ข่าว ข่าววันนี้ ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล พรีเมียร์ลีก ตรวจหวย ข่าวบันเทิง ฟังเพลงออนไลน์ วิเคราะห์บอล ทีวีออนไลน์

อ่านข่าวย้อนหลัง

เมนูข่าว

การเงิน และการลงทุนทั้งหมด

แสดง 5476 - 5,500 จาก 32,894 ข่าว

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 11/08/53

จุดตัดสำคัญคือ 860 พอดี คาดต้องย่อไป 842 หลังการปักหัวลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ นับว่าเกิดจากเหตุผลหลายอย่างได้แก่ 1.ตลาดหุ้นในเอเชียเช่น จีนและฮ่องกง ปรับตัวลงจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ไม่สดใส ขณะที่คืนที่ผ่านมา แม้เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด แต่ตัวเลขสหรัฐฯ สะท้อนความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ 2.ผสมโรงด้วยปัจจัยปัญหาการเมืองในประเทศหลังจากคณะรัฐบาลตึงกันด้วยเรื่องการตีกลับรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันที่พรรคภูมิใจไทยนำเสนอเข้า ครม.เกิดการปะทะกันกับนายกรัฐมนตรี 3.เป็นการปรับตัวลงทางเงื่อนเวลาทางเทคนิค 4.Sell on Fact ผลประกอบการไตรมาส 2/53 ที่ประกาศออกมาแล้วเป็นส่วนใหญ่ วันนี้กลับมาตั้งหลักคิดให้ดีกับทิศทางตลาด มองวันนี้ได้เพียงช่วงสั้นก่อนหยุดยาวอีกหลายวันที่อาจมีปัจจัยต่างประเทศเข้ามากระทบได้ ตลาดหุ้นจีน ใช้ข้อคิดบางอย่างดังท่านเห็นได้ว่าแม้ทุกคนบอกว่าเศรษฐกิจของจีนสดใสเติบโตดีที่สุดในโลก แต่ตลาดหุ้นจีนนับแต่ต้นปีกลับทรุดหนักที่สุดในโลก คือ -18%รองขึ้นไปคือ ญี่ปุ่น -10% และออสเตรเลีย -6% แสดงให้เห็นถึง”ความคาดหวัง”ล่วงหน้าไปก่อน “ความเป็นจริงตามไม่ทัน” หรือหมายถึง Expectation ไปแล้วว่าดีแต่ผลปรากฎว่า ทำ Earnings ขึ้นมาได้ไม่ทัน PER สูงค้างเติ่ง ปีนี้จึงราคาหุ้นจึงค่อย ๆ ลงมาสะท้อนความเป็นจริง ขณะที่ตลาดหุ้นที่ดีที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในโลกคือ อินโดนีเซีย 21% ไทย 19% ฟิลิปปินส์ 15% ทั้ง 3 ชาติมีข้อดีที่ทุกคนรอคอยคือ Dividend Yield ดีที่สุด 3 อันดับของโลกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ครั้งนี้เรายังต้องระวัง XD Effect ไว้บ้างไม่มากก็น้อย ตามสถานการณ์ หากวันนี้หลุด 860 จุด ต้องระวัง เพราะ 1.อาจฟื้นกลับมาปิดที่ 860 จุดให้ได้ ทำให้สัปดาห์หน้าไปต่อ หรือ 2.หลุดแล้วต้องลงไปรอรับอีก 2 สเต็ปที่ 842 และ 824 จุดแต่ทั้งหมดถ้าลงทุนยาวไม่น่าหวั่น คราวนี้เลือกหุ้นตัวใหญ่ในกลุ่มธนาคารอันดับหนึ่ง พลังงาน-น้ำมัน และไฟฟ้า อันดับสอง หากวันนี้ลงรับได้บ้างบางส่วนใน Day Trade Picks ที่เลือกให้ และเราก็ยังชอบธุ รกิจไฟฟ้า หุ้นถูกไปแค่รอเวลา กรอบวันนี้ แนวรับ 855 แนวต้าน 868ปัจจัยวันนี้ ( + ) ลงทุน 3 จี ช่วงนี้มุ่ง ADVANC ตัวเดียว: ระหว่าง TRUE กับ ADVANC จากนี้ไปเลือกแต่ ADVANC อย่างเดียว TRUE ต้องระมัดระวังติด Cash Balance เพราะไตรมาส 2/53 นี้ก็จะออกมาขาดทุนประมาณ 1,300 ล้านบาท ส่วนADVANC คาดกระแสเงินสดอิสระสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท หลังหักภาระคืนเงินกู้7.3 พันล้านบาท และปันผลปกติปีละ 1.8 หมื่นล้านบาท จะเหลือประมาณ 1.4หมื่นล้านบาท หากการประมูล 3G เลื่อน หมายถึงนอกจากจ่ายปันผลปกติปีละ 6.3 บาท แล้วอาจจ่ายปันผลพิเศษได้มากถึง 4.70 บาท/หุ้น (กว่าจะรู้ว่ามีปันผลพิเศษหรือไม่ รอ ต.ค.53) แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสมรวม 3G ที่ 112 บาท ( + ) PTT: น่าจะได้ผลบวกจากการประกาศเรื่องมาบตาพุดวันที่ 23 ส.ค.53 โดยรอให้นายกฯ ลงนามในราชกิจจาฯ เป็นไปได้สูงจ่ายปันผลระหว่างกาล 5.00 บาทมากกว่า SCC ที่จ่าย 4.50 บาท ( + ) ไฟฟ้า: อีกหนึ่งโอกาสของคนที่ไม่ชอบหุ้นเสี่ยงเกินไป แนะนำให้เลือกGLOW, RATCH, EGCO ซื้อถือรับปันผลระหว่างกาลได้ และอาจรอผลดีการเปิดประมูลโรงไฟฟ้า SPP ใน ส.ค.นี้ ธุรกิจไฟฟ้าโตตามอย่างใกล้ชิดกับ GDP ที่ขยายตัวเร็ว 7% และ 5% ในปีนี้ ปีหน้า ไฟฟ้าต้องขยายมากกว่า GDP คาดว่างานนี้รัฐบาลอิดออดไม่ค่อยได้แล้ว ไฟจะไม่พอใช้ EGCO ราคาต่ำกว่า BV ที่ 99 บาท

