ข่าว ข่าววันนี้ ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล พรีเมียร์ลีก ตรวจหวย ข่าวบันเทิง ฟังเพลงออนไลน์ วิเคราะห์บอล ทีวีออนไลน์

อ่านข่าวย้อนหลัง

เมนูข่าว

การเงิน และการลงทุนทั้งหมด

แสดง 5426 - 5,450 จาก 32,894 ข่าว

บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/53

ไซด์เวย์ KGI คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันอังคารจะเคลื่อนไหวกรอบแคบ ความอึมครึมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังกดดันจิตวิทยาของหุ้นเอเชีย หลังจากตัวเลขสำรวจภาคการผลิตแถบนิวยอร์กเดือน ส.ค. ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย และเครื่องชี้ความเสี่ยง 2 ตัวจาก 3 ตัวหลักยังไม่ดีนัก กล่าวคือราคานํ้ามันซึมลง และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ร่วงสู่จุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 16 เดือน แต่ดัชนีความกลัว VIX ทรงตัวได้ ในส่วนของ SET คาดว่าจะเผชิญแรงขายจากนักลงทุนสถาบันในประเทศต่อไป เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้เล่นที่มีกำไรมาก่อนหน้านี้ และทุนต่างชาติจะเป็นผู้รับหุ้นเพื่อจำกัดความเสี่ยงทางลงของดัชนีฯ ทั้งนี้นักลงทุนสถาบันเหลือยอดซื้อสะสมไม่มากนัก (9.5 พันล้านบาทนับจากกลางเดือน เม.ย.) KGI จึงเชื่อว่า SET จะไม่ลงแรงมองช่วงนี้เป็นการพักฐาน ด้านปัจจัยในประเทศ นายกฯ อภิสิทธิ์ เซ็นคำสั่งยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดคือเชียงใหม่ เชียงราย และอุบลราชธานี แต่ยังคง พ.ร.ก. ไว้ใน 7 จังหวัดรวมทั้งกรุงเทพฯ ด้วย อย่างไรก็ดีคาดว่าจะไม่มีผลสำคัญต่อตลาดหุ้นในวันนี้ กลยุทธ์: เล่นหุ้นขนาดกลางต่อไป แนะซื้อ i) กลุ่มเติบโตสูงเช่น AMATA, HANA*, DELTA*, SAT และ STANLY และ ii) กลุ่มเศรษฐกิจในประเทศเช่น PS*, AP และ HMPRO* และวันนี้เราเริ่มแนะนำหุ้น TASCO ด้วยคำแนะนำซื้อ (เป้าหมาย 60 บ. และกำไรไตรมาส 2 แข็งแกร่งกว่าคาด ดูเพิ่มในฉบับ)ความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชันเปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำ 4 รายโดยมาจากยุโรป 2 ราย และจีน 2 ราย เพื่อเข้ามาใช้พื้นที่กว่า 200 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครจ.ชลบุรีตั้งโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปขนาดใหญ่สำหรับจำหน่ายในประเทศ และส่งออก ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ค่ายยุโรปอีก 1 รายคาดว่าจะสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้ รวมทั้งเตรียมเจรจาดึงบริษัทซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานยนต์ให้เข้ามาลงทุนในนิคมเพิ่มเติม เพื่อป้อนชิ้นส่วนและอะไหล่ให้กับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่จะเข้ามาลงทุนเพิ่มในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าสถานการณ์ที่ดีขึ้น และการกลับเข้ามาของนักลงทุน จะส่งผลให้อมตะฯ สามารถทำยอดขายที่ดินในปี 2553 ได้ตามเป้าหมาย 900 ไร่ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.00 บาท เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกได้ยื่นหนังสือต่อสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) PTT* และ SCC* ในประเด็นการจัดทำรายงานผลกระทบทางสุขภาพ (HIA) ที่ทางกลุ่มเชื่อว่าไม่ถูกต้องตามประกาศกระทรวงทรัพยากรฯจำนวน 20 โครงการ เช่น โรงแยกก๊าซฯ ที่ 6 ของ PTT โครงการผลิตโอเลฟินส์และโครงการเปลี่ยนแปลงการผลิตโอเลฟินส์ของ SCCเพราะเร่งรีบทำให้การเสนอความเห็นและข้อกังวลของประชาชนไม่ครอบคลุมทุกประเด็น รวมทั้งระยะเวลาแจ้งให้ประชาชนล่วงหน้าเนื้อหาการศึกษาไม่ครบ อย่างไรก็ดีประธานส.อ.ท. เชื่อว่าการดำเนินการของผู้ประกอบการต่างๆ ได้ดำเนินการตามกฏหมาย สอดคล้องกับ PTT และ SCC ที่เชื่อว่าการดำเนินการที่ผ่านมานั้นชอบด้วยกฏหมาย อย่างไรก็ดีในส่วนของ PTT ระบุว่าจะมีการจัดให้มีการประชุมกับชุมชนอีกครั้งเกี่ยวกับขั้นตอนการก่อสร้างของบริษัท บมจ. โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป ประเมินกำไรสุทธิปี 2553 ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท สอดคล้องกับประมาณการกำไรสุทธิปี 2553 ของเราที่ 400 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่อาศัยและสำนักงานที่คิดเป็นสัดส่วนรวมกว่า 74% ของรายได้รวม ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนให้งานในมือปัจจุบันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1 พันล้านบาท ทั้งนี้ กำไรดังกล่าว รวมกำไรพิเศษจากการขายตึกที่เอกมัยและหุ้นในบริษัท IMC มูลค่ารวมกว่า 56 ล้านบาท ที่ประชุม ครม. เมื่อวันจันทร์มีมติให้ปฎิรูประบบเงินเดือนข้าราชการ โดยให้ปรับเงินเดือนแรกบรรจุให้ใกล้เคียงเอกชนมากขึ้น และยังให้ทยอยปรับเงินเดือนทุกตำแหน่งให้เท่าเอกชนภายใน 5 ปี และต่ออายุราชการของข้าราชการสายวิชาการอีก 10 ปี นอกจากนี้ ครม. ยังระบุว่าน่าจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก่อนเดือน เม.ย. 2554 โดยน่าจะมีการปรับขึ้นไปเป็น 250 บาทต่อวัน ซึ่งทั้งหมดในข่าวนี้จะส่งผลดีต่อการบริโภคส่วนบุคคลและหุ้นที่เกี่ยวข้องเช่นกลุ่มค้าปลีก เป็นต้น                

48 0

บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/53

Market Recap and Trend: SET แข็งแกร่งกว่าที่เราคาดไว้ จากแรงซื้อหุ้น PTT ที่มีผลการดำเนินงาน 2Q53 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ด้วยแรงซื้อหุ้นใหญ่อย่าง PTT ที่มีผลการดำเนินงาน 2Q53 ออกมาดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ SET ปรับลดลงเล็กน้อย 0.19% ปิดตลาดที่ 860.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 27,573 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 399 ล้านบาท สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในรูปแบบ Sideways โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องยังเป็นปัจจัยหนุนการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศต่อไป โดยล่าสุดค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 31.77 บาท/ดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นจำต่ำสุดตั้งแต่ต้นปี 2551 และจะเป็นปัจจัยหนุนทำให้ Downside Risk ของ SET มีไม่มากนัก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเรายังแนะนำให้นักลงทุนใช้ความระวังมากขึ้นในการลงทุนช่วงนี้หลังจากที่ SET ปรับสูงขึ้นแรงกว่า 20% ในช่วง 2.5 เดือนInvestment Strategy: แม้ SET จะแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังต้องระวังต่อเนื่อง...คงกลยุทธ์ Trailing Stop ไว้ที่ 560 จุด ต่อเนื่อง แม้ว่า SET จะแข็งแกร่งกว่าที่เราคาดการณ์ไว้จากแรงซื้อหุ้นใหญ่อย่าง PTT, CPALL, และ THAI อย่างไรก็ตามเรายังแนะนำให้นักลงทุนใช้กลยุทธ์ Trailing Stop ที่ 860 จุด เพื่อจำกัดความเสี่ยงจากการพักฐานต่อเนื่อง เนื่องจาก SET มีความเสี่ยงจากการพักฐานไปที่ระดับ 840 จุด และ 810 จุด ตามลำดับ (พร้อมลดพอร์ตเหลือ 60% ในกรณีที่ SET ปิดตลาดต่ำกว่า 860 จุด) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) SET ปรับสูงขึ้นแรงกว่า 20% ในช่วง 2.5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเรามองว่าเป็นการตอบรับปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงาน 2Q53 ที่ออกมาดีไปบ้างแล้ว และอยู่ในภาวะ Overbought ทางเทคนิค 2) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัว ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นโลก 3) ค่าเงินดอลลาร์ฯที่กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ถือว่าเป็นปัจจัยลบต่อแนวโน้มการไหลของเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก (แม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องก็ตาม)...สำหรับกลุ่มหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ หุ้นกลุ่มพาณิชย์ อย่าง CPALL,MAKRO, ROBINS, HMPRO ที่ได้รับผลดีจากนโยบายการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งส่งผลทำให้มีความสามารในการใช้จ่ายมากขึ้นFutures Strategy : แนะนำ เปิด/ถือ สถานะ Short โดยมี Trailing Stop ที่ 582 จุด (ดูรายละเอียดใน Derivative Strategy)AUTO : เพิ่ม CPALL เข้ามาในกลุ่มหุ้น Top PicksRecommended Portfolio: พอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทน -0.2% ดีกว่าอัตราผลตอบแทน SET ที่ -1.5% (Update วันที่ 16 ส.ค. 53) พอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทน -0.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ SET มีอัตราผลตอบแทน -1.5% หรือพอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า SET อยู่ 1.3% ในขณะที่ถ้าพิจารณาตั้งแต่จัดทำพอร์ตจำลอง (ก.ย. 49) มีอัตราผลตอบแทน +209% ดีกว่าตลาดที่ให้อัตราผลตอบแทน +22.9% อยู่ 151% โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา CPALL เป็นหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนสูงที่สุดในพอร์ตหรือมีอัตราผลตอบแทน +1.6%…สำหรับสัปดาห์นี้ถือหุ้นทั้ง 4 ตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ได้แก่ STANLY (ได้รับผลดีจากอุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นตัว มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไร และมูลค่าพื้นฐาน) BBL (ได้ปรับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวโดยตรงผ่านการขยายตัวสินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียม) CPALL (การขยายสาขา และเพิ่มกำไรขั้นต้นส่งผลดีต่อผลการดำเนินงาน) ADVANC (มีปัจจัยบวกจากความชัดเจนมาขึ้นกรณีสัมปทาน 3G และเตรียมรับปันผลระหว่างกาล 3 บาท/หุ้น) ขณะที่นำ PTTCH ออกจากพอร์ตไปก่อน เนื่องจากเป็นหุ้นที่มี Beta สูงทำให้มีความเสี่ยงที่ราคาจะปรับลดลงในช่วงการพักฐานของ SET สูงตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 0.01% ขณะที่ดัชนีS&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.01% ขณะที่นักลงทุนที่คาดว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นหลังร่วงลง 4 วันต่างก็ผิดหวัง หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอมากขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัยและการผลิต ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐร่วงลงเกินคาดเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนส.ค.สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2009 ขณะที่ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์คเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค. แต่ดัชนียอดสั่งซื้อใหม่ลดลงต่ำกว่า 0 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2009 ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่บ่งชี้การชะลอตัว ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลดลง ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดลดลง15 เซนต์ หรือ 0.2% มาปิดที่ 75.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากญี่ปุ่นและสหรัฐ กระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงาน ทั้งนี้ เศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ขยายตัวเพียง 0.1% ในไตรมาส 2 ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์คเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค. แต่ก็ต่ำกว่าที่คาดไว้ ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ในทางลบต่อเศรษฐกิจหลังจากญี่ปุ่นเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนไม่สนใจข้อมูลการผลิตและตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐซึ่งบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจ โดยบรรยากาศการซื้อขายยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดเพิ่มขึ้น 20 จุดมาที่ 2488 จุด ความต้องการขนส่งสินค้าเกษตรลดลงตามปัจจัยฤดูกาล กอปรกับกองเริ่มใหม่เพิ่มเข้ามา ยังคงกดดันให้ค่าระวางเรือมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในระยะนี้ โดยภาพรวมทิศทางค่าระวางเรือจนถึงสิ้นปีนี้ยังคงถูกกดดันโดยอุปทานกองเรือใหม่ที่เพิ่มเข้ามา โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้มีกองเรือใหม่เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 12% ของ DWT เรือทั้งหมดที่มีกำหนดส่งมอบ ซึ่งหากมีการส่งมอบตามกำหนดการ จะมีจำนวนกองเรือที่เพิ่มขึ้นจนถึงปี 55คิดเป็น DWT เพิ่มขึ้นกว่า 57% ของกองเรือที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน                

