเริ่มนิ่ง ขณะที่ดัชนีค่าเงินเอเชียแข็งค่ารอบ 2 ปี - "ผู้ว่า ธปท." เผย ธปท.-แบงก์พาณิชย์ เห็นพ้องหั่นค่าธรรมเนียมโอนเงินข้ามเขต พร้อมประกาศใช้ทันทีหลังศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเสร็จ อ้างเพื่อความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมผ่อนปรนหลักเกณฑ์แบงก์ใช้ "เอาท์ซอร์ส" เพิ่มเติม ครอบคลุมพิการสินเชื่อ และหาลูกค้าใหม่ หวังเพิ่มขีดแข่งขัน ตลอดจนการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด - ททท.หารือเอกชนท่องเที่ยว ระบุ 3 ปัจจัย กระทบท่องเที่ยว การเมือง เศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติเตรียมใช้ ศวก.เป็นศูนย์ปฏิบัติงาน ปรับการทำงานให้กระชับพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ คุย 8 เดือนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปแล้ว 10 ล้านคน เพิ่ม 13% มั่นใจถึงสิ้นปีเกินเป้าแตะ 15 ล้านคนเกินเป้าหมาย ด้านแอตตาชี้ แดงป่วนเมืองเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทบตลาดญี่ปุ่นซึมยาวต่อเนื่อง ส่วนค่าบาทแข็งยังไม่ระคาย เฟสตาเสนอตั้งกองทุน 1 หมื่นล้าน ใช้แก้วิกฤตท่องเที่ยว
นักบริหารเงิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 30.73/75 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วงเช้า โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวลงไปทำ Low ที่ระดับ 30.70 บาท/ดอลลาร์ในช่วงสายของวันนี้ หลังจากนั้นก็อ่อนค่าลงเรื่อยๆ ไปทำ High ที่ระดับ 30.73 บาท/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินสกุลหลักที่สำคัญ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงเช้า เนื่องจากช่วงนี้ยังไม่มีประเด็นอะไรใหม่เข้ามา โดยเมื่อช่วงเช้าค่าเงินเยนอยู่ที่ 85.72/75 เยน/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินยูโร ก็ทรงตัวจากช่วงเช้าเช่นกัน โดยในช่วงเช้าค่าเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3075/3080 ดอลลาร์/ยูโร สำหรับแนวโน้มการคเลื่อนไหวค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) คาดว่า จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆที่ 30.70-30.90 บาท/ดอลลาร์
ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดวันนี้(20ก.ย.)ที่ 3,080.98 จุด บวก 4.61 จุด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีมติให้ตรึงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ไว้ที่ร้อยละ 0.00-0.25 ตามเดิมในการประชุมรอบที่ 6 ของปีในวันที่ 21 กันยายน 2553 ทั้งนี้ ภายใต้ภาวะที่เครื่องชี้เศรษฐกิจหลักของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอัตราการว่างงาน ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ประกอบกับแรงกดดันเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำและยังเอื้อต่อการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย คาดว่าจะทำให้เฟดยังมีความยืดหยุ่นในการยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำอย่างต่อเนื่องต่อไปจนถึงช่วงกลางปี 2554 เป็นอย่างน้อย ขณะที่ แม้ว่ามติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะเป็นที่คาดหมายล่วงหน้าแล้ว แต่ตลาดการเงินทั้งในและต่างประเทศคงจะจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมซึ่งจะบ่งชี้ว่าเฟดมีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯในเชิงบวกหรือลบมากน้อยเพียงใดอย่างใกล้ชิด สำหรับมาตรการผ่อนคลายสภาพคล่องเพิ่มเติมนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า เฟดอาจเลือกที่จะยังไม่ประกาศใช้มาตรการเสริมสภาพคล่องอีกในระยะใกล้ หลังจากที่เพิ่งดำเนินการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อรักษาขนาดงบดุลให้คงที่ไปในการประชุมรอบที่แล้ว โดยเฟดน่าจะรอดูพัฒนาการของเครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญต่อไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี เฟดคงระบุว่าพร้อมที่จะดำเนินการผ่านเครื่องมือด้านต่างๆ เมื่อถึงคราวที่จำเป็นในอนาคตต่อไป ส่วน ผลกระทบต่อไทยนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า