1086 0

บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 11/08/53

SET อ่อนตัวลงตามตลาดในภูมิภาค แรงขายทำกำไรยังมาจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน แนวโน้ม SET วันนี้อาจฟื้นตัวได้แต่อยู่ในกรอบ จำกัดเพราะตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการหลายวันช่วงเทศกาลวันแม่ การรับรู้ข่าวดี (Sell on Fact) อาจทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนไปก่อน TNS ยังมองว่าเป็นโอกาสสะสมหุ้นที่มีเกราะคุ้มกันจากเงินปันผลระหว่างกาล มีแนวโน้มผลประกอบการดีช่วงครึ่งปีหลังหรือมีปัจจัยบวกในระยะสั้น หุ้นเด่นวันนี้ แนะนำ BEC แนวโน้มกำไรสูงขึ้นจากการปรับค่าโฆษณาช่วง Prime Time ขึ้นอีก 7% และ ADVANC การจัดตั้ง กสทช. ล่าช้า ทำให้ กทช. ยังมีอำนาจเต็มที่ประเด็นสำคัญวันนี้ ถ้าพรบ.คลื่นความถี่ฯไม่ผ่านเป็นกฎหมาย บวกต่อกลุ่มสื่อสาร ADVANC เด่นที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลบจากที่มีผู้ยื่นฟ้องศาลปกครองเรื่อง กทช. ไม่มีอำนาจออกใบอนุญาต ทำให้จิตวิทยาการลงทุนเสียศูนย์ไปบ้าง แต่เรื่องพรบ.คลื่นความถี่ฉบับใหม่ที่ยังไม่ได้มติร่วมจากสภาผู้แทนฯและวุฒิสภา ถ้าไม่ทันประชุมสภาสมัยนี้ พรบ.คงประกาศใช้เป็นกฎหมายไม่ทันทำให้ กสทช. จะจัดตั้งล่าช้าไปเป็นครึ่งหลังของปีหน้า ดังนั้น กทช. ยังมีอำนาจหน้าที่เต็มตามกฎหมายในการกำกับดูแลกลุ่มสื่อสารเปรียบเทียบแล้ว ADVANC เด่นที่สุด ราคาหุ้นยังมี Upside 33% (มูลค่าเหมาะสม120 บาท) แม้ว่าไม่มีเงินปันผลพิเศษในปีนี้เพราะต้องเตรียมเงินไว้สำหรับลงทุน 3Gแต่เมื่อเทียบ Dividend Yield ทั้งปี ADVABC ยังสูงสุด 6.8% vs. DTAC 4.2% BEC ปรับค่าโฆษณา 7% หนุนรายได้ไตรมาส 4 ขยายตัวต่อ ในเดือน ต.ค. ช่อง 3 จะปรับค่าโฆษณาช่วงเวลาละครหลังข่าวเป็น 4.7 แสนบาท/นาที สูงกว่าช่อง 7 ที่คิดค่าโฆษณา 4.5 แสนบาท/นาที สะท้อนทั้งความแข็งแกร่งของดีมานด์และเรตติ้งละครที่ดี ทำให้แนวโน้มรายได้ค่าโฆษณาในไตรมาสสุดท้ายน่าจะทำสถิติที่ดีอีกครั้งส่วนงบ 2Q10 แม้จะได้รับผลกระทบจากไฟไหม้อาคาร แต่กำไรแทบไม่กระทบยังโต 6% q-q เป็น 779 ล้านบาท แถมด้วยเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 65 สตางค์คิดเป็นเงินปันผล 2.2% เฉพาะงวดครึ่งปีแรก หุ้นหลายตัวกำไรดีกว่าคาด STEC เป็นหนึ่งในกลุ่ม ผลประกอบการของบริษัทหลายแห่งออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดและอยู่ระหว่างการปรับกำไรสุทธิเพิ่มซึ่งจะส่งผลให้ราคาเป้าหมายถูกปรับขึ้น สำหรับ STEC แม้ธุรกิจรับเหมาจะเสี่ยงและมีอัตรากำไรสุทธิต่ำ (5-7%) แต่หากมองถึงประโยชน์ระยะยาวจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและมีกำไรที่เด่นชัดจนถึงปีหน้า ณ ระดับ Price/Backlog ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตถือว่ายังเป็นระดับที่ลงทุน สอดคล้องกับทางเทคนิคที่มองว่ากลุ่มรับเหมายังแข็งกว่าตลาด Consensus ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 8.7 บาท (ปรับขึ้น 7%)สรุปภาพตลาดวานนี้ SET ปรับลงตามตลาดในภูมิภาค ตลาดหุ้นไทยลง 1.51% แรงที่สุดในรอบ 30วันทำการ แต่เป็นไปในทิศทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาค จากแรงขายทำกำไรในกลุ่มธนาคารและพลังงานโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันในประเทศ ส่วนต่างชาติยังซื้อสุทธิ645 ล้านบาท ทั้งนี้เฉพาะสัปดาห์แรกของเดือน ส.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสะสมหุ้นไทยรวม 6 พันล้านบาท เกือบเท่ากับที่ซื้อสะสมในเดือน ก.ค. รวม 6.8 พันล้านบาท DJ ปิดลบ 54 จุด หลังจากที่นักวิเคราะห์ของ Fed เสนอรายงานวิเคราะห์เศรษฐกิจฉบับใหม่ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 18 – 24 เดือนข้างหน้า และน่าจะเป็นระดับที่รุนแรงมากขึ้น ในขณะที่มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นลดน้อยลงและการจ้างงานในภาคเอกชนมีตัวเลขต่ำกว่าที่ประมาณการไว้มาก