13035 0

บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/53

กลยุทธ์การลงทุน คาดดัชนีหุ้นไทยยังคงปรับฐานต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะแกว่งตัวลงต่ำกว่า 850 จุด วงจรดอกเบี้ยขาขึ้น ยังเป็นปัจจัยกดดันหลักในระยะสั้น จึงแนะนำให้ปรับพอร์ตที่หุ้นขึ้นเร็วเช่นเดิม โดยให้ถือหุ้นที่เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (MINT, MAKRO) หุ้น PER/PBV ต่ำ หรือเงินปันผลสูงสำหรับงวด 1H53 (ADVANC ขึ้น XD วันนี้ 3 บาทต่อหุ้น, PHATRA, BCP, MK) หรือมีศักยภาพการเติบโต ทั้งผู้ก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน (SYNTEC, SEAFCO, CK) และให้บริการระบบขนส่งมวลชน ทั้งรถไฟฟ้าบนดิน (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (BMCL)  ความเสี่ยงตลาดหุ้นยังมีอยู่ ตราบที่การฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วยังเปราะบาง แม้ภายหลังการทำ Stress Test ไปแล้วก็ตาม แต่ตลาดหุ้นโลกยังมีความเสี่ยงจากผลกระทบของปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรป   ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุด (คิดเป็น 30% ของ GDP โลก) และมีบทบาทการค้าโลกสูงถึง 42% การตัดลดงบประมาณขาดดุลที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ต่อเนื่องไปในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า จะกดดัน GDP Growth  ยุโรปราว 3%  ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้ว อย่างสหรัฐ และญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนการค้ากับยุโรปราว 22.5% และ 11% ตามลำดับ  ทำให้ภาพ GDP Growth ของโลกในงวด 6 เดือนหลังของปีนี้ชะลอตัวลงจากงวด 1H53 และอาจจะต่อเนื่องในปี 2554 ทั้งนี้หากยึดตัวเลขจาก IMF ที่ได้ประมาณการ  GDP Growth  ในงวด 2H53 ของยุโรป และญี่ปุ่น  คาดว่าจะเฉลี่ย  0.85% และ 1.4% เทียบกับ 1.15% และ 3.4% ในงวด 1H53 ตามลำดับ โดยเฉพาะในญี่ปุ่น นักเศรษฐศาสตร์  มีความกังวลว่าภาคการส่งออกจะได้รับผลกระทบที่ชัดเจนขึ้น เพราะนอกจากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวดังกล่าวข้างต้นแล้ว  ค่าเงินเยนที่แข็งค่านานติดต่อกันกว่า 4 เดือน  รวมกว่า 10% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ เป็นปัจจัยกดดันที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐนั้น คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ IMF อาจจะปรับลดประมาณ GDP Growth ในงวด 2H53 ที่คาดการณ์ไว้เดิมว่าจะเติบโต 3.8% สูงกว่าที่ทำได้ 2.8% ในงวด 1H53 ทั้งนี้เพราะดัชนีชี้นำเศรษฐกิจหลายประการยังบ่งบอกถึงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างมาก เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านในสหรัฐ ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 17 เดือน  และดัชนีคำสั่งซื้อ ของรัฐนิวยอร์ค ที่หดตัวลงต่ำกว่าศูนย์เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี     วานนี้นักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้นเอเซียอีกราว 400 ล้านเหรียญฯ กดดันตลาดปรับฐานต่อ วานนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายทำกำไรระยะสั้นเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเอเซียอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายสุทธิราว 400 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นการขายในตลาดเกาหลีมากที่สุดราว 312 ล้านเหรียญฯ รองลงมาเป็นตลาดไต้หวันอีก 102 ล้านเหรียญฯ และขายในตลาดฟิลิปปินส์และเวียดนามเล็กน้อยราว 1 ล้านเหรียญฯ สวนทางกับตลาดหุ้นไทยและอินโดนีเซียที่ยังคงซื้อสุทธิเข้ามาราว 10 ล้านเหรียญฯ เท่ากันทั้งสองประเทศ แรงขายที่ยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง กดดันให้ค่าเงินเอเซียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงต้นสัปดาห์นี้ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ยราว 1.14% นำโดยค่าเงินวอนของเกาหลีที่อ่อนค่าสูงสุด 3.2% รองลงมาเป็นรูปีของอินเดียที่อ่อนค่าลง 1.15% ตามมาด้วยค่าเงินริงกิตของมาเลเซีย เปโซของฟิลิปปินส์ ดอลลาร์ของไต้หวัน เงินหยวนของจีน เงินอินโดนีเซีย รูเปี๊ยะ และค่าเงินเยน ที่อ่อนค่าราว 1.32-0.27% ยกเว้นเพียงค่าเงินบาท ที่ยังคงแข็งค่าราว 0.2% เนื่องจากปิดทำการในช่วงวันหยุดยาวปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวข้างต้น ฝ่ายวิจัยยังเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่นักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ตามตลาดภูมิภาค เนื่องจากตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสูงสุดในเอเซีย ขณะที่ระยะสั้นนอกจากตลาดหุ้นไทยจะขาดปัจจัยข่าวบวกใหม่ ๆ มาสนับสนุน แล้ว ยังมีประเด็นเรื่องดอกเบี้ยเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้นดังกล่าวข้างต้น  วงจรดอกเบี้ยขาขึ้น ยังกดดันตลาดหุ้นปรับฐานทั่วโลก   ดังที่เคยนำเสนอไปแล้วว่า  การประชุมคณะกรรมการการเงิน (กนง.) ในวันที่ 23 ส.ค. นี้ และถัดไปอีก 2 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ธปท.  เตรียมจะขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.5% (ครั้งแรก ปรับตัวขึ้นแล้ว 14 ครั้งเมื่อ ก.ค. 2553) ทำให้คาดหมายว่าตลอดสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยน่าจะอยู่ในช่วงพักฐานต่อเนื่องจนกว่าจะผ่านพ้นการประชุมในครั้งนี้ไป โดยคาดว่าการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ไม่น่าจะแตกต่างกับหลายประเทศที่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเทศที่นำร่องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปก่อนหน้า กล่าวคือธนาคารกลางประเทศออสเตรเลีย (RBA) ได้ขึ้นดอกเบี้ยเป็นแห่งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2552 จนปัจจุบัน 6 ครั้ง รวม 1.5% ส่งผลให้ตลาดหุ้น AOIS ติดลบราว 8% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน (ytd) น่าจะติดลบมากที่สุดในภูมิภาคนี้  ตามมาด้วยธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ขึ้นดอกเบี้ยเมื่อต้นปี 2553 รวม 2 ครั้ง 0.5% กดดันให้ดัชนี ติดลบราว 7% (ytd) ธนาคารกลางมาเลเซียขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกเมื่อต้นปี 2553 รวม 3 ครั้ง 0.75%  กดดันให้ดัชนีแกว่งตัวแต่ยังให้ผลตอบแทนเป็นบวก  7.7% (ytd) และธนาคารกลางอินเดียขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกเมื่อต้นปี 2553 รวม 3 ครั้ง ราว 1.25%  กดดันให้ดัชนีแกว่งตัวเช่นกัน แต่ยังให้ผลตอบแทนเป็นบวก  3.4% (ytd)  โดยรวมทุกตลาดให้ผลตอบแทน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเซีย ขณะที่ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงสุด 17% ใกล้เคียงกับประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงสุดในภูมิภาค  เนื่องจากประเทศไทย ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหลังสุด  ขณะที่อินโดนีเซีย ยังไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา  ปัจจัยนี้จะทำให้ตลาดหุ้นทั้ง 2 แห่งปรับฐาน โดยสรุป การขึ้นดอกเบี้ยอาจจะกดดันให้ตลาดหุ้นปรับฐาน แต่หากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นไปตามตลาดคาด และยังไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศก็น่าจะช่วยให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ในระยะต่อมา

13037 0

บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/53

หลังจากการรายงานผลประกอบการและเงินปันผลสิ้นสุดลง นักลงทุนเริ่มคอยปัจจัยใหม่ๆ คาดว่าระยะสั้น SET ยังมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบ 860 – 865 จุด กลุ่มธนาคารและกลุ่มอสังหาที่ Underperformed เมื่อเทียบกับ SET น่าเป็นจังหวะเข้าสะสมหุ้น หุ้นเด่นวันนี้ แนะนำ LH ที่นักวิเคราะห์ TNS ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น “ซื้อ” จากการขยายธุรกิจทำคอนโดฯ แนวโน้มอัตรากำไรสูงขึ้นจากการขึ้นราคาขาย KBANK แนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อสูงขึ้นหลังจากบริษัทใหญ่ในประเทศหันมาใช้เงินกู้ในประเทศแทนประเด็นสำคัญวันนี้ Overweight กลุ่มอสังหา เปลี่ยนคำแนะนำ LH เป็น “ซื้อ” แม้มาตรการภาษีจะสิ้นสุดลงแต่ธุรกิจอสังหาฯยังมีโอกาสโตต่อเนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ด้วยความหลากหลายของโครงการบ้านและคอนโด การตั้งราคาขายสามารถเพิ่มกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น การขยายเส้นทางของรถไฟฟ้าช่วยสร้างแหล่งชุมชนใหม่ และ การแข่งขันดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร ทำให้ผู้ประกอบการกลุ่มอสังหาฯยังมีช่องทางเพิ่มรายได้ครึ่งปีหลังอีก นักวิเคราะห์ TNS ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักกลุ่มอสังหาฯเป็น Overweight(มากกว่าตลาด) หุ้นเด่นยังคงเป็น PS (ราคาเป้าหมาย 30 บาท) LPN (ราคาเป้าหมาย 13 บาท) แต่ LH ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะนักวิเคราะห์ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิมให้ขาย หลังบริษัทเริ่มทำโครงการคอนโดมีเนียมเพื่อขยายตลาดและปรับราคาเป้าหมายขึ้นมากที่สุดถึง 56% เป็น 7 บาท ยังมี Upside อีก 17% KBANK ได้ประโยชน์สูงสุดจากสินเชื่อขยายตัวและการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัทขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น THAI ที่เปลี่ยนแผนมาใช้เงินกู้ยืมจากธนาคารในประเทศ 2 หมื่นล้านบาทแทนการออกหุ้นกู้ นอกจากนี้ยังมีบริษัทในกลุ่มสื่อสารที่ต้องเตรียมเงินรวมกันมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท สำหรับประมูลใบอนุญาต 3G และลงทุนโครงข่ายใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Corporate และ SMEs ทำให้แนวโน้มของการขยายตัวของสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังจะสูงขึ้นกว่าธนาคารที่เน้นสินเชื่อรายย่อยนอกจากนี้ ในวันที่ 25 ส.ค. เชื่อว่า กนง. จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% จากปัจจัยทั้งสองอย่าง เราเชื่อว่า KBANK จะได้รับประโยชน์มากที่สุดในกลุ่มสรุปภาพตลาดวานนี้ SET ปิดลบ 1.61 จุด นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย โดยตลาดหุ้นไทยจะถูกกดดันด้วยปัจจัยลบจากต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้น Blue Chip ในกลุ่มพลังงานและธนาคาร การซื้อขายเป็นลักษณะของ Sell on Fact เป็นหลัก แต่มีการเก็งกำไรหุ้นรายตัว เช่น SAMART จากความเป็นไปได้เรื่องหาพันธมิตรต่างชาติเข้าร่วมประมูลใบอนุญาต 3G และ THCOM จากการทำสัญญากับจีนและอินเดียเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับ IPSTAR DJ ซื้อขายเบาบาง รอตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ เมื่อคืน DJ ปิดลบเล็กน้อย 1.14 จุด ปิด 10,302.01 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ปัจจัยสำคัญ คือ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นที่ขยายตัวเพียง 0.1% y-y ลดลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 4.4% ในคืนนี้ สหรัฐฯจะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่อัตรากำลังการใช้การผลิต ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และ ยอดก่อสร้างใหม่ ซึ่งหากออกมาต่ำกว่าคาดอาจมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของ DJ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 0.15 US$ ปิดตลาด 75.24 US$/bbl ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.60 US$ ค่าระวางเรือ BDI ยังบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก 20 จุด