กระแสเงินทุนต่างประเทศที่ยังมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง (หลังการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังของสหรัฐฯเป็นไปในลักษณะที่ผ่อนคลายอย่างมากแล้ว ซึ่งทางการสหรัฐฯอาจเริ่มเผชิญข้อจำกัดมากขึ้นหากจะดำเนินการเพิ่มเติมอีก) จะยังเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับทางการไทย เพราะนอกจากการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทแล้ว การดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยในระยะที่เหลือของปีนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) คงจะต้องชั่งน้ำหนักความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมถึงประเด็นค่าเงินบาทที่มีผลต่อความเสี่ยงทั้งสองด้านผ่านทางการส่งออกและแรงกดดันด้านราคาสินค้าที่อาจมีแนวโน้มชะลอลง ตลอดจนผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดเงินและตลาดทุนไทยอีกด้วย
ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดตลาดในวันนี้ (20 ก.ย.)เพิ่มขึ้น 28.63 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ระดับ 8,186.96 จุด หลังจากที่ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นำโดยหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยว
การซื้อขายในตลาดหุ้นออสเตรเลียวันนี้(20ก.ย.) ดัชนีออลออดินารีส์ ปิดตลาด ที่ระดับ 4,677.10 จุด ปรับลดลง 7.96 จุด เปลี่ยนแปลง -0.17%
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ยืนยันว่า หากศาลปกครองสูงสุดมีสั่งยกเลิกคำสั่งระงับประมูลใบอนุญาต 3G กทช.ก็มีความพร้อมจะเปิดประมูลภายใน 2 วันคือวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งถือว่า ยังอยู่ในกำหนดเดิมของกรอบเวลาการประมูล 20-28 ก.ย.53 และคาดว่าจะออกใบอนุญาตได้ภายในกลางเดือน พ.ย. แต่อย่างไรก็ตาม หากศาลฯ มีคำสั่งยืนคำสั่งยกเลิกประมูล กทช.ก็พร้อมน้อมรับและจะทำตามคำสั่งศาล อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กทช.ดำเนินการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและปฏิบัติตามกติกาของสังคม โดย มีผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมประมูลทั้ง 3 ราย รับทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว และเตรียมเข้าร่วมประมูลตลอดเวลา ขณะนี้จึงทำได้เพียงรอคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดเท่านั้น ส่วนการที่ กรรมการ กทช.3 คนจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 ก.ย.นี้ พ.อ.นที กล่าวว่า กทช.ไม่มีความกังวล เพราะตามกฎระเบียบของ กทช. กรรมการทั้ง 3 สามารถรักษาการในตำแหน่งต่อไปได้จนกว่าจะมีผู้เข้ามาทำหน้าที่แทน ด้าน นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการภาคประชาชนในการออกใบอนุญาต 3G กล่าวว่า หากการประมูลรอบนี้ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้จนกว่าจะมีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก็คาดว่าการประมูลครั้งใหม่จะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี ไม่ใช่แค่ 90 วันตามที่ผู้คาดการณ์ เนื่องจากการจัดตั้ง กสทช.ยังมีขั้นตอนตามกฎหมายถึง 7 ขั้นตอนในการดำเนินการ
พลเรือเอกแธ็ด อัลเลน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบในเหตุการณ์บ่อน้ำมันของบริษัทบีพีที่เกิดรูรั่วจากเหตุแท่นขุดเจาะน้ำมันระเบิด จนทำให้น้ำมันรั่วไหลนอกอ่าวเม็กซิโก เปิดเผยว่า การทดสอบการรับน้ำหนักและแรงดันของซีเมนต์ที่อัดฉีดลงไปปิดปากบ่อน้ำมันที่รั่วไหลก้นอ่าวเม็กซิโกเสร็จสิ้นลงแล้ว โดยพบว่า ซีเมนต์ที่ปิดปากบ่อมีความแข็งแรงพอ ทำให้ประกาศได้ว่าบ่อน้ำมันแห่งนี้ถูกปิดอย่างถาวร และไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการรั่วไหลของน้ำมันอีก ขณะที่ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ กล่าวแสดงความยินดีกับข่าวนี้ และยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมเดินหน้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วต่อไป