10427 0

KKC เตรียมจ่ายปันผล 0.20บาท/หุ้น

นายสุรพร สิมะกุลธร  กรรมการผู้จัดการ   บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน) ( KKC ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 5/2553 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2553 โดยมติที่สำคัญดังต่อไปนี้ 1 อนุมัติงบดุล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 และงบกำไรขาดทุนสำหรับงวด 3 เดือนและ 6 เดือนสิ้นสุดวันเดียวกันซึ่งได้ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีและคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว 2 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท (ยี่สิบสตางค์) สำหรับหุ้นสามัญจำนวน 850,000,000 หุ้น รวมเป็นจำนวนเงิน 170,000,000 บาท โดยจ่ายจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนซึ่งผู้ได้รับเงินปันผลจะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวม คำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามบัตรส่งเสริมเลขที่ 1421(2)/2552 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้ ให้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 24 สิงหาคม 2553 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225  ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 25 สิงหาคม 2553    และกำหนดให้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2553 3 อนุมัติการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตมอเตอร์คอมเพรสเซอร์สำหรับตู้แช่เชิงพาณิชย์ และตู้เย็นขนาดใหญ่ (motor compressor for commercial refrigeration products and large refrigerator) เป็นจำนวนประมาณ 1,200,000 เครื่องต่อ    ปี (คำนวณ ที่เวลาทำงาน 24 ชั่วโมง/วัน : 365 วัน / ปี) โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 450 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้าง อาคารประมาณ 100 ล้านบาท และเพื่อจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มเติมประมาณ 350 ล้านบาท โครงการนี้บริษัทจะ ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยมีรายละเอียดในสารสนเทศเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อ ขยายกำลังผลิตมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ (สิ่งที่ส่งมาด้วย)

33 0

เงินดอลลาร์เทียบเยนเช้านี้อ่อนค่าลงอยู่ที่ 85.34 เยน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 85.34 ยน ณ เวลา 10:25 น. ตามเวลาในกรุงโตเกียว จาก 85.44 เยนที่ปิดตลาดนิวยอร์คตลาดนิวยอร์ควานนี้ ขณะที่อัตราเเลกเปลี่ยนเงินเยนเมื่อเทียบยูโรแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 111.86  เยน/ยูโร จาก 112.58 เยน/ยูโร ขณะที่เมื่อเทียบค่าเงินยูโร เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 1.3106 ดอลลาร์/ยูโร จาก 1.3177 ดอลลาร์/ยูโรที่ปิดตลาดนิวยอร์คตลาดนิวยอร์ควานนี้

14 0

บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 11/08/53

ซื้อเล่นสั้นตามแนวรับ...หรือรอหลังหยุดยาวก็ได้ KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันพุธแกว่งตัวลง มาตรการของสหรัฐฯ ออกมาตามที่เราคาด แต่การตอบสนองของตลาดสินทรัพย์ต่างๆ ไม่เป็นไปเช่นนั้น โดยเฟดได้ตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0-0.25% และจะนำรายได้จากพันธบัตรจำนองที่ครบกำหนดไปซื้อพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในตลาด อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดน้ำมันไปรับข่าวลบว่าเฟดเตือนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแรงลงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ประกอบกับแรงกดดันจากตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้หลังตัวเลขนำเข้าเดือนก.ค. ของจีนน่าผิดหวัง และในวันนี้ 9.00 น. จีนจะรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ซึ่งจะเป็นปัจจัยผันแปรสำคัญต่อการซื้อขายของเอเชียในวันนี้ โดยตลาดคาดเงินเฟ้อจีนที่ 3.3% เร่งขึ้นจาก 2.9% ในเดือน มิ.ย. ทั้งนี้ KGI มองว่าดัชนีฯ อาจมีรีบาวด์ในวันตามแนวรับที่ 857 และ 850 จุด แต่ภาพรวมนักลงทุนในประเทศคงชะลอกิจกรรมก่อนหยุดยาว 4 วัน กลยุทธ์: เนื่องจากในช่วงวันหยุดจะมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกหลายตัว และอาจสร้างความผันผวนได้ จึงแนะนำให้นักลงทุนระยะสั้นชะลอ หรือซื้อเล่นสั้นตามแนวรับเพื่อขายออกในวัน ส่วนนักลงทุนระยะยาวยังเน้นสะสมหุ้นขนาดกลางที่มีกำไรออกมาดี และ/หรือแนวโน้มกำไรครึ่งหลังจะดี หุ้นเด่นคือ HANA*, DELTA*, HMPRO*, SAT และ STANLYความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ DELTA* คาดว่ายอดขายในปีนี้น่าจะถึง 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 12-13% จาก 8% ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการออกสินค้าใหม่ ปี 2553-54 บริษัทจัดสรรงบเพื่อการลงทุนจำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อขยายกำลังการผลิตในสโลวาเกีย และอินเดีย เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งนี้บริษัทคาดว่าในปี 2555 ยอดขายจะเพิ่มเป็น 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และอัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มเป็น 16% เราคาดว่าเป้าที่บริษัทวางไว้สำหรับปี 2553 และ 2555 นั้นมีความเป็นไปได้เนื่องจากผลิตภัณฑ์ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการผลิต เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ตลาดเฉพาะด้านจึงทำให้อัตรากำไรที่สูงมากในปัจจุบัน ยังคงคำแนะนำซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย 30.70 บาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เผยตัวเลขดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือนก.ค 2553 ปรับตัวดีขึ้น 32.86% YoY เป็น 159.07 จุด การปรับตัวขึ้นของตัวเลขดังกล่าวเป็นผลมาจากราคาในส่วนของสินค้าอาหารและธัญพืชที่เพิ่มขึ้น อาทิ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าวโพด เป็นต้น ซึ่งทิศทางของดัชนีราคาสินค้าเกษตรในเดือนส.ค 2553 คาดจะยังอยู่ในขาขึ้นเนื่องจากอุปสงค์ยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ราคายังยืนได้ดี ทั้งนี้ เราประเมินว่า รายได้ของกลุ่มเกษตรกรที่เพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลบวกต่อผู้ประกอบการที่มีความเกี่ยวข้องกับรากหญ้าโดยตรง อาทิ DCC และคาดจะทำให้กำไรปี 2553 ของบริษัทปรับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3 พันล้านบาท BANPU* ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการเข้าซื้อกิจการของ Centennial Coal เป็นที่เรียบร้อยแล้ววานนี้ โดย BANPU คาดว่าจะได้ทำการซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดจำนวน 80.1% สำเร็จในช่วงปลายเดือน ก.ย. ถึงต้นเดือน ต.ค. ด้วยวงเงิน 2 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย โดยที่ประชุมยังได้มีมติอนุมัติการออกหุ้นกู้จำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อรองรับการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวด้วยกำหนดการแล้วเสร็จยังคงเป็นไปตามที่เราได้คาดการไว้เดิม ที่ประเมินว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะทำการอนุมัติการเข้าซื้อกิจการภายหลังจากการเลือกตั้งที่จะมีในวันที่ 21 ส.ค. และ BANPU จะเริ่มรับรู้ผลการดำเนินการของ Centennial ในไตรมาส 4/53 เป็นต้นไป คงแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 764 บาท ผู้บริหาร ADVANC* ชี้ว่ารายได้ครึ่งปีหลังจะเติบโตน้อยกว่าในครึ่งแรกที่เติบโตไป 6.4% YoY เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเล็กน้อย แต่ยังคงเป้ารายได้เติบโตทั้งปีที่ 5.0% และในปีนี้หากไม่มีการลงทุนในระบบ 3 จี ก็อาจมีการจ่ายเงินปันผลพิเศษเช่นเดียวกับในปี 2552 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ในปี 2552 ADVANC มีการจ่ายปันผลพิเศษ 5 บาทต่อหุ้น                