12525 0

ค่าบาทเช้านี้เปิดที่ 31.80-31.81บาท/ดอลล์

นักค้าเงินจาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) กล่าวว่า ค่าเงินบาทเช้านี้ เปิดตลาดที่ระดับ  31.80-31.81 บาทต่อดอลลาร์ โดย ณ เวลา 9.05 น. ค่าเงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ระดับ 31.75-31.76 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างวัน คาดค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า เช่นเดียวกับค่าเงินในภูมิภาคที่วันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.70-31.80บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ ให้จับตาการเข้าแทรกแซงของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท.เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาท                

26 0

บล.ซิกโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/53

แนวโน้มวันนี้ Dollar Index ได้ดีดตัวขึ้นได้ตามความคาดหมาย หลังจากที่อ่อนตัวลงมาอย่างมากที่ผ่านมาจนเกิดสัญญาณ Bullish Divergence โดยการดีดตัวขึ้นของ Dollar Index ทำให้เกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ จาก Price Pattern ของ Dollar Index (กราฟซ้ายมือ) เราเชื่อว่าการ Rebound ของ Dollar Index จนเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่นี้ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับตัวขึ้นของ Sub Wave B ของ Wave 2 โดยมีเป้าหมายเบื้องต้นของการ Rebound ในครั้งนี้อยู่ที่ 83.54 จุด และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 85.43 จุด ทั้งนี้การเกิด Daily Buy Signal ของ Dollar Index ครั้งใหม่นี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยน้ำมันดิบ NYMEX เมื่อไม่สามารถปิดตลาดเหนือ US$ 83.11/บาร์เรล ภาวะ Bullish สุดขีดของน้ำมันดิบ NYMEX จึงยังไม่เกิด อีกทั้งการเกิด Daily Buy Signal ของ Dollar Index ล่าสุดนั้นได้ส่งผลให้น้ำมันดิบ NYMEX กลับมาเกิด Daily Sell Signal แล้วเช่นกัน สำหรับ Price Pattern ของ SET Index (กราฟขวามือ) ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการ Rebound ของ Dollar Index โดยเราเชื่อว่าเป้าหมายในการปรับฐานครั้งนี้น่าจะอยู่ที่การปิด Gap ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ตรงบริเวณกรอบ 856-836 จุด เป็นอย่างน้อย กรณีเลวร้ายอาจได้เห็นการปรับฐานของ SET Index ลงมาที่เป้าหมายเบื้องต้นที่ 817 จุด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการปรับฐานของ SET Index ในครั้งนี้ก็ไม่น่าที่จะหลุด Major Uptrend Line การลงทุนในช่วงนี้จึงควรยึดการเล่นสั้นๆเป็นหลัก สำหรับหุ้นแนะนำ ได้แก่ THAI เป้าหมายสำคัญ 41.50 บาท THCOM ระยะสั้น 7.40 บาท AH เป้าหมายเบื้องต้น 16.60 บาท STEC เป้าหมายเบื้องต้น 9.20 บาท TTA ระยะสั้น 25.50 บาท และ 26.50 บาท BTS ระยะสั้น 0.95 บาท และ 0.98 บาท วันนี้ SET Index มีแนวต้านอยู่ที่ 865-869 จุด และ 872 จุด โดยมีแนวรับอยู่ที่ 857-853 จุด และ 849 จุด ตามลำดับ                

1087 0

เงินดอลลาร์เทียบเยนเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 85.28 เยน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 85.28 ยน ณ เวลา 9:46 น. ตามเวลาในกรุงโตเกียว จาก 85.32 เยนที่ปิดตลาดนิวยอร์คตลาดนิวยอร์ควานนี้ ขณะที่อัตราเเลกเปลี่ยนเงินเยนเมื่อเทียบยูโรแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 109.32  เยน/ยูโร จาก 109.44 เยน/ยูโร ขณะที่เมื่อเทียบค่าเงินยูโร เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 1.2820 ดอลลาร์/ยูโร จาก 1.2827 ดอลลาร์/ยูโรที่ปิดตลาดนิวยอร์คตลาดนิวยอร์ควานนี้

14 0

โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ เก็บหุ้น APURE เพิ่ม 0.73%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้รับแบบรายงานการได้มา หุ้นของบมจ. อกริเพียว โฮลดิ้งส์(APURE)โดย นาย โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นการได้มา  เมื่อวันที่ 11/08/2553 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น  0.73% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น  20.29% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ                

126 0

สิริรักษ์ วิไลลักษณ์ ทิ้ง SAMART 0.0089%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้รับแบบรายงานการจำหน่าย หุ้นของบมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART) โดย น.ส. สิริรักษ์ วิไลลักษณ์ ซึ่งเป็นการจำหน่าย  เมื่อวันที่ 09/08/2553 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายคิดเป็น  -0.0089% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น  34.8445% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ                

207 0

สรุปข่าวหนังสือพิมพ์แนวหน้า

ครม.ทุ่มซื้อใจขรก.ใหม่ ปรับฐานงด.เท่าเอกชน แฉสส.โลภขอขยับเกิน5% นายกฯลุยแจกบัตรลดหนี้ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติให้มีการปรับฐานระบบเงินเดือนของข้าราชการเป็นครั้งแรกให้มีความยืดหยุ่นเท่ากับเอกชน โดยเริ่มในส่วนของเงินเดือนแรกเข้าและปรับเงินเดือนแรกเข้าให้เป็นช่วงสำหรับตำแหน่งที่มีความสามารถพิเศษ รวมถึงการออกกฎก.พ. สำหรับข้าราชการที่อายุครบ 60 ปี และหน่วยงานภาครัฐ ที่ไม่ใช่การประกาศใช้ทั่วไป สามารถต่ออายุได้ แต่ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 20 ราย เช่น นายช่างกรมที่ดิน ที่ยังทำโครงการค้างอยู่'ดร.กบ'เข้าป้ายเลขาครม. 'เฉลิมพร'ม้ามืดแหกโผ แซงเต็งซิวปลัดเกษตร 'สมเกียรติ'คุมแรงงาน ศาลไม่รับร้องเพรียวพันธ์' เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นพ.มารุต มัสยวานิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.มีมติรับโอน นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ พร้อมรับโอน นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(เลขาฯครม.) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 แทน นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาฯครม.ที่ขอรับโอนไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำศธ.เต้นสั่งทุกสถาบัน ไล่ตรวจอาคารเรียน ผวาซ้ำรอย'ม.บูรพา'   จากกรณีอาคารคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา อ.เมือง จ.ชลบุรี พังถล่มลงมาขณะกำลังก่อสร้างชั้นที่2 จากจำนวน 8ชั้น ทำให้คนงานได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น'มาร์ค'การันตีงบฯผ่านฉลุย ตอกกลับภท. ห้ามต่อรองรถเมล์แลกโหวต  'ชวรัตน์'ขู่2เดือนไม่ผ่านมีปัญหา ปชป.ผวาพรบ.ร่วง-คาดโทษสส. งัดไม้แข็งโดดร่มงดส่งลงเลือกตั้ง แกนนำรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แสดงความเชื่อมั่นว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายยจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 ที่จะเข้าสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 18-19 สิงหาคม นี้ จะไม่มีปัญหาในการลงมติ แม้พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ไม่พอใจที่ถูกตีกลับโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบกับการพิจารณางบประมาณ เพราะเป็นคนละส่วนกันเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่ม3จว. กทม.อีกนาน! นายฯอ้างเป้าใหญ่แดงป่วน ดีเอสไอบุกเค้นคอ'ไอ้พล' ตู่โวยกุข่าวซัดทอด'นางก' เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรรี ได้ลงนามยกเลิกพื้นที่ประกาศใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพิ่มอีก 3 จังหวัดคือเชียงใหม่ เชียงรายและอุบลราชธานี ตามข้อเสนอของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)เขมรแถกดดันเลขาอาเซียน ลากไกล่เกลี่ยปมพระวิหาร 'อภิสิทธิ์'โต้การทูตไทยอ่อนเชิง 'วีระ'จี้ปู่ชัยถอนญัตติกรอบJBC เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ก่อนเข้าวาระการประชุม นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เปิดให้สมาชิกหารือ โดยนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหาหารือว่า เกิดความเข้าใจผิดในการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 17 สิงหาคมจะมีการนำบันทึกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) 3 ครั้ง ที่เกี่ยวกับการปักปันเขตแดนเข้าพิจารณาในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ทั้งที่ในระเบียบวาระการประชุมเป็นเรื่องเก่า เกี่ยวกับกรอบการเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา แต่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.ต่างประเทศ และกระทรวงต่างประเทศยืนยันจะนำบันทึกการประชุม เจบีซีที่เมืองเสียมราฐปี 2551 บันทึกการประชุมเจบีซีครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพฯและบันทึกการประชุมเจบีซีสมัยวิสามัญ ที่กรุงพนมเปญปี 2552 เข้าที่ประชุม ทั้งที่ยังไม่มีบรรจุเข้าระเบียบวาระ และยังไม่มีเอกสารใดๆมาถึงมือสมาชิกเบรกจับขายน้ำดื่มแพง พาณิชย์บ้อท่าถูกด่าอื้อ เลื่อนดีเดย์รอปรับใหม่ ปล่อยผีฟาสต์ฟู้ดโรงแรม แผนคุมราคาน้ำดื่มอลเวง ลูกค้า-ร้านค้าซัดกันนัว แจ้นร้องเรียนพาณิชย์ 'พรทิวา'กลับลำสั่งกรมการค้าภายในปรับแผน เลื่อนการตรวจจับออกไปอีก 2 สัปดาห์ อ้างหลายแห่งยังไม่รู้เรื่อง แถมส่อเค้าปล่อยผีฟาสฟู้ดส์ โรงภาพยนต์ รถเข็นข้างทาง ร้านอาหารเฟรนไชส์อย่างเคเอฟซี แมคโดนัล โออิชิ ฟูจิ เหตุต้นทุนแพง ส่วนฟูดคอร์ดในห้างฯ ร้านสะดวกซื้อหมดสิทธิ์คูโบต้าปักฐานผลิตในไทย ปั้นฮับส่งออกเครื่องจักรเกษตร   คูโบต้าญี่ปุ่น ทยอยถอนยวงฐานการผลิตเครื่องจักรการเกษตรมาไทย รับกระแสสินค้าเกษตรขาขึ้น บวกอานิสงค์แรงงานขาดแคลนในภาคการเกษตร ดันไทยเป็นฮับส่งออกจักรกลการเกษตรไปยังตลาดโลก กระทุ้งรายได้โตเท่าตัวแตะ 70,000 ล้าน ในปี'56บอร์ดรฟม.แทงกั๊ก ขอเช็คร่างทีโออาร์ ก่อนชี้ขาดให้ ITD รับงานสายสีน้ำเงิน   ประธานบอร์ดรฟม.รอที่ปรึกษาสรุปรายงานเสนอบอร์ด 25 สิงหาคมนี้ว่า จะเปลี่ยนผลประกวดราคารับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 1 ใหม่หรือไม่ หลังพบว่าอิตาเลี่ยนไทยเสนอราคาต่ำสุด ไม่ใช่ช.การช่างที่เคยประกาศไปคมนาคมเข็นเมล์ NGV ต่อ ระดมกึ๋นรอแจงไตรรงค์   คมนาคมถกผู้เกี่ยวข้องรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เตรียมข้อมูลชี้แจงคณะกรรมการตรวจสอบชุด 'ไตรรงค์'อีกรอบ ยันโปร่งใสหมดแล้ว พร้อมตอบทุกข้อสงสัย ยังไงก็เดินหน้าไม่หวั่นอุปสรรคเพิ่มเงื่อนไขประมูล3จี ช่วย'บรอดแบนด์'ร.ร.   กทช. บังคับผู้เข้าประมูล 3 จี เปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าถึงกลุ่มโรงเรียนด้อยโอกาส เบื้องต้นตั้งเป้า 45,000 โรงเรียนทั่วประเทศ ภายใน 5 ปี คาดภายใน 2 สัปดาห์ดันเรื่องเข้าบอร์ดเซ็งยอดขาย'แก๊สโซฮอล์'สุดอืด เล็งเลิกขาย'เบนซิน91'เร็วขึ้น1ปี หวังปริมาณใช้เอทานอลเข้าล็อก นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีเป้าหมายจะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ไม่เกิน ปลายปี 2554 เร็วกว่าแผนเดิมในปี 2555 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่จะให้มีการนำเอทานอลไปผสมในน้ำมันเบนซินเป็นแก๊สโซฮอล์ในปริมาณวันละ 9 ล้านลิตร ภายในปี 2565 ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนที่วางไว้ 15 ปี จากปัจจุบันที่มีปริมาณเพียงวันละ 1.3 ล้านลิตรเท่านั้น โดยผลของการยกเลิกจำหน่ายจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันเบนซิน 91 เหลือจากกระบวนการกลั่นน้ำมันจำนวนหนึ่ง เพราะต้องหันไปผลิตน้ำมันเบนซินพื้นฐานเพื่อรองรับการผสมเป็นแก๊สโซฮอล์ ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการกลั่นน้ำมันและต้องส่งออกน้ำมันเบนซิน 91 ที่เหลือไปจำหน่ายต่างประเทศ โดยในส่วนนี้โรงกลั่นต้องไปเตรียมพร้อม และหาแนวทางรับมือ'อมตะฯ'เนื้อหอม 4ค่ายรถบุกตั้งฐานผลิต'ซูเปอร์ไบค์' นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำ 4 ราย แบ่งเป็นจากยุโรป 2 ราย และจีน 2 ราย ซึ่งจะเข้ามาใช้พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี กว่า 200 ไร่ ตั้งโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปขนาดใหญ่ หรือซูเปอร์ไบค์ พร้อมจำหน่ายในประเทศและส่งออก นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ค่ายยุโรปอีก 1 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุป ในเร็วๆ นี้'บีโอไอ'ยันคุ้มครองอาชีพคนไทย ไม่ปล่อยต่างชาติฮุบกิจการ แม้เปิดเสรีลงทุนกับอาเซียน น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าของการจัดทำรายการข้อสงวนภายใต้ความตกลงว่าด้วยการลงทุนของอาเซียน (ASEAN Comprehensive Investment Agreement : ACIA) ว่าบีโอไอในฐานะหน่วยงานที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่สามารถแจ้งต่อที่ประชุมชาติสมาชิกอาเซียนได้ เพราะรายการข้อสงวนของไทยยังไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ที่ต้องการให้ชะลอไว้ก่อน เพื่อให้มีการพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นปตท.เตรียมรับมือเมล์NGVลุยสำรวจพื้นที่สร้างปั๊มรอ นายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน และปตท.ได้ร่วมมือกันสนับสนุนให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) เป็นพลังงานทางเลือกสำหรับรถโดยสารของ ขสมก. โดยเฉพาะโครงการเช่ารถโดยสารเอ็นจีวี 4,000 คัน ที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งปัจจุบันทั้งขสมก.และปตท.อยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของสถานที่ก่อสร้างสถานีบริการ หรือปั๊มเอ็นจีวี หลายแห่ง โดยเฉพาะที่ดินของหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งที่ดินภายในอู่ของ ขสมก.'โกลว์'โชว์ผลกำไรครึ่งแรกพรวด38%หลังลูกค้าเก่า-ใหม่แห่ซื้อไฟฟ้า-ไอน้ำ นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โกลว์พลังงาน กล่าวว่าช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 9,273 ล้านบาท และมีกำไร 2,470 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการช่วงครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 18,318 ล้านบาท และมีกำไร 5,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากยอดจำหน่ายในกลุ่มลูกค้าปัจจุบันยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่ทำสัญญาเพิ่มเริ่มซื้อพลังงานในปีนี้ ก็มีปริมาณการซื้อทยอยเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปริมาณไฟฟ้า และไอน้ำที่จำหน่ายให้กลุ่มลูกค้าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% และ 8% ตามลำดับที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า                