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประมูลซื้อกิจการห้างคาร์ฟูร์รอบที่ 2 คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งทาง ปตท.ก็เตรียมยื่นเสนอแผนธุรกิจและข้อเสนอด้านราคาในการประมูลรอบดังกล่าว จากนั้นจะเริ่มการเจรจาอย่างจริงจัง ส่วนการเปิดเดินเครื่องโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 6 ของ ปตท.นั้น ขณะนี้ขึ้นอยู่กับว่าทางภาครัฐจะให้ใบอนุญาตเมื่อใด ซึ่งหากได้รับใบอนุญาตแล้ว ก็คาดว่าจะต้องใช้เวลาทดสอบระบบอีกประมาณ 1-2 เดือน และน่าจะเดินเครื่องผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปลายปีนี้
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,993.25 จุด บวก 22.39 จุด
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ค 1,279.63 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.03 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 0.32% ffpราคาแกว่งตัวในกรอบ 1,274 - 1,279 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ตลาดทองฮ่องกง เปิดตลาดวันจันทร์ (20 ก.ย.2553) ที่ระดับ 1,276.50-1,277.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาปรับลดลง เมื่อเทียบกับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.2553) ที่ระดับ 1,281.50-1,282.50 ดอลลาร์/ออนซ์
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ที่สุดของไทย คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิของธนาคารในปีนี้ จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว และสินเชื่อที่คาดว่าจะขยายตัวใน ระดับสูงสุดยรวมทั้งมีการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นธนาคารสินเอเซีย(ACL) ด้วย เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ BBL มีกำไรสุทธิ 2.08 หมื่นล้านบาท ส่วนอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 7% และขยายตัวต่อเนื่องอีก 4% ในปีหน้า ขณะที่มองสินเชื่อของธนาคารในปีนี้จะเติบโต 6% จากเป้าหมายที่ 4-6% ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพ พร้อมเตรียมรุกตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ จาก ปัจจุบันที่เน้นในกลุ่มบริษัท และธุรกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) ขณะที่มองการ แข่งขันในระบบธนาคารพาณิชย์รุนแรงขึ้น จะส่งผลให้ส่วนต่างดอกเบี้ยมีแนวโน้มหดตัวลง สำหรับ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมือเทียบกับ/ดอลลาร์นั้น แม้จะยังไม่กระทบต่อผู้ส่งออก แต่เห็นด้วยที่รัฐบาลควรจะเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ราคาหุ้น BBL ปิดเมื่อวันศุกร์ อยู่ที่ 145.50 บาท
สุดยอดไนท์ไลฟ์พร้อมกัน 14 ประเทศ ครั้งแรกของโลก The Smirnoff Nightlife Exchange Project
ราคาซื้อขายทองคำที่ฮ่องกง ปิดตลาดที่ 1,280.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ทำสถิติสูงที่สุดในรอบสัปดาห์ หลังเปิดตลาดในช่วงเช้า ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ออนซ์ละ 1,244-1,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากบรรดานักลงทุนต่างหันมาสนใจตลาดทองคำ เพราะเห็นว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ทั้งปัญหาภาวะหนี้สาธารณะของประเทศในยุโรป และความเปราะบางของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ราคาทองคำอาจจะทะยานทะลุ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ภายในสิ้นปีนี้ แม้จะเชื่อว่า ราคาทองจะลดความร้อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายเพื่อทำกำไรก็ตาม
การซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้(17ก.ย.)ที่ระดับ 923.57 จุดลดลง 1.24 จุด(-0.13%) ปริมาณการซื้อขาย 5,986,703,000 หุ้น มูลค่าการซื้อขาย 42,441.72 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย TRUE ปิดที่ 5.05 บาท ลดลง 1.75 บาท ADVANC ปิดที่ 89.75 บาท ลดลง 8.25 บาท DTAC ปิดที่ 39.25 บาท ลดลง 6.25 บาท PTT ปิดที่ 286.00 บาท บวก 2.00 บาท SCB ปิดที่ 91.75 บาท ไม่ปลี่ยนแปลง