10 0

บอร์ด RPC มีมติอนุมัติขายหุ้นซื้อคืน 46.70ล้านหุ้น

นางศิรพร กฤษณกาญจน์   ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ   บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) (RPC)แจ้งมติในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่   7/2553 ซึ่งจัดประชุมในวันที่ 10 สิงหาคม 2553 มีมติดังนี้  1. ตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2553 เมื่อ  วันที่ 5 มีนาคม 2553 ได้มีมติอนุม้ติขายหุ้นสามัญที่ซื้อคืนมา (Treasury Stock) จํานวน 46,706,900 หุ้น ในกรอบราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 15 วัน ก่อนวันที่คณะกรรมการ มีมติเสนอขายหุ้นสามัญซื้อคืน โดยมอบอํานาจให้คณะกรรมการพิจารณากำหนดรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรร โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.28/2551 และข้อ 12 และข้อ 13 ในหมวด 3 ว่าด้วยเรื่องการจำหน่ายและการตัดหุ้นที่ซื้อคืน ของกฎกระทรวงว่าด้วย เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ ว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท  พ.ศ.2544 ทั้งนี้ ให้ดำเนินการจำหน่ายหุ้นสามัญซื้อคืนให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (TDR) เพื่อให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2553 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2553 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2553 ได้มีมติอนุมัติจำหน่ายหุ้นซื้อคืนจำนวน 46,706,900 หุ้น โดยวิธีเสนอขายต่อ ประชาชนเป็นการทั่วไป (Public Offering) ในราคา 2.55 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาเสนอขายที่ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 90 ของราคาตลาดเฉลี่ย (ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์) 15 วันทําการ ก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัท นับตั้งแต่วัน ที่ 19 กรกฎาคม 2553 ถึง วันที่ 9 สิงหาคม 2553 ซึ่งเท่ากับ  2.44 บาทต่อหุ้น ดังรายละเอียดตามแบบรายงานการเปิดเผยการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน (Form TS-7) ซึ่งได้แนบ มาพร้อมนี้ และได้แต่งตั้งบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและผู้รับประกันการจัดจำหน่าย ของบริษัทฯ 2. มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง บมจ.ระยองเพียวริฟายเออร์ และบจก.พลังงานทดแทน ประกอบธุรกิจ ด้านรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า โดยจัดตั้งชื่อ บริษัท อาร์พีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด  RPC Energy Company Limited  ทุนจดทะเบียน 125 ล้านบาท จำนวน 1.25 ล้านหุ้น หุ้นละ 100 บาท เพื่อดำเนินการโครงการพลังงานทดแทน บริษัทฯ มีสัดส่วนการลงทุนในบริษัทดังกล่าว คิดเป็นร้อยละ 70 โดยใช้แหล่งเงินทุนจากทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

47 0

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 11/08/53

ทิศทางตลาดวันนี้  ปรับฐาน? (+?) เฟดต้องการกดดอกเบี้ยระยะยาว     (?) ต่างชาติซื้อสุทธิ +149mn และขายสุทธิ -802mn (?) เสนองบปราณวาระ 2&3 ต่อสภา 18-19สค หุ้นแนะนำ:  DELTA- Q2 โดดเด่น ปันผล 5% ปัจจัยสำคัญวันนี้     (-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -54, NASDAQ -28, S&P -6, FTSE -34, CAC -46 และ DAX -65  ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวจาก -147จุด หลงเฟดจะดำเนินขั้นตอนใหม่ในการแก้ไขปัญหา หลังศก.ฟื้นตัวอ่อนแอ และเฟดจะเริ่มนำรายได้จากพันธบัตรจำนองที่ครบกำหนดไถ่ถอนแล้ว ซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อกดดอกเบี้ยระยะยาว ราคาน้ำมันล่วงหน้า NYMEX –US$1.23 เหลือ US$80.25/barrel (?) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศมียอดสุทธิ  +149บาท ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปี      -1,769ล้านบาท  และต่างประเทศมียอดสุทธิล่วงหน้า -802ล้านบาท มียอดสะสมใน สค53  +1,836ล้านบาทกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ทิศทางตลาด   ปรับฐาน?   สหรัฐอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจหลัง ตัวเลขการจ้างงานยังทรงตัวในระดับสูง ภายหลังการสิ้นสุดการประกาศ Q2  สำหรับตลาดหุ้นไทยอยุ่ระหว่างการปรับฐาน หลังปรับเพิ่ม +19.4% ตั้งแต่มิย53  อีกทั้งสัปดาห์จะมีการพิจารรางบประมาณ วาระ 1& 2   ดัชนีความเสี่ยง 10สค  +1.0% เป็น 22.3  เทียบกับระดับปกติที่ 20-25