10012 0

สรุปข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ตื่นล้อมคอกแก๊งเจาะข้อมูล จี้สร้างความเชื่อมั่นระบบอี-แบงกิ้ง ธปท.เล็งใช้ข้อมูลยืนยันเข้าระบบ 2 ชุด นายฉิม ตันติยาสวัสดิกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายระบบข้อสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ถูกเจาะข้อมูลส่วนตัว ผ่านการทำธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ต (อี-แบงกิ้ง) และต้องสูญเงินไปจำนวนมากว่า ธปท.ได้ติดตามดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ ธปท.กำลังให้การสนับสนุนอยู่ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ธปท.อาจต้องหารือเพิ่มเติมกับธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มระบบรักษาความปลดภัยของการทำธุรกรรมผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้มากขึ้น ซึ่งแนวทางหนึ่งที่ธปท.กำลังพิจารณาอยู่คือ อาจขอให้ธนาคารพาณิชย์นำระบบการยืนยันตัวบุคคลก่อนเข้าสู่ระบบ 2 ชุดหรือที่เรียกว่าระบบทรูแฟคเตอร์ ออเทนติเคชั่นมาใช้เด็มโก้โชว์กำไรไตรมาส 2 กระฉูด นางพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/53 บริษัทมีกำไรสุทธิ 52.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 501.84% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 13.07 ล้านบาท ส่วนงวดครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 64.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,230.39% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.02 ล้านบาท เป็นผลจากการส่งมอบงานและรับรู้รายได้จากโครงการต่าง ๆ ที่ต่อเนื่องพาราไดซ์ฯเล็งผุด ศูนย์การค้าใหม่ นางชฎาทิพ จูตระกูล รองประธานกรรมการบริษัท พาราไดซ์ พาร์ค จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค ในเครือสยามพิวรรธน์ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลงทุนเปิดตัวศูนย์การค้าแห่งใหม่ในช่วงปลายปีนี้ โดยอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการทั้งหมดและจะนำรูปแบบ (โมเดล) ของศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ไปใช้ในศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย โดยบริษัทสนใจที่จะเปิดในพื้นที่ชานเมืองเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางและบนพิษม็อบถล่มทอท. ขาดทุนอ่วม นางสุภาภรณ์ บุรพกุศลศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานแผนงานและการเงิน) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/53 (เม.ย.-มิ.ย.) บริษัท และบริษัทย่อย มีผลขาดทุนสุทธิ 516.23 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 1,313.77 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ลดลงจำนวนมากโดยจำนวนผู้โดยสารลดลง 0.31% แต่เที่ยวบินเพิ่มขึ้น 5.86% และ สินค้ารวม 6 ท่าอากาศยาน เพิ่มขึ้น 31.68%อ้อนคลังลดภาษีซีเอสอาร์ นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อผลักดันให้การจัดประชุมสัมมนาในประเทศที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ถือเป็นรูปแบบการทำกิจกรรมที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (ซีเอสอาร์) สามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น มาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ เชื่อว่าหากสำเร็จจะจูงใจให้บริษัทเอกชนจัดประชุมสัมมนาในประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจได้ด้วยมาตรการคุมราคาน้ำดื่มเหลว จวกประชาสัมพันธ์อ่อน ผับ-เธค-รร.ต้นทุนแพง นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้พิจารณาทบทวนการใช้มาตรการควบคุมราคาน้ำดื่มบรรจุขวดใหม่โดยจะขยายเวลาการใช้มาตรการตรวจจับออก ไปเป็นวันที่ 1 ก.ย.นี้ แทนจากเดิมที่ตรวจจับวันที่ 16 ส.ค. รวมถึงกำหนดร้านค้าที่เข้าข่ายต้องขายตามราคาแนะนำ เนื่องจากการลงพื้นที่สำรวจตามร้านค้า และพื้นที่ขายน้ำดื่มพบ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่รู้ถึงมาตรการและราคาแนะนำ ที่กรมฯ กำหนดราคาจำหน่ายปลีก น้ำดื่มขวดพลาสติกใส (เพท) ขนาด 500-600 ซีซี ไม่เกินขวดละ 7 บาท และน้ำดื่มขวดเพทขนาด 1.5 ลิตร ไม่เกิน 14 บาทยันเศรษฐกิจปีหน้าโต 6-7% เข็นเอกชนปรับตัวรับค้าเสรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 53 ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในปี 53 จะเติบโตได้มากถึง 6-7% แน่นอน เพราะในช่วงไตรมาสแรกเศรษฐกิจไทยเติบโตสูงถึง 12% และเชื่อว่าในครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% แน่นอน โดยเศรษฐกิจไทยและเอเชียนั้นถือว่าเติบโตได้อย่างรวดเร็วและดีที่สุด และเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ซึ่งจากนี้ไปจะเกิดการแข่งขันที่รุนแรงและเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและอาเซียน ที่จะมีการเปิดเสรีตามกรอบการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนในปี 58 ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายเสรีทั้งคนแรงงาน และที่ตั้งของการผลิตสินค้า4 ค่ายตั้งรง.มอเตอร์ไซค์ฯ นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ  บริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญากับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำของโลก 4 ราย แบ่งเป็นค่ายยุโรป 2 ราย และจีน 2 ราย เพื่อเข้ามาใช้พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ โดยเป็นการตั้งโรงงานประกอบจักรยานยนต์สำเร็จรูปขนาดใหญ่ (ซุปเปอร์ ไบค์) จำหน่ายในประเทศและส่งออก เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่รวดเร็ว และมีแรงงานที่มีศักยภาพพร้อมครม.ขึ้นเงินเดือน ขรก.ใหม่! ให้มากเท่าเอกชน แก้สมองไหลตั้งเป้าใกล้กันภายใน 5 ปี อนุมัติ 60 ปีทำงานต่อสายขาดแคลน ข้าราชการใหม่ได้เฮ ครม.เห็นชอบปรับอัตราเงินเดือนแรกเข้า หวังแก้ปัญหาคนเก่งสมองไหลไปภาคเอกชนเพราะเงินเดือนสูงกว่า ตั้งเป้าเงินเดือนราชการใกล้เคียงกับเอกชนใน 5 ปี หลังจากเทียบเคียงเงินเดือนราชการต่างจากเอกชน 28-138% นอกจากนี้ยังไฟเขียวให้ข้าราชการอายุ 60 ปี ทำงานต่อไปได้ในสายงานที่ขาดแคลน ส่วนแรงงานภาคเอกชนรอปรับค่าจ้างขั้นต่ำเมษายนปีหน้าตึกม.บูรพาถล่มค้ำยันทานไม่ไหว ได้ยินเสียงลั่น สรุปยอดตาย 1 ยุติการรื้นค้นซากอาคารศึกษาศาสตร์ ม.บูรพา คนงานยันไม่มีผู้ติดอยู่ภายใน สรุปยอดตาย 1 เผยนาทีชีวิต ขณะคนงานเทปูนที่ชั้น 2 คานรับน้ำหนักไม่ไหว ก่อนเกิดเสียงดังลั่นพังถล่มลงมา เชิญวิศวกรคุมงานและหัวหน้าคนงานเค้นสอบ เผยวงเงินประมูลก่อสร้าง 237 ล้าน กำหนดส่งมอบงานกลางปี 2554 ล้อคอกตึกถล่ม รมช.ศึกษาฯ สั่งทุกมหาวิทยาลัยประสานงานคณะวิศวะ ตรวจสอบอาคารสร้างใหม่ หากไม่มีให้ประสานสนง.โยธาธิการฯซื้อตุ๊กแกตัว 2 แสน ตรังเปิดตลาดนำส่งมาเลเซีย ทำยาโรคเอดส์ 'ตุ๊กแก' ถึงคราวซวย หลังเกิดข่าวสะพัดทางภาคใต้ พ่อค้ามาเลย์กว้านซื้อราคาสูง หากตัวใหญ่น้ำหนักถึง 1 กก. จ่ายทันที 2 แสน ที่เหลือลดหลั่นกันไป อ้างนำ 'หาง' ไปสกัดยาต้านเอดส์ มะเร็ง ชาวบ้านแห่จับหารายได้เสริม ตรวจสอบเบอร์ทางเน็ต พ่อค้าหัวใสไม่ยอมให้ข้อมูล แถมแนะให้ผู้สื่อข่าวรีบจับไปขายช่วงได้ราคาดีเด้งเลขาฯครม.ดร.กบเข้าเสียบ เทือกจ้องฟันส.ส.โดดสภา ปปช.ฟ้องเองคดีดับเพลิง นายกฯ เจาะช่องเพิ่มความคล่อง โยกข้าราชการข้ามห้วย ก.พ. หอบแฟ้ม รายงาน ครม. 'เกษตร-แรงงาน' 2 กระทรวงได้ตัวปลัดใหม่ ส่วนเลขาครม.โดนเด้งไปนั่งเป็นที่ปรึกษานายกฯ โยก 'ดร.กบ.' มาเสียบแทน นายกฯชี้ความสามารถเหมาะสม ส่วน ประชุมงบปี 54 เชื่อพรรคร่วมจูบปากยกมือโหวต 'เทพเทือก' ขู่อย่าโดดร่ม 'ปู่จิ้น' ปัดอย่าโยงรถเมล์พันงบ 54 'โสภณ' วอนอย่ามองเกเร ส่วน พผ.มั่นใจมติไปทางเดียวกัน ชทพ. สั่งเช็กเชื่อเข้มห้ามเบี้ยว ศึกเก้าอี้ผู้ว่าการ สตง.ไม่สงบ 'เรืองไกร' เตรียมร้องผู้ตรวจการแผ่นดินนายกฯเดินหน้ารับล้างหนี้รอบ 2 เน้นที่ครู-ชาวนา 'มาร์ค-กรณ์' ยิ้มหน้าบาน เล็งเปิดลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบรอบ 2 ในสิ้นปี ยาหอมคราวนี้ครบวงจรทุกหนี้ ทั้งเกษตรกร ครู หนี้บัตรเครดิต แถมจะขยายผลในส่วนของไมโครไฟแนนซ์ โวรอบแรกประสบผลสำเร็จล้นหลามอนุมัติสินเชื่อไปแล้วกว่า 4 แสนราย แถมยังเปิด 'โครงการบัตรลดหนี้ วินัยดี' ให้บรรดาลูกหนี้ที่มีวินัยการเงินยอดเยี่ยม หากสามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขภายใน 1 ปี จะมีบัตรเอทีเอ็มไว้ให้กดรับวงเงินเพิ่มได้อีกผู้ปกครองขวางส่งตัวตร.จบใหม่ สู้กับโจรใต้ ส่ง 'นรต.' รุ่น 63 ลงใต้ ผู้ปกครอง ร้องทบทวนคำสั่ง ระบุตำรวจป้ายแดงไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ ใช้อาวุธขณะ รอง ผบช.รร.นรต. ยันทำตามหลักสากลเรียนดีมีสิทธิเลือกก่อน เผยคนร้องเรียนไม่มีสิทธิเลือกตำแหน่ง ด้านพ่อเมืองยะลาประกาศทำพื้นที่ให้เกิดสันติสุข ร่อน จ.ม.เปิดผนึกส่งความจริงใจถึงประชาชนยุติพรก. 3 จว. มาร์คหวงกทม.ห่วงแดงคืนชีพ นายกฯ ลงนามยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จว. 'เชียงใหม่-เชียงราย-อุบลฯ' ครม.ไฟเขียวเอาด้วย คงเหลือไว้ 7 จังหวัด แนวโน้มกทม.-ปริมณฑล ถูกลากยาวออกไปอีก 'มาร์ค' โวไม่หนักใจ เสื้อแดงจ่อประเดิมชุมนุมที่เชียงใหม่ 'บิ๊กป๊อก' แย้มยุบ ศอฉ.ต่อเมื่อเลิก พ.ร.ก.หมดแล้ว 'โฆษกเพื่อไทย' พาญาติเสื้อแดง ทวงถามความคืบหน้าเหตุสลายล็อบ 'จตุพร' จวกยับดีเอสไอ จ้องทำลาย นปช. ปูดประเด็นใหม่เลขปริศนา '161' ขณะที่ 'ธาริต' ลั่นขอทำงาน ไม่อยากตอบโต้ด้วย โวใกล้จับอีกชุดใหญ่ จากคำซัดทอดคนขับรถเสธ.แดง ส่วน 'วีระ' นำทีมแกนนำนปช. ขึ้นศาลสอบคำให้การคดีก่อการร้าย ยืนกรานปฏิเสธ หลังถูกลากเข้าไปโยงหมดทุกเรื่อง ด้านคดีแนวร่วม พธม. ขับรถพุ่งทับตำรวจช่วงปิดล้อมรัฐสภา 7 ต.ค. 51 ศาลปรานีตัดสินจำคุก 3 ปี ให้โอกาสกลับตัว โทษจำคุกให้รออาญา 2 ปี เผยจำเลยอ้างบาดเจ็บ มองไม่เห็นปรับ 1.3 แสนหนุ่มขนขยะเซ็งลี้ซีดีมือ 2 ไร้ใบอนุญาต พนักงานเก็บขยะ กทม.ดวงซวย เก็บวีซีดีหนังเก่าที่ชาวบ้านทิ้งมาตั้งแผงลอยขายแผ่นละ 20 บาท เพื่อเพิ่มรายได้ โดยไม่มีใบอนุญาต ตำรวจหัวหมากขยันสุด ๆ เจอตัวซิวเข้าคุกส่งศาล ปรับ 2 แสน รับสารภาพ ปรานีลดโทษเหลือปรับ 1.3 แสน ขณะที่เมียวิ่งเต้นกู้เงินยื่นประกันตัวอุทธรณ์สู้ เปรยยังไม่รู้จะหาเงินค่าปรับที่ไหนมาใช้หนี้ให้ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์                