ดัชนีหั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดซื้อขายวันนี้(17 ก.ย. 53) อยู่ที่ระดับ 21,970.86 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 279.41 จุด เปลี่ยนแปลง 1.29% มูลค่าการซื้อขาย 78.85 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (หรือ 10.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วย ผู้จัดการสายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่ง คุ้มครองชั่วคราว โดยให้ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G ว่า ส่งผลกระทบทางลบต่อการ ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯไม่มากนัก โดยตลท.จะยังไม่พักซื้อขายหุ้นที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจน เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร แต่ขอให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังและติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้คณะกรรมการกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ระงับการเปิดประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ไว้ก่อน หลังจากที่บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้ยื่นฟ้องกทช. อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกทช.ได้ ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง ต่อศาลปกครองสูงสุดแล้ว ซึ่งตามแผน กทช.จะเปิดประมูลใบอนุญาตดังกล่าวในวันที่ 20 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ตลท.จะประสานงานกับกทช. เพื่อขอข้อมูลความคืบหน้าต่างๆ เรื่อง ผลการอุทธรณ์ และแนวทางในการดำเนินการต่อไป ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า การซื้อขาย ตลาดหุ้นวันนี้ สะท้อนให้เห็นว่าคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลฯ มีผลกระทบทางลบต่อการ ลงทุนในตลท.จากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง แต่ถือว่ามีผลกระทบไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนซึ่งเคยคาดหวัง ที่จะมีเทคโนโลยีใหม่ อาจจะต้องล่าช้าออกไป อาจส่งผลกระทบกับการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้อง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดวันนี้(17ก.ย.)ที่ 9,626.09 จุด บวก 116.59 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เพราะได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงและตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูว่าค่าเงินเยนจะอ่อนตัวลงไปอีกนานเท่าใด หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปีในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการอ่อนค่าของเงินเยนช่วยหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกดีดตัวขึ้น หลังจากการแข็งค่าของเงินเยนที่ช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ในตลาดต่างประเทศของบริษัทกลุ่มนี้ นอกจากนนี้ นักลงทุนเริ่มจับตาดูว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะแทรกแซงตลาดต่อไปอีกหรือไม่
การซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้(17ก.ย.)ที่ระดับ 922.13 จุดลดลง 2.68 จุด(-0.29%) ปริมาณการซื้อขาย 3,438,032,000 หุ้น มูลค่าการซื้อขาย 25,335.74 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 926.29 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 917.01 จุด ในช่วงต้นโดนแรงขายหนักจากหุ้นในกลุ่มสื่อสาร หลังศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวชะลอการเปิดประมูล 3G สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 5,248.72 ล้านบาท ปิดที่ 90.00 บาท ลดลง 8.00 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 5,220.34 ล้านบาท ปิดที่ 5.20 บาท ลดลง 1.60 บาท DTAC มูลค่าการซื้อขาย 2,368.17 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท ลดลง 6.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 770.43 ล้านบาท ปิดที่ 286.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 710.83 ล้านบาท ปิดที่ 91.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนเกี่ยวกับการที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวการประมูลใบอนุญาต 3G และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) อยู่ระหว่างพิจารณา ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่ส่งบริษัทย่อยเข้าร่วมประมูลและได้รับการประกาศชื่อจากกทช.ว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นผู้เข้าร่วมการประมูลได้ บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ลงทุนโปรดใช้ความระมัดระวังในการติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประมูลใบอนุญาต 3G ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานทางการเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวต่อไป