13 0

สรุปข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ธปท.กล่อมธ.ต่างชาติปล่อยกู้ ย้ำเศรษฐกิจฟื้นจี้ลุยสินเชื่อเพิ่ม นายวรุณ กาญจนภู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กฎหมายและบรรษัทภิบาล ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เชิญสมาชิกสมาคมธนาคารนานาชาติ เข้าหารือถึงภาพรวมธุรกิจและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ธปท. ได้ฝากประเด็นถึงธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ โดยขอความร่วมมือในการปล่อยสินเชื่อที่มากขึ้นเอไอเอสงดปันผลพิเศษลุย 3 จี นายพรรัตน์ เจนจรัสสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานวางแผนและวิเคราะห์การตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในระดับปกติที่หุ้นละ 6.30 บาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 18,000-19,000 ล้านบาท โดยได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 3 บาท แต่อาจไม่มีเงินปันผลพิเศษเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทต้องเตรียมเงินสำหรับลงทุนโครงข่ายระบบ 3 จี ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (54-56) บริษัทได้เตรียมงบลงทุนระบบ 3 จี ไว้ 50,000 ล้านบาท ไม่รวมเงินประมูลในอนุญาต 3จี ที่เริ่มต้น 12,800 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการโทรคมนาคม (กทช.) จะเป็นผู้กำหนดราคาเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ รอบละ 5% โดยเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากกระแสเงินสดหมุนเวียนที่มีปีละ 40,000 ล้านบาทรวมทั้งเงินกู้ ทั้งนี้ คาดว่าจะยื่นรายชื่อเข้าร่วมประมูลได้เดือน ส.ค.นี้ และเปิดประมูลในปลายเดือน ก.ย.ซึ่งเริ่มลงทุนได้ภายใน 45 วัน หลังประมูลและหลังได้ใบอนุญาตภายใน 4-6 เดือน จะเริ่มให้บริการ 3 จีแก่ลูกค้าได้ปรับโฉมเซ็นทรัลลาดพร้าว นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทเตรียมลงทุนใหญ่ 3,600 ล้านบาท เพื่อปรับโฉมศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว ให้อยู่ในรูปแบบใหม่ของศูนย์การค้าไทยเน้นความเป็นธรรมชาติและใช้วัสดุธรรมชาติมากที่สุด โดยจะเริ่มปิดปรับปรุงในเดือน ก.พ. 54 เป็นเวลา 6 เดือน และได้ปรับตำแหน่งของศูนย์การค้าใหม่เน้นลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงในระดับ เอและบีเป็นหลัก ส่วนร้านค้าที่อยู่ในศูนย์จะมีมากกว่า 300 ร้านค้า  ทั้งร้านแบรนด์เนมชื่อดังจากต่างประเทศและเพิ่มจำนวนร้านอาหารขึ้นอีก 50% ให้เป็นศูนย์รวมร้านอาหารมากที่สุดใน กทม. และเตรียมปรับขึ้นค่าเช่า ร้านค้าอีก 10% รองรับการปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้กรุงไทยเดินหน้าขายหุ้น 10% ในนกแอร์ทิ้ง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพร้อมที่จะขายหุ้นที่ถืออยู่ในสายการบินนกแอร์สัดส่วน 10% ให้กับผู้ที่สนใจหากเสนอราคาซื้อที่สูงสุด    เนื่องจากธุรกิจสายการบินไม่ใช่ธุรกิจหลักของธนาคาร โดยการขายครั้งนี้จะพิจารณามูลค่าทางบัญชีและกระแสเงินสด รวมทั้งแผนฟื้นฟูของสายการบินนกแอร์  เพื่อกำหนดราคาขายที่เหมาะสมซึ่งที่ผ่านมาสายการบินนกแอร์เคยทำแผนธุรกิจในช่วงที่เกิดวิกฤติน้ำมัน เนื่องจากต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและถือว่าทำได้ดีกว่าแผนที่วางไว้ปตท.เคมิคอลไตรมาส 2 กำไร 'เออาร์' อ่วมพิษน้ำมันผันผวน นายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ปตท. เคมิคอล หรือ ปตท.ซีเอช เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/53 บริษัท และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 2,318 ล้านบาท หรือ 1.54 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 2/52 ที่มีผลกำไรสุทธิ 2,140 ล้านบาท หรือ กำไร 1.43 บาทต่อหุ้น ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 23,993 ล้านบาท เพิ่ม 16% เป็นผลจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาผลิตภัณฑ์ อาทิ รายได้จากโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น 660 ล้านบาท หรือ 11% รายได้จากการขายโพลีเอทิลีน เพิ่ม 681 ล้านบาท รวมถึงจากการขายผลิตภัณฑ์เอทิลีนออกไซด์ และโมโนเอทิลีนออกไซด์ เพิ่ม 576 ล้านบาทเชือดโรงบรรจุก๊าซแอลพีจี โยกโควตาครัวเรือขายขนส่ง ชี้ถังไทยวางเกลื่อนเพื่อนบ้าน นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า เตรียมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตรวจสอบการดำเนินธุรกิจการของโรงบรรจุแก๊ส 434 แห่งทั่วประเทศ เนื่องจากหลายรายมีการแจ้งเท็จการทำธุรกิจกับกรมฯ จากเดิมแจ้งว่าจะนำแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) ไปบรรจุถึงจำหน่ายให้แก่ครัวเรือน แต่แอบนำไปจำหน่ายแก่ปั๊มแทน เพราะการจำหน่ายในภาคขนส่งสามารถทำยอดขายและกำไรได้รวดเร็วกว่าจำหน่ายในครัวเรือนที่ต้องรอให้ผู้บริโภคมาเปลี่ยนถึงแก๊สใหม่เฉลี่ยครัว เรือนละ 15 วันต่อ 1 ครั้ง ดังนั้นหากไม่รีบดำเนินคดีกับโรงบรรจุแก๊สที่กระทำผิดในอนาคตภาคครัวเรือนอาจขาดแคลนแอลพีจีได้ชาวเกาะจ่ายภาษีผ่านแบงก์ น.