1739 0

สรุปข่าวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ตุน 2 หมื่นล.อุ้ม 'บัตรลดหนี้' 'อภิสิทธิ์' ประกาศขึ้นทะเบียนรอบสองสิ้นปี'กรณ์' ระบุ 4 แสนรายได้ประโยชน์ เข้าระบบแก้หนี้จ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 1% เงินลูกหนี้เหลือ 4.8 หมื่นล้านต่อปี รัฐบาล สรุปแก้หนี้รอบแรก ยอดลูกหนี้โอนเข้าสู่ระบบ 4 แสนราย วงเงินกู้ 4 หมื่นล้านบาท พร้อมเตรียมวงเงินฉุกเฉินอีก 2 หมื่นล้านบาท ภายใต้โครงการ 'บัตรลดหนี้ มีวินัย' ด้าน 'อภิสิทธิ์' เล็งประกาศขึ้นทะเบียนรอบสองราวสิ้นปีนี้ เน้นกลุ่มเกษตรกร ครู และหนี้บัตรเครดิต 'กรณ์' ระบุประชาชนจะมีเงินเหลือในกระเป๋าสูงถึง 4.8 หมื่นล้านบาทต่อปี จากการประหยัดดอกเบี้ยจ่ายในโครงการนี้แห่ขอ 'งบปี 54' เพิ่ม 6 หมื่นล้าน อภิสิทธิ์กำชับรมต.ร่วมโหวต หน่วยงานรัฐแห่ขอแปรญัตติงบประมาณปี 2554 เพิ่มกว่า 6 หมื่นล้านบาท แต่มีงบเหลือจากที่กรรมาธิการตัดไว้เพียง 3.3 หมื่นล้านบาท เผย มหาดไทย ขอมากที่สุดคือกว่า 1.85 หมื่นล้านบาท ตามด้วย คมนาคมและศึกษาธิการ สำนักงบฯ หวั่นรายจ่ายประจำสูงเกินก่อวิกฤติงบปี 2556 จี้ รัฐบาลวางยุทธศาสตร์หยุดใช้เงินปูพรม ด้านนายกฯ กำชับรัฐมนตรีร่วมโหวตงบฯวาระ 2-3 วันที่ 18-20 ส.ค. นี้สั่งศึกษาค่าแรง 250บ./วัน ไฟเขียว 'อำพน' เลขาฯครม. 'อภิสิทธิ์' สั่งคลัง-แรงงาน ร่วมพิจารณาปรับค่าแรงขั้นต่ำ 250 บาทต่อวัน ก่อนเดือนเม.ย. ปีหน้า ขณะที่ ครม.ไฟเขียว ออกกฎขึ้นเงินเดือนข้าราชการ แต่ขีดเส้นไม่เกิน 6.7 หมื่นบาท ทุ่มงบ 200 ล้านบาท ปรับเงินเดือนแรกบรรจุข้าราชการใหม่ ยืดอายุเกษียณบางตำแหน่งเป็น 70 ปี พร้อมเด้ง 'สุรชัย' นั่งที่ปรึกษานายกฯ ดัน 'อำพน' เสียบเก้าอี้เลขาฯ ครม.แทน'เอไอเอส-ทรู-ดีแทค' ตั้งบ.ลูกร่วมชิง 3 จี ผู้ประกอบการ 5 ราย ขอซองประมูลไลเซ่น 3 จี เผย 'เอไอเอส -ดีแทค-ทรู' ตั้งบริษัทลูกเข้าชิงดำ ด้าน 'สามารถ' ทาบทามเทเลคอม มาเลเซีย ร่วมชิงชัย ขณะที่ กทช.เตรียมคลอดร่างบริการโทรคมพื้นฐานในชนบท กำกับผู้ชนะประมูลต้องให้บริการบรอดแบนด์พื้นที่ห่างไกล 5 ปี รวม 45,000 โรงเรียน ฟรี 60 เดือน แทนจ่ายค่าธรรมเนียม 4%ธปท.หวั่น 'อีแบงกิ้ง' สะดุด เล็งหารือแบงก์ใช้ระบบ 'ยืนยันตัวบุคคล 2 ชุด' เหตุประชาชนผวาใช้หลังถูกแก๊งฉกข้อมูลการเงินบนอินเทอร์เน็ตกระทบความมั่นใจใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ 'แบงก์ชาติ' ห่วง 'แก๊งแฮคเกอร์' ฉกข้อมูลการเงินบนอินเทอร์เน็ต กระทบความมั่นใจใช้ระบบเล็กทรอนิกส์ เร่งเกาะติดปัญหา เล็งนำระบบ 'การยืนยันตัวบุคคลก่อนเข้าสู่ระบบ 2 ชุด' มาใช้ เตรียมหารือธนาคารพาณิชย์ยอมรับมีต้นทุนต้องลงทุน ชี้อาจต้องชาร์จค่าธรรมเนียม พร้อมระบุบางประเทศออกกฎบังคับให้ทุกแบงก์ต้องใช้ธุรกิจตกแต่งบ้านคึกรับ 'ศก.ฟื้น' โฮมโปรเพิ่มเป้าโต ธุรกิจตกแต่งบ้านเติบโตรับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว โฮมโปรดักส์ เล็งปรับเป้ารายได้ปีนี้ขึ้น หลังจากงวดครึ่งแรกโต 18%จากเป้าทั้งปีโต 10% สรุปแผนลงทุนต่างชาติปีหน้า ด้านโมเดอร์นฟอร์ม เชื่อปีนี้โต 25% จากปีก่อน วางแผนระยะยาว 3 ปีโตเท่าตัว ประเมินเศรษฐกิจขาขึ้นอินโดรามารุกหนักซื้อกิจการ '3 ทวีป' ดันขึ้นเบอร์1โลก อินโดรามา เวนเจอร์ส เดินหน้าเจรจาซื้อโรงงานโพลีเอสเตอร์ใน 3 ทวีป 'ยุโรป-อเมริกา-เอเชีย' ต่อเนื่อง โดยประเทศจีนคาดสรุปดีลได้ภายในปีนี้ หวังก้าวสู่ผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์เบอร์หนึ่งของโลก ส่วนผลการดำเนินงานปีนี้มั่นใจรายได้เติบโต 20%'โลหะกิจ' ปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 20% เจรจาร่วมทุนอินเดียคืบหน้ากว่า 70%-สรุปต้นปี 54 สรุปแผนขายหุ้นบริษัทย่อยให้พันธมิตรเก่า 'โมรี' ภายในสิ้นเดือนนี้ โลหะกิจ เม็ททอล ปรับเป้ารายได้ปีนี้แตะ 15-20% จากเดิมคาดโต 10-15% หลังอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้น รับปากปิดดีลตั้งบริษัทร่วมทุนในอินเดียภายในไตรมาสแรกปีหน้าตามแผนศรีไทยทุ่ม 250 ล. ผลิตเมลามีนในอินเดีย ปรับแผนซื้อที่สร้างโรงงานแทนเช่า  ควบแผนร่วมทุนเดนมาร์ก เปิด รง.ฝาจุกในเวียดนาม ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ลุยเปิดโรงงาน ขยายลงทุน ทุ่ม 250 ล้านบาท ตั้งโรงงานเมลามีน 'อินเดีย'  พร้อมร่วมทุนเดนมาร์ก ผลิตฝาขวดใน เวียดนาม และเพิ่มการลงทุนในประเทศ เพิ่มไลน์ธุรกิจเป่าขวดรับดีมานด์ลูกค้ากลุ่มเครื่องดื่มขยายตัวผู้ค้าอสังหาฯ กระหน่ำส่วนลด 40% กระตุ้นซื้อบ้านเวทีโฮมบายเออร์ฯ บริษัท อสังหาฯ อัดแคมเปญกระหน่ำลด 40% หวังดึงกำลังซื้อที่อั้นในช่วงครึ่งแรกของปี ตั้งเป้า 4 วัน แสนคน คาดยอดขายกว่า 2,000 ล้านบาทขณะที่ ธารารมณ์ฯ เตรียมจังมือ บตท.เปิดช่องผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยคงที่ระยะยาวสสปน.ชงคลังปรับการประชุมสู่ซีเอสอาร์ สสปน.ผุดไอเดียใหม่ ดันการประชุมสัมมนาเข้าข่ายซีเอสอาร์ สามารถลดภาษีได้ เตรียมพบคลังเร็วๆ นี้ ล่าสุดจัดโครงการ “โดเทสติก ออน คอล” ออกโรดโชว์ 30 อาคารใหญ่นำเสนอแพ็คเกจประชุม ด้านแผนเวิลด์ เอ็กซ์โป 24 ส.ค.นี้เตรียมเสนอ 3 จังหวัดใช้จัดงานอโรม่าขยายเอซีเอรับธุรกิจกาแฟบูม 'อโรม่า' จับทิศนักลงทุนรายย่อย แห่ลงทุนเปิดร้านกาแฟระลอกใหม่ เล็งขยายสถาบันสอนพัฒนาธุรกิจกาแฟ รองรับเผยยอด ลูกค้า ฝึกอบรมเพิ่ม 50%สยามพิวรรธน์เดินหน้าลงทุนรับศก.ฟื้น 'สยามพิวรรธน์' เดินหน้าลงทุนรับเศรษฐกิจฟื้น ชุมชนขยายตัว เล็งปั้น 'พาราไดซ์ พาร์' ต้นแบบเปิดศูนย์การค้าชานเมือง พร้อมชิมลางสเปเชียลตี้สโตร์ 'บิวตี้ พาร์ค' ก่อนสยายปีก ด้านพาราไดซ์ พาร์ค ดีเดย์ทางการ 24 ส.ค.นี้ อัด 300 ล้านทำตลาดทั้งปีที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ                

568 0

ราคาน้ำมันดิบไลท์ปิดร่วง 15 เซนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกันยายน ที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 75.24 ดอลลาร์/บาร์เรล  ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.20%                

19 0

สรุปภาวะการลงทุนนอก