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มสื่อสารอย่างหนัก หลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ระงับการประมูลใบอนุญาต 3 จี ที่จะมีขึ้นในปลายสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารร่วงระนาว ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปรับตัวในแดนลบ การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อเวลา 10.53 น.ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ที่ 923.09 จุด ลดลง 1.72 จุด หรือ 0.19% มูลค่าการซื้อขาย 14,576.78 ล้านบาท TRUE อยู่ที่ 5.25 บาท ลดลง 1.55 บาท หรือ 22.79% ADVANC อยู่ที่ 90.25 บาท ลดลง 7.75 บาท หรือ 7.91% DTAC อยู่ที่ 39.75 บาท ลดลง 5.75 บาท หรื อ 12.64%
ดัชนีนิกเกอิ 225 ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดทำการซื้อขายภาคเช้าวันนี้ (17 ก.ย.2553) ที่ระดับ 9,580.56 จุด เพิ่มขึ้น 71.06 จุด เปลี่ยนแปลง 0.75%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การส่งออกของไทยไปสหภาพยุโรปเติบโตค่อนข้างดีในช่วง 7 เดือนแรกของปีตามเศรษฐกิจสหภาพยุโรปที่เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งตลาดส่งออกสำคัญของไทยในสหภาพยุโรปส่วนใหญ่เป็นประเทศเศรษฐกิจหลักของสหภาพยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสหราชอาณาจักร ขณะที่ในช่วงเวลาที่เหลือของปี คาดว่าการส่งออกของไทยไปตลาดสหภาพยุโรปอาจอ่อนแรงลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหภาพยุโรปเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจนนัก อีกทั้งยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการโดยเฉพาะกลุ่ม PIIGS ขณะที่ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรกของสหภาพยุโรปและเป็นตลาดหลักในการขับเคลื่อนภาคการส่งออกของไทยในตลาดยุโรปก็มีการคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวอาจมีแนวโน้มชะลอตัวลงในครึ่งหลังปี 2553 นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงด้านเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องและแข็งค่ากว่าเงินสกุลอื่นหลายสกุลในภูมิภาคโดยเปรียบเทียบ ก็อาจส่งผลบั่นทอนต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าส่งออกของไทยพอสมควร จึงมีความเป็นไปได้ว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไปยังตลาดสหภาพยุโรปทั้งปี 2553 อาจเพิ่มขึ้นเพียงประมาณร้อยละ 10-15 จากที่เติบโตสูงถึงร้อยละ 24.1(YoY) ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2553 โดยสินค้าส่งออกของไทยไปยุโรปที่มีแนวโน้มจะต้องเผชิญความยากลำบากในการส่งออกมากขึ้น อาทิ สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งเป็นสินค้าที่อาศัยกำลังซื้อและความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจระดับหนึ่ง ส่วนสินค้าจำเป็นกลุ่มอาหารน่าจะยังขยายตัวต่อไปได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าการแข่งขันในตลาดสหภาพยุโรปนับจากนี้ย่อมทวีความรุนแรงขึ้นแน่นอน ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรมีการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดและรูปแบบสินค้า เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดยุโรปมากขึ้น
สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำวันนี้(17ก.ย.)ดังนี้ ตามตาราง โดยราคาทองปรับเพิ่มขึ้นจากวานนี้บาทละ50บาท หลังราคาทองตลาดโลกเมื่อคืนปรับเพิ่มขึ้นไปกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำประจำวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2553 ณ เวลา 09:14:00 ทองคำ 96.5% รับซื้อ ขายออก ทองคำแท่ง 18,500 บาท 18,600 บาท ทองรูปพรรณ 18,237.48 บาท 19,000 บาท