ส.เพรามาตร หันตรา รองอธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่ากรมสรรพากรได้ลงนามความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ในการให้บริการรับแบบแสดงรายการภาษีทางอินเทอร์เน็ต และรับชำระภาษีแก่ผู้ประกอบการ ผู้เสียภาษีในท้องที่ เกาะพะงัน เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เกาะลันตา จ.กระบี่ รวม 8 สาขา ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ที่จะถึงนี้ เป็นต้นไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งอกจากจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนแล้ว ยังเป็นแนวทางในการขยายฐานภาษีไปยังพื้นที่ เหล่านี้ให้มากขึ้น และหากได้รับการตอบรับที่ดี จะขยายการให้บริการไปยังพื้นที่อื่น ๆ อีกต่อไปขู่เรียกงบฯ ไทยเข้มแข็งคืน นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบการบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดในหลายโครงการ เช่น ขยายเวลาการขอรับการจัดสรรเงินกู้ของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา วงเงินกว่า 1,543 ล้านบาท เป็นภายในวันที่ 30 ก.ย. 53 และเร่งรัดโครงการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย. 54 หากไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ภายในวันที่ 30 ก.ย. 53 นี้ เห็นควรให้ยกเลิกวงเงินที่จัดสรรให้แล้วนำมารวมเป็นวงเงินสำรองจ่ายต่อไป รวมถึงเห็นชอบให้ขยายเวลาลงนามในสัญญาของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ในสาขาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ได้รับการจัดสรรวงเงินจากสำนักงบประมาณ 705 ล้านบาท เป็นภายในวันที่ 30 ก.ย. 53 และขยายเวลาดำเนินโครงการเป็นภายใน 1 ปี นับจากลงนามในสัญญา หากไม่สามารถลงนามได้ภายใน 30 ก.ย. 53 เห็นควรให้ยกเลิกโครงการแล้วนำมารวมเป็นวงเงินสำรองต่อไป เป็นต้นครม.เบรกรถเมล์ภูมิใจไทย มาร์คชี้มี 3 ประเด็นไม่ชัด ให้ไตรรงค์ศึกษา 2 เดือน โสภณเซ็ง-จับตาสภาล่ม 'มาร์ค' หัก 'เนวิน' ตีกลับโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน แถมดึงเรื่องให้ 'สามสี' ศึกษาใหม่ก่อนเสนอ ครม.ในอีก 2 เดือนข้างหน้า 'โสภณ' เซ็งโครงการถูกใส่ร้ายป้ายสีจนมืดมน แต่ยังถอดใจขอเดินหน้าต่อเพื่อปลดหนี้แสนล้านของ ขสมก.เพื่อให้คนกรุงได้มีชีวิตที่ดีขึ้น เผยประชุม 2 ชั่วโมงซัดกันยับ รัฐมนตรีภูมิใจไทยเรียงหน้าหนุนถ้าไม่ทำ ขสมก.จะเจ๊งยับจนหน่วยงานพัง 'มาร์ค' ยันมี 3 ประเด็นที่ไม่ชัดเจนพอตอบประชาชน 'ไตรรงค์' ออกหน้าหย่าศึกขอเวลา 2 เดือนได้ข้อยุติเด็กภูมิใจไทยขู่ทำกันอย่างนี้ไม่รับประกันสภาล่ม ด้านแม่ทัพภาค 1 ขำข่าวเกาเหลา 'ดาว์พงษ์' จนเก้าอี้กระเด็น แต่ประชดไม่น้อยใจในโชคชะตามาได้ขนาดนี้ก็บุญแล้วพบในภาพอีก 1 'หนุ่มช่างไฟสกลฯ' เผยขณะนั้น 2 ขวบ ปลื้มแม่อุ้มเข้าเฝ้าฯ เผยโฉมอีกราย 1 ใน 12 ภาพ แห่งความทรงจำ 'กราบพระบาทแม่ของแผ่นดิน' เป็นหนุ่มช่างไฟชาวสกลฯ เจ้าตัวปลื้มปีติสุดๆ ที่ได้เข้าเฝ้าฯใกล้ชิดตั้งแต่ 2 ขวบ ยังไร้เดียงสาจึงไม่รู้เรื่อง เพราะแม่พาไปนั่งใกล้พระองค์ท่าน เผยถ้าจำความได้คงไม่กล้าเข้านั่งใกล้ขนาดนี้ ส่วน 'มาร์ค' รับมอบเทียนรวมใจภักดิ์รักแม่ของแผ่นดินจากดารานักแสดง และปล่อยคาราวานบรรทุกข้าวสารไปแจกชาวบ้าน ทางด้าน 'เทพเทือก' เผยกองทุนแม่ของแผ่นดินทะลุกว่า 200 ล้าน มีผู้ถูก ศอฉ.อายัดบัญชีร่วมบริจาคด้วยขณะที่หลายจังหวัดจัดกิจกรรมก่อนวันแม่อย่างสนุนสนานคึกคัก แต่แม่ค้าปากคลองตลาดเซ็งกันเป็นแถว ยอดขายมะลิวันแม่และพวงมาลัยตกฮวบ ทั้งที่ราคาถูกกว่าปีก่อน'สเตลล่า' ยันไม่ท้อ แม้พิการ อดีตนางเอกลูกครึ่งอิตาลี-โคลัมเบีย 'สเตลล่า มาลูกี้' ไม่ย่อท้อแม้ถูกตัดขาขวาทิ้งต้องใส่ขาเทียม จากผลกระทบในการใช้เครื่อง 'เอ็กซ์โม' ช่วยการหายใจเพราะปอดเต็มไปด้วย แคลเซียมที่แข็งตัวเป็นหินจากโรคพาราไทรอยด์ ทำกายภาพบำบัด วันเว้นวันที่ศูนย์สิรินธร 3 เดือน ตอนนี้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว ฝากถึงคนพิการอย่าท้อ เพราะยังมีคนลำบากมากกว่าและอย่าอายที่พิการ พวกที่น่าอายคือคนที่คดโกง กับคนที่แย่งผัวชาวบ้านตามรวบไอ้หื่นขังล่ามโซ่ด.