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ค: ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดที่ระดับ 10302.01 จุด  ลดลง 1.14 จุดหรือ -0.01%ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ค: ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดที่ระดับ 2181.87 จุด เพิ่มขึ้น 8.39 จุด หรือ 0.39%ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ค: ดัชนี S&P ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดที่ระดับ 1079.38 จุด  เพิ่มขึ้น 0.13 จุด หรือ 0.01%ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ระดับ 5276.10 จุด เพิ่มขึ้น 0.66 จุดหรือ 0.01%ภาวะตลาดหุ้นเยอรมัน : ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ระดับ 6110.57 จุด เพิ่มขึ้น 0.16 จุด หรือ 0.00% ดัชนีค่าระวางเรือ BDI   ประจำวันที่ 16 ส.ค. ที่ระดับ 2488 จุด เพิ่มขึ้น 20.00 จุด คิดเป็น 0.81%

10 0

CENTEL มั่นใจปีนี้รายได้เข้าเป้าโต 10%

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินบัญชีและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า มั่นในปีนี้รายได้จะเติบโตตามเป้าที่วางไว้ 10% เนื่องจากมองว่าธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 3 และ 4 จะเริ่มฟื้นตัวหลังจากที่สถานการณ์การเมืองคลี่คลาย และบริษัทฯ จะมีการเปิดตัวโรงแรม เซนทารา แกรนด์ ภูเก็ต ในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2553 ขณะที่ เซนทารา แกรนด์ พัทยา ถือเป็นโรงแรมที่สร้างรายได้ให้บริษัทฯ ในปีนี้เป็นอย่างมาก โดยคาดว่าปีนี้จะทำรายได้ให้บริษัทฯ 780 ล้านบาท คิดเป็น 15% ของรายได้รวม และในช่วงที่เหลือของปีบริษัทฯ มีแผนเซ็นสัญญาบริหารโรงแรมทั้งในและนอกประเทศเพิ่มเติมอีก 5 แห่ง ขณะที่ธุรกิจอาหารยังขยายตัวได้ดี โดย 7 เดือนครึ่งที่ผ่านมาเติบโต 7-8%  โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าปีนี้จะขยายสาขาของธุรกิจอาหารเพิ่มเป็น 510-511 สาขา จากสิ้นปีก่อนที่ 478 สาขา และปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาซื้อแบรนด์อาหารใหม่ 1 แบรนด์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในสิ้นปีนี้ สำหรับแนวโน้มเงินปันผลปีนี้ หากผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และ 4 ขยายตัวได้ดี อัตราการเข้าพักของธุรกิจโรงแรม 50% ขึ้นไป ก็คาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมจะยังดีกว่าปีที่แล้วมาก และน่าจะจ่ายปันผลได้มากกว่าปี 2552

1712 0

บลจ.กสิกรไทย ชวนลงทุนระยะสั้นรับดบ.ขาขึ้น

นายนคร ตามไทย ผู้บริหารฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย พร้อมเปิดขายกองทุนเปิดเค พันธบัตร 4 เดือน เอ (KGB4MA) ระหว่างวันที่ 17-23 สิงหาคม 2553 นี้ โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย 100% ระยะเวลาการลงทุนประมาณ 4 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น เพื่อรอจังหวะดอกเบี้ยที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า นายนคร กล่าวเพิ่มเติมว่า “การปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยน่าจะชัดเจนในช่วงปลายปี 2553 ต่อเนื่องไปถึงต้นปี 2554 ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น เพื่อรอจังหวะการลงทุนในช่วงเวลาดังกล่าว บลจ.กสิกรไทย จึงได้เสนอขายกองทุนเปิดเค พันธบัตร 4 เดือน เอ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ เพราะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย และให้โอกาสรับผลตอบแทนสูงถึง 1.50% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงกว่าการลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือน* ที่ให้ผลตอบแทนก่อนหักภาษี เพียง 0.84%' นายนคร กล่าวทิ้งท้ายว่าเดือนสิงหาคมถึงกันยายนนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังเตรียมตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการลงทุนระยะสั้นและมีความเสี่ยงต่ำ ด้วยการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้อายุ 6 เดือน 1 ปี และ 2 ปี เพื่อรองรับเม็ดเงินกว่า 50,000 ล้านบาท โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือ บลจ. กสิกรไทย จำกัด”

260 0

KTB มั่นใจเป้าสินเชื่อปีนี้โตทะลุ 1 แสนล้าน

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า มั่นใจว่าสินเชื่อของธนาคารในปี 2553 จะทะลุเป้าที่ 100,000 ล้านบาทตามคาด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้มีการเบิกจ่ายสินเชื่อดีขึ้น และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าในครึ่งแรกปี 2553 ที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของสินเชื่อภาครัฐ และสินเชื่อเพื่อการลงทุนภาคเอกชน โดยมองว่าธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์ ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง ขณะที่ในครึ่งปีแรกธนาคารได้มีการปล่อยสินเชื่อไปแล้วประมาณ 90,000 ล้านบาท ส่วนโครงการ 3.9G ขณะนี้ผู้ประกอบการได้เข้ามาพูดคุยกับทางธนาคาร เพื่อหารือเกี่ยวกับการขอสินเชื่อเพื่อไปลงทุนโครงการดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าน่าจะเป็นการขอสินเชื่อจากหลายธนาคารมากกว่าที่จะขอ KTB เพียงธนาคารเดียว ส่วนจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ยังไม่สามารถตอบรายละเอียดได้ สำหรับกรณีโครงการหนี้นอกระบบของรัฐบาล ขณะนี้ธนาคารมีลูกค้าในส่วนข้าราชการที่เข้าเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อประมาณ 1,000 ราย ซึ่งสาเหตุที่จำนวนรายผู้เข้าเกณฑ์การขอสินเชื่อมีจำนวนไม่มาก เพราะ KTB ติดในเรื่องกฎเกณฑ์ที่อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คือ ลูกค้าจะขอกู้ต้องมีวงเงินกู้ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ ซึ่งลูกค้าที่เป็นหนี้นอกระบบส่วนใหญ่จะมีหนี้เกินกฎเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งในส่วนลูกค้าที่ไม่เข้าเกณฑ์ ทางธนาคารจะโอนไปให้อยู่ในความดูแลของธนาคารออมสิน นายอภิศักดิ์ กล่าวต่อถึงกรณีข่าวที่มีผู้สนใจขอซื้อหุ้นบริษัท นกแอร์ จาก KTB ว่า อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งก็ยอมรับว่ามีผู้สนใจเข้ามาติดต่อ อนึ่ง KTB ถือหุ้นนกแอร์ ในสัดส่วน 10%                

14 0

TBANK ส่งแคมเปญ “ดูฟรียกครัว ทัวร์ฮ่องกงยกทีม”รุกตลาด

ธนาคารธนชาต จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ต้อนรับการแสดงไฮเทคยิ่งใหญ่ระดับโลก “Walking with Dinosaurs  “ ออกแคมเปญ “ดูฟรียกครัว ทัวร์ฮ่องกงยกทีม” มอบของรางวัลบัตรเข้าชมการแสดง และแพ็คเกจทัวร์ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์  รวมของรางวัลจำนวน 120 รางวัล  มูลค่ากว่า 1.56 ล้านบาท  ให้แก่ผู้ใช้บริการทางการเงินทั้ง ด้านเงินฝาก สินเชื่อ ของธนาคารธนชาต และนครหลวงไทย  ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2553 นายอาเจย์ มุนการ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ธนาคารฯ  มีนโยบายในการจัดกิจกรรมทางการตลาดและกิจกรรมพิเศษต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อ เป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ธนชาตและผลิตภัณฑ์ของธนาคารฯ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ของธนาคาร   โดยในระหว่างวันที่ 17 – 21 พฤศจิกายน 2553 ธนาคารธนชาต ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักการจัดโชว์ไฮเทคยิ่งใหญ่ระดับโลก “ Walking with Dinosaurs“      ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศอังกฤษเพื่อมาแสดงมอบความสุขให้กับคนไทย ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เพื่อเป็นการสร้างกระแสต้อนรับการแสดงชุดยิ่งใหญ่ดังกล่าว ธนาคารฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด  “ดูฟรียกครัว ทัวร์ฮ่องกงยกทีม”  ด้วยการมอบของรางวัล จำนวน 120 รางวัล  มูลค่า 1.56 ล้านบาท ให้แก่ผู้ใช้บริการทางการเงินของทั้งธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย  ระหว่างวันนี้ ถึง 30 กันยายน 2553  โดยของรางวัลประกอบด้วย รางวัลที่ 1 บัตรชม Walking with Dinosaurs พร้อมร่วมถ่ายภาพและสัมผัสไดโนเสาร์อย่างใกล้ชิด และแพ็คเกจทัวร์ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ 3 วัน 2 คืน 5 รางวัล รางวัลละ 4 ที่นั่ง มูลค่ารางวัลละ 128,000 บาท  รางวัลที่ 2  บัตรชม Walking with Dinosaurs พร้อมร่วมถ่ายภาพและสัมผัสไดโนเสาร์อย่างใกล้ชิด 15 รางวัล  รางวัลละ 4 ที่นั่ง  มูลค่ารางวัลละ 8,000 บาท  รางวัลที่ 3 บัตรชม Walking with Dinosaursจำนวน 100 รางวัล รางวัลละ 4 ที่นั่ง มูลค่ารางวัลละ 8,000 บาท โดยผู้ใช้บริการของธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย ที่มีสิทธิเข้าร่วมรายการส่งเสริมการตลาดดังกล่าว  ประกอบด้วย เมื่อ สมัครใช้บริการบัตรเดบิตธนาคารธนชาต 1 บัตร ได้รับ 1 สิทธิ์, มียอดเงินฝากออมทรัพย์เฉลี่ยทุกๆ 50,000 บาท รับ 1 สิทธิ์,  ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ครบทุกๆ 2,000 บาท ต่อบัตร รับ 1 สิทธิ์, สมัครใช้บริการสินเชื่อเคหะและได้รับการอนุมัติ รับ 5 สิทธิ์, มียอดเงินรวมเรียกเก็บตามใบแจ้งยอดบัญชีของบัตรสินเชื่อบุคคลธนชาต FLASH หรือมียอดเงินรวมเรียกเก็บตามใบแจ้งยอดของบัตรสินเชื่อเงินสดธนาคารนครหลวงไทย ทุก ๆ 2,000 บาท รับ 1 สิทธิ์, สมัครใช้บริการสินเชื่อรถยนต์ หรือ สินเชื่อรถแลกเงิน  และได้รับอนุมัติ รับ 5 สิทธิ์  

4409 0

YNP มั่นใจยอดขายปีนี้ทะลุเป้า 8 พันล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ YNP เปิดเผยว่า คาดการณ์ยอดขายในปี 2553 จะเติบโตกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 8 พันล้านบาท เพราะยอดคำสั่งซื้อปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ภาครัฐปรับเพิ่มยอดการผลิตรถยนต์มาอยู่ที่ 1.56 พันล้านบาท ส่วนงบในไตรมาส 2/2553 ยังอยู่ในระหว่างการปิดงบ ซึ่งน่าจะรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) เบื้องต้นประเมินว่าน่าจะดีกว่าในไตรมาส 1/2553 ที่ขาดทุนสุทธิ 385.49 ล้านบาท อนึ่ง ในวันนี้ (16 ส.ค. 2553) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 1,600,000,000 บาท เป็น 3,200,000,000 บาท รวมถึงอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญ แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (Warrants) จำนวน 800,000,000 หน่วย ให้เฉพาะแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่ได้จองซื้อหุ้นใหม่เพิ่มทุนของบริษัท

44 0

แสนสิริรุกตลาดทาวน์เฮาส์ไตรมาส 3

แสนสิริรุกตลาดทาวน์เฮาส์ไตรมาส 3/2553 เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ “ทาวน์ อเวนิว” ประเดิม 2 โครงการ “ทาวน์ อเวนิว พระราม2” และ “ทาวน์ อเวนิว ศรีนครินทร์” มูลค่ารวม1,500 ล้านบาท ชูจุดขายคอนเซ็ปต์ Redefine…The Meaning of City Living สร้างยอดขายก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกว่า 30% พร้อมราคาขายสุดพิเศษ ทาวน์ อเวนิว พระราม2 เริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท และทาวน์ อเวนิว ศรีนครินทร์ ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท นายเมธา  อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)(SIRI)เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 2553 นี้ บริษัทฯ มีแผนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบอีกประมาณ 11 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 14,400 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 11,700 ล้านบาท และโครงการทาวน์เฮาส์ประมาณ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,700 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ บริษัทฯ มีแผนรุกตลาดโครงการที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์แบรนด์ใหม่ ในชื่อ “ทาวน์ อเวนิว” 2 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการขายรวม 1,500 ล้านบาท ได้แก่ “โครงการทาวน์ อเวนิว พระราม 2” ราคาเริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท และ ”โครงการทาวน์ อเวนิว ศรีนครินทร์” ในราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงภายหลังจากเปิดตัวการขายเบื้องต้น (Pre-Visit) ในช่วงวันที่ 17 – 18 ก.ค. ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดจองซื้อแล้วกว่า 30% ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ เตรียมจัดกิจกรรมเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการทาวน์เฮาส์สไตล์ Modern ที่เน้นความเป็นส่วนตัวแบบ Privacy Cluster ใกล้ชิดธรรมชาติทุกมุมมอง ด้วยพื้นที่สีเขียวที่มีมากขึ้น “โครงการทาวน์ อเวนิว พระราม 2 และโครงการทาวน์ อเวนิว ศรีนครินทร์ เป็นแบรนด์ทาวน์เฮาส์ใหม่ล่าสุดภายใต้แนวคิด Redefine…The Meaning of City Living  ที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ ที่มีอายุในช่วง 30 ปีขึ้นไป ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ชีวิตเมืองท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดี จากแนวคิดดังกล่าว เราจึงมีการพัฒนารูปแบบการอยู่อาศัยใหม่ ที่สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว โดยนำเสนอแบบบ้านสถาปัตยกรรมสไตล์ Modern ที่บ่งบอกถึงความทันสมัย มีรสนิยม ใส่ใจทุกรายละเอียดในการอยู่อาศัย เน้นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยได้ในทุกตารางนิ้ว (Design for Maximize usage area) ประกอบกับทำเลที่ตั้งของทั้ง 2 โครงการ ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลที่ดี มีเส้นทางการคมนาคมที่สะดวกสบายมากที่สุด สิ่งเหล่านี้เราเชื่อมั่นว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทั้งสองโครงการประสบความสำเร็จและตรงใจลูกค้า” นายเมธา  กล่าว โครงการทาวน์ อเวนิว พระราม 2 ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์น ตั้งอยู่บนถนนพุทธบูชา ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนดาวคะนอง ที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง อาทิ ย่านธุรกิจสีลม สาทร พระราม 3 และสุขุมวิทได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งเส้นทางรถยนต์เชื่อมต่อเข้าสู่ตัวโครงการ อาทิ ถนนวงแหวนตะวันตกและวงแหวนใต้/ถนนสุขสวัสดิ์/ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน/ถนนจอมทอง/ถนนประชาอุทิศ/ถนนราษฎร์บูรณะ เป็นต้น เข้าสู่ถนนพระราม2 และถนนพุทธบูชาซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม2, เทสโก้โลตัส, บิ๊กซี พระราม2 และบิ๊กซี ดาวคะนอง, คาร์ฟูร์ ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ พระราม2 และคาร์ฟูร์ บางปะกอก, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา, โรงเรียนบูรณะศึกษา, โรงพยาบาลบางปะกอกอินเตอร์ และโรงพยาบาลบางมด เป็นต้น โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ จำนวนทั้งสิ้น 157 ยูนิต พร้อมสวนส่วนกลาง สวนหย่อม และ Pocket Park ระหว่างแปลง คลับเฮาส์พร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ รองรับการพักผ่อนจากทุกยูนิตในโครงการ ราคาเริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท สำหรับโครงการทาวน์ อเวนิว ศรีนครินทร์ จำนวนทั้งสิ้น 235 ยูนิต ร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ, สวนส่วนกลาง คลับเฮาส์และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ห่างจากถนนศรีนครินทร์เพียง 500 เมตร เดินทางสะดวกสบายด้วยเส้นทางการคมนาคมที่หลากหลาย อาทิ ถนนศรีนครินทร์, ถนนพระราม 9 และมอเตอร์เวย์ รวมทั้งสามารถใช้เส้นทางข้ามสะพานข้ามแยกอ่อนนุช – ศรีนครินทร์ เข้าสู่ถนนสุขุมวิท และสถานีบีทีเอสอ่อนนุชได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้ทางด่วนพระราม 9, ทางด่วนบางนา, มอเตอร์เวย์ แวดล้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์, เซ็นทรัล บางนา, พาราไดซ์ พาร์ค, โลตัส, จัสโก้และบิ๊กซี เป็นต้น รวมถึงตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษา อาทิ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ฒนาการและมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ใกล้โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลวิภาราม พัฒนาการ   สนามบินสุวรรณภูมิ, สวนหลวง ร.9, ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา บริหารโครงการหลังการขาย โดยทีมงานมืออาชีพระดับคุณภาพจาก Plus Concierge ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.99 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการ ทาวน์ อเวนิว ทั้งสองโครงการ ได้รับการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกตารางนิ้วสามารถใช้งานได้จริงและเกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 – 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 162 – 195 ตร.ม. ให้ความรู้สึกผ่อนคลายด้วยการออกแบบที่เน้นความโปร่ง โล่ง สบาย และให้แสงสว่างภายในบ้านอย่างทั่วถึง ด้วยประตู-หน้าต่างทรงสูง และระเบียงด้านหน้าบ้านทุกชั้นสามารถเปิดรับธรรมชาติโดยรอบบ้าน “บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า แนวโน้มการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ ซึ่งตั้งอยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีเส้นทางการคมนาคมที่สะดวกสบาย ยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการทาวน์ อเวนิว ทั้ง 2 โครงการและ 2 ทำเลดังกล่าวคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ทาวน์เฮาส์ใหม่ที่จะเป็นกลยุทธ์สำคัญของแสนสิริ ในการสร้างความแตกต่างของตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี” นายเมธา กล่าว