ญ. บำเรอกามโฉด ตำรวจตะครุบหนุ่มหื่นกาม ลวงเด็กสาววัย 13 ปี กักขังในบ้านพักล่ามขาด้วยโซ่ ก่อนลงมือข่มขืนยาวนานถึง 7 วัน ก่อนเหยื่อจะฉวยโอกาสคนร้ายไม่อยู่บ้าน ควานหากุญแจจนพบปลดโซ่หนีกลับบ้าน แม่รู้เรื่องพาแจ้งตำรวจ ลากตัวได้ทันควันเล็ง 16 ส.ค.ชงเลิกฉุกเฉิน แย้ม 'กทม.' ยังดองยาว พท.ฟ้องพธม.ผิดพรก. ตั้งเป้า 16 ส.ค.นี้ ชงเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกหรือไม่ 'สุเทพ' โยน ทุกหน่วยงานระดมข้อมูลให้ 'ถวิล' เสนอนายกฯ อภิสิทธิ์ ลงนามเลิกเอง เชื่อ กทม. ยังต้องคงไว้อีกนาน สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ เลขา สมช. บ่น พ.ร.ก.ตกเป็นเหยื่อ โดนโจมตีหลังใช้ได้ผลมาระยะหนึ่ง ย้ำ เจ้าหน้าที่ไม่มี 2 มาตรฐาน 'จตุพร' ชี้ หน้าห้อง 'สุเทพ' ร่วมทำคดี นปช.ไม่เหมาะสม 'เทพไท' สวนทันควัน ไม่มีใครยุ่งเกี่ยว 'ตู่' จ้องซักฟอก 'พีระพันธุ์' ในสภา หลังเชื่อใช้อำนาจก้าวก่ายอัยการเร่งฟ้อง คดีม็อบแดง แฉ จะถามถึงโรงแรมจุดซุ่มยิง 'เสธ.แดง' ด้วย ด้าน 'พร้อมพงศ์' เดินหน้าฟ้อง พันธมิตรฯ  ทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตรียมฟ้อง ป.ป.ช. เล่นงานนายกฯ-ตำรวจ 'จาตุรนต์' อัด หนังสือเวียนห้ามนักศึกษา ทำกิจกรรมล้อการเมือง กำจัดสิทธิ ศธ.รู้เรื่องรีบห้ามทันที สกอ.แจง ไม่ได้บังคับแค่เตือน ดีเอสไอ ได้เพิ่มกำลังคนอีกเกือบ 500 คน หลังคดีในมือเพิ่มขึ้นเพียบ กสม. ระบุ สอบแล้วพบเด็ก ม.5 เชียงราย ไม่ได้ป่วยทางจิต ส่วนคดี พธม.ยึดสนามบิน ดอด มอบตัว 2 ราย'เพรียวพันธ์' ระงับยื่น ฟ้องศาลปกครอง 'วิเชียร' ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ เข้าร่วมประชุม ก.ตร. ยิ้มร่ามีคนแห่ยินดี ส่วน 'เพรียวพันธ์' ระงับเรื่องฟ้องร้องศาลปกครอง ลาราชการไปสิงคโปร์ 'สุเทพ' เดินหน้าประชุม ก.ตร. ถกวาระสำคัญโยกย้ายนายตำรวจประจำปี กำหนดหลักเกณฑ์ตั้งรอง ผบ.ตร.-ผบก. ยึดแนวทางลำดับอาวุโสวางเป้า 18 ส.ค. ประกาศลำดับอาวุโส ตำรวจทั่วประเทศ ส่วนโผโยกย้ายเดดไลน์ ถึง 15 ก.ย.นี้ จากเดิมตั้งสิ้นสุด 31 ส.ค. นี้ 'ปทีป' ทิ้งทวนแปลก ๆ 'วิเชียร' เป็น ผบ.ตร.จริงหรือ ปัดน้อยใจนั่งรักษาราชการ มา 1 ปี'อุทธรณ์' ยืนจำคุก 3 เดือน จุติ ไกรฤกษ์ 'จุติ ไกรฤกษ์' รมว.ไอซีที ถูกศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก 3 เดือน ปรับ 1 หมื่น ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท เมื่อครั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวหา 'หมอเลี้ยบ' อดีต รมช.สาธารณสุข สมัยรัฐบาล 'ทักษิณ' เมื่อปี 45 เอื้อให้เมียเปิดอาบอบนวดโดยไม่ต้องเสียภาษี ทั้งที่จริงเปิดสถานเสริมความงามและลดอ้วน 'บอดี้เชพ' อย่างถูกต้องตามกฎหมายเหยื่อแฮกเกอร์โผล่อีกราย โดนเจาะข้อมูลฉก 3 แสน 2 หนุ่มเบียร์ซัดไอ้คิม 'หัวโจก' โจรกรรมเงิน 2 ผู้ต้องหาหนุ่มเมืองเบียร์ เปิดปากซัดทอด 'ไอ้คิม' เป็นหัวโจกแก๊งแฮกเกอร์ โจรกรรมข้อมูลดูดเงินจากบัญชีธนาคาร กองปราบฯ เดินหน้าลุยล่าตัวมารับผิด ขณะที่ พ.อ.เหยื่อแก๊งแฮกเกอร์ ผวาไวรัสโทรจัน อาละวาดเล่นงานหนัก จี้แบงก์ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ขณะที่สาวนักธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ตกเป็นเหยื่อแก๊งแฮกเกอร์อีกราย โดนเจาะข้อมูลธนาคารทางอินเทอร์เน็ตไอ แบงกี้งสูญเงินไป ร่วม 3 แสน ส่วนแม่ค้าเชียงรายเสียท่าแก๊งคอล เซ็นเตอร์ โอนเงินสูญไปร่วม 1.5 แสนบาทส.ว.ดุยุทหารยิงปืนใหญ่ถล่ม มาร์คยื่นยูเอ็นโต้เขมร ระบุใช้สันติแก้ปัญหา เครือข่าวประชาชนออกแถลงการณ์ 10 ข้อยังถือว่าปราสาทพระวิหาร อยู่ในดินแดนไทย ชี้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 43 และเร่งผลักดันชาวเขมรที่มาอยู่ในพื้นที่พิพาทออกไป ฉีกร่างมติที่ 'สุวิทย์' ไปลงชื่อไว้ในการประชุมครั้งที่ผ่านมาขณะที่ ส.ว.สรรหาเห็นว่าเอ็มโอยู 43 บังคับกัมพูชา ไม่ได้ยุให้ทหารยิงปืนใหญ่ไล่เหมือนกับที่เคยทำได้ผลที่เนิน 491 ด้าน 'อภิสิทธิ์' ทำหนังสือส่งยูเอ็นแล้วโต้ 'ฮุนเซน' ยันใช้สันติแก้ไขปัญหา  โดยยึดหลักเอ็มโอยู 43 ส่วนการผลักดันชาวเขมรกลาโหมกับต่างประเทศกำลังหารือกันอยู่ แม่ทัพภาค 1 ให้ใช้วิธีเจรจากันแต่หากใช้กำลังทหารก็พร้อมเสมอที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์                