7779 0

AP โชว์ผลงานรายได้ครึ่งปีแรกรวม 8,266 ล้าน

AP เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก รายได้รวมเท่ากับ 8,266 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 1,525 ล้านบาท ภาพรวมรายได้เพิ่มขึ้นจากพอร์ตสินค้าคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมทยอยโอนต่อเนื่องมากถึง 7 โครงการ หลังทุกอย่างสงบความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มฟื้น สะท้อนได้จากยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้น มากถึง 7,000 ล้านบาท พร้อมทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีมูลค่ามากถึง 15,746 ล้านบาท เตรียมลุยเปิดตัวโครงการใหม่รวม 11 โครงการ มูลค่ารวม 22,630 ล้านบาทนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้ดีเยี่ยม โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 8,266 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ที่เกิดในช่วงไตรมาส 1 เท่ากับ 6,093 ล้านบาท และของไตรมาส 2 เท่ากับ 2,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.9% หากเทียบกับรายได้รวมครึ่งปีแรกในปีที่ผ่านมาที่เท่ากับ 5,011 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิครึ่งปีแรกเท่ากับ 1,525 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิที่เกิดในช่วงไตรมาส 1 เท่ากับ 1,239 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2  เพิ่มขึ้น 116.2% หากเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2552 ที่มีกำไรเท่ากับ 705 ล้านบาท สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นครึ่งปีแรก 2553 เท่ากับ 35.7% เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2552 เท่ากับ 33.5% สำหรับภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2553 นั้น 34% ของรายได้ทั้งหมดมาจากสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องมากถึง 7 โครงการ และที่เหลือมาจากสินค้าประเภทแนวราบ โดย 14% ของรายได้มาจากโครงการบ้านกลางเมือง Urbanion เกษตร-นวมินทร์ 2 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และ 9% มาจากโครงการบ้านกลางเมือง Urbanion พระราม 9-ลาดพร้าว ที่เปิดตัวไปเมื่อไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ความคืบหน้าด้านยอดขาย จนถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 15 สิงหาคม)  บริษัทฯ มียอดขายรวมจำนวน 6,955 ล้านบาท มาจากสินค้าแนวราบ 4,295 ล้านบาท และจากคอนโดมิเนียม 2,660 ล้านบาท โดยยอดขายทั้งหมดปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับในส่วนของบริษัทฯ เองแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ก็เริ่มในช่วงสถานการณ์ต่างๆ คงที่แล้วเช่นกัน จึงส่งให้ยอดขายรวมของบริษัทฯ อยู่ในอัตราที่น่าพึงพอใจ  ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวบ้านเดี่ยว 2 โครงการ The Centro รามอินทรา และ The Centro       รัตนาธิเบศร์ มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท เฉลี่ย 12 ยูนิตต่อเดือน ซึ่งถือว่าอยู่ในอัตราที่น่าพอใจ นอกจากนั้น ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเปิดตัวโครงการบ้านกลางกรุง สาทร มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท โดยโครงการนี้พร้อมส่งมอบและรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้  และล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวทาวน์เฮ้าส์ 3 โครงการ ได้แก่            บ้านกลางเมือง Urbanion ลาดพร้าว-เสนา ยอดขาย 37%  บ้านกลางเมือง Urbanion พระราม 3-สุขสวัสดิ์ ยอดขาย 75% และ BIZTOWN พระราม 3-สุขสวัสดิ์ (โฮมออฟฟิศ) ยอดขาย 33% “หลังจากที่เราเปิดตัวโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ส่งผลให้ยอดขายจากโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น             จาก 998 ล้านบาทในไตรมาส 1 เป็น 2,155 ล้านบาทในไตรมาส 2 และส่วนหนึ่งในไตรมาส 3 จนถึง ณ ปัจจุบัน เท่ากับ 1,423             ล้านบาท โดยยอดขายจากจากสินค้าประเภทแนวราบจะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ของบริษัทในปีนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากสินค้าแนวราบใช้เวลาเพียง 3-6 เดือนหลังจากการเปิดขายก็สามารถโอนกรรมสิทธิ์ และรับรู้รายได้อย่างรวดเร็ว โดยหลังจากนี้จนถึงสิ้นปีบริษัทฯ มีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีกจำนวนรวม 11 โครงการ มูลค่ารวม 22,630 ล้านบาท เป็นแนวราบจำนวน 6 โครงการ มูลค่า 8,830 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ  มูลค่า 13,800 ล้านบาท“ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน ( 15 สิงหาคม) บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มากถึง 15,746 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่า 2,834 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมมูลค่า 12,911 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2556

170 0

ราคาน้ำมันดิบไลท์สิงคโปร์ครึ่งเช้าเพิ่ม 34 เซนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ราคาน้ำมันดิบไลท์สัญญาส่งมอบเดือนกันยายนที่สิงคโปร์ครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 34 เซนต์ มาอยู่ที่ 75.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 1.35 เซนต์ มาอยู่ที่ 2.01 ดอลลาร์/แกลลอน ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1 เซนต์ มาอยู่ที่ 1.95 ดอลลาร์/แกลลอน และราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 0.6 เซนต์ มาอยู่ที่ 4.32 ดอลลาร์/1 พันลูกบาศก์ฟุต ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากแรงซื้อเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนยังไม่มั่นใจว่า ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ทั้ง 3 ประเทศส่งสัญญาณเชิงลบ

14 0

CEN ปลื้มไตรมาส 2 กำไรทะยาน 213%

CEN เทิร์นอะราวด์แล้ว สะท้อนจากผลงานที่ขยายตัวอย่างโดดเด่นภายหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/53 ขยายตัวถึง 213% และงวด 6 เดือนแรกปีนี้ขยายตัว 196% สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการขยายตัวที่เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทในเครือทั้ง 4 แห่ง “วุฒิชัย ลีนะบรรจง” ประเมินแนวโน้มครึ่งปีหลังธุรกิจยังสดใส พร้อมเปรยมีเซอร์ไพร์สแน่!! นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอลเอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) (CEN) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2553 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2553 ว่ามีกำไรสุทธิ 37.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 213.28% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ที่ขาดทุนสุทธิ 33.36 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนปีนี้มีกำไรสุทธิ 60.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196.08% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 63.08 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรไตรมาส 2/53 เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ เนื่องจากบริษัทมียอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 396.72 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2552 จำนวน 363.71 ล้านบาท หรือเพื่มขึ้น 9.08% ซึ่งการเพิ่มขึ้นเกิดจากการขยายตลาดรวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มของอุตสาหกรรม ที่มีการปรับตัวดีขึ้นในปี 2553 นอกจากนี้ บริษัทยังมีต้นทุนขายสินค้าและต้นทุนขายจากการรับจ้างทำของและงานโครงการ 351.62 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน ปี 2552 จำนวน 397.62 ล้านบาท หรือลดลง 11.52% เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมในการซื้อวัตถุดิบรวมทั้งการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทำให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลให้บริษัทมีการประหยัดจากขนาดการผลิต(economy of scale) ด้วยการจัดตั้งคณะทำงาน (steering committee) ที่ประกอบด้วยผู้บริหารของบริษัทในเครือที่มีความชำนาญในแต่ละสาขามาทำงานร่วมกันในภาระกิจดังกล่าว “จากความมุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับการทำงานของคณะผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯทำให้วันนี้ได้เห็นภาพที่ชัดเจนแล้วว่า CEN มีอัตราการเติบโตดีขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับภาพในอดีต ซึ่งวันนี้แตกต่างออกไป ปัจจัยพื้นฐานของ CEN เปลี่ยนแปลงไปในทุกๆด้านในทิศทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการทำกำไรของบริษัท 4 ไตรมาสติดกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้กลยุทธ์ด้านการบริหารวัตถุดิบ การเพิ่มปริมาณการผลิตและที่สำคัญคือCEN มีการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบซึ่งผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจโดยใช้วิธีติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจึงทำให้มีกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวถึง 196.08%” สำหรับบริษัทลูกทั้ง 4 แห่งในช่วงครึ่งแรกปี 2553 สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ โดย บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) สามารถผลิตสินค้าเพื่อจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ทันตามความต้องการของลูกค้า และตามแผนการดำเนินงาน บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรี จำกัด(มหาชน) ที่ผ่านมาทั้งในด้านของปริมาณขายและยอดขายมีอัตราการขยายตัวที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัวประกอบกับการบริหารต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด ก็สามารถบริหารงานอย่างน่าพอใจโดยสามารถผลิตไฟฟ้าและพลังงานความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และบริษัท ซีอีเอ็น-ไอเอ็มซี จำกัด ก็บริหารงานได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เขากล่าวต่อในช่วงท้ายถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังว่ายังคงมีแนวโน้มที่สดใสต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ขยายตัว ขณะเดียวกันบริษัทลูกทั้ง 4 แห่งมีการดำเนินงานในเชิงรุกมากขึ้น และสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ทั้งในด้านของปริมาณขายและยอดขายเพิ่มมากขึ้นควบคู่ไปกับการบริหารด้านต้นทุนวัตถุดิบให้ลดต่ำลงอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจผ่านบริษัทย่อยทั้ง 4 แห่ง ผลิตเส้นลวดแรงดึงสูงใช้ในอุตสาหกรรมโรงหล่อเสาเข็มสะพาน และตึกสูง ผลิตเสาโครงเหล็กไฟฟ้าแรงสูง เสาโทรคมนาคมโรงไฟฟ้าสถานีย่อย และโครงสร้างเหล็กทุกชนิดผลิตกระแสไฟฟ้าและความร้อนขายให้กับอุตสาหกรรมเซรามิครับบริการเจาะอุโมงค์ใต้ดินโดยไม่ต้องเปิดหน้าดิน                

25 0

TISCO คาดมาร์เก็ตเแชร์ของธุรกิจหลักทรัพย์ปีนี้อยู่ที่ 2.9%

นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)(TISCO) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจหลักทรัพย์ในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2.9% ซึ่งทรงตัวจากปัจจุบัน แม้ว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 3.0% จากการคิดส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทฯ ไม่ได้นับรวมบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เข้าไปด้วย สำหรับแนวโน้มธุรกิจ Asset Management ในส่วนของกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ (โพรวิเดนท์ฟันด์) ซึ่งต้องอาศัยขนาดของธุรกิจ ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในส่วนธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคลยังคงเน้นการเป็นผู้นำในตลาด ออกผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก                

14 0

พาณิชย์ ส่งมาตรการตรึงราคาสินค้าเข้าครม.วันนี้

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา มาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยตรึงราคาสินค้าบริโภคประเภทต่างๆ โดยให้สอดคล้องกับต้นทุนหน้าราคาโรงงานที่ผลิต รวมถึงการลดภาษีสำหรับการนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 2% เหลือ 0% ส่งผลให้ราคาอาหารเลี้ยงสุกรปรับลดลง 0.95 บาท/ถุง และทำให้ราคาสุกรปรับลดลง 8.50 บาท/กิโลกรัม พร้อมกันนี้ ยังเตรียมเสนอให้ครม.เพิ่มศูนย์การจัดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าจากเดิม 4,000 แห่งทั่วประเทศขยายเป็น 6,000 แห่ง เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนี้มีแผนที่จะเตรียมหารือกับทางคณะเจ้าหน้าที่รัฐสภาสหรัฐฯ ที่จะเดินมาเข้าพบในเร็วๆ นี้ เพื่อหารือและส่งเสริมการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ และจะมีการสอบถามความคืบหน้าในเรื่องการปฏิรูปโครงการ GSP ใหม่ พร้อมทั้งขอให้สนับสนุนการคงและคืนสิทธิ GSP แก่สินค้าไทยในบางรายการด้วย นางพรทิวา กล่าวต่อว่า วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เริ่มมาตรการควบคุมราคาน้ำดื่ม โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามห้างสรรพสินค้าและร้านโมเดิร์นเทรด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภค นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะจัดทำประชาสัมพันธ์เพื่อรณรงค์ผู้ประกอบการดูแลราคาสินค้าอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้หากผู้บริโภคพบว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าไม่เป็นธรรมสามารถแจ้งได้ที่เบอร์ 1569 ได้ทันที                

1734 0
อ่านข่าวถัดไป
Sanook.commenu