12616 0

ไทยเอ็นวีดีอาร์ ทิ้งหุ้น BAT-3K ออก 4.99%

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้รับแบบรายงานการจำหน่าย หุ้นของบมจ. ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่(BAT-3K) โดย บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัดซึ่งเป็นการจำหน่าย  เมื่อวันที่ 06/08/2553จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายคิดเป็น  -4.99% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น  0.85% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ และได้รับรายงานการได้มา หุ้นของบมจ. ล็อกซเล่ย์(LOXLEY) โดย บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัดซึ่งเป็นการได้มา  เมื่อวันที่ 06/08/2553จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น  0.19% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น  5.12% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการที่มา กลต.

30 0

บล.ซิกโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 11/08/53

แนวโน้มวันนี้ DJIA และน้ำมันดิบ NYMEX ต่างปรับตัวขึ้น จากมุมมองในด้านบวกที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ รวมถึงการใช้นโยบายผ่อนปรนด้านการเงินเพิ่มเติม หลังจากผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจของทั้ง 12 เขตในสหรัฐล่าสุดนั้นบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในหลายเขตเป็นไปอย่างล่าช้า ทั้งนี้การประชุมเฟด (FOMC) จะมีขึ้นในคืนวันอังคาร (10 ส.ค.) ตามเวลาประเทศไทย สำหรับมุมมองน้ำมันดิบ NYMEX (กราฟซ้ายมือ) ของเรายังเหมือนเดิม คือ น่าจะได้เห็นการปรับตัวขึ้นไปทดสอบ US$ 83.11/บาร์เรลและหากน้ำมันดิบ NYMEX สามารถปิดเหนือระดับดังกล่าวขึ้นไปได้ เราบอกว่าจะเกิดภาวะBullish สุดขีดของน้ำมันดิบ NYMEX โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ US$ 91.68/บาร์เรล ซึ่งพวกเราคงต้องติดตามดูกันต่อไป สำหรับ SET Index (กราฟขวามือ) ยังคงมีเป้าหมายสำคัญของการปรับตัวขึ้นใน Minute Wave 3 ของ Sub Wave 5 ของ Major Wave 1 อยู่ที่ 960 จุดดังเดิมการปรับฐานของ SET Index เมื่อวานนี้ เป็นเพียงการ Correction ช่วงสั้น ๆ หลังจากที่Indicators ต่างๆ อยู่ในระดับสูงมาก โดยกรอบเป้าหมายของการปรับฐานครั้งนี้น่าจะอยู่ที่การลงไปปิด Gap ที่เคยเปิดไว้ที่ 856-836 จุด ทั้งนี้ในช่วงที่ SET Index เกิดการปรับฐานช่วงสั้นๆ ถือเป็นโอกาสดีในการทยอยเก็บหุ้นคุณภาพ โดยหุ้นที่เราแนะนำทยอยเก็บ ได้แก่ LANNA เป้าหมาย 22.30 บาท และ 26.75 บาท TVO เป้าหมาย 27 บาท และ 32.25 บาท HEMRAJ เป้าหมาย 1.93 บาท และ 2.32 บาท THAI เป้าหมาย 41.50 บาท AOT เป้าหมาย 44 บาท SUC เป้าหมาย 48.75 บาท ASIAN ระยะสั้น 4.40 บาท ITD ระยะสั้น 3.48 บาท และ 4.18 บาท BMCL ระยะสั้น 0.94 บาท และ 1.03 บาท CIMBT ระยะสั้น 4.08 บาท และ 4.64 บาท วันนี้ SET Index มีแนวต้านอยู่ที่ 865-872 จุด และ 882 จุด โดยมีแนวรับอยู่ที่ 856-849 จุด และ 840 จุด ตามลำดับ                

13 0

สรุปข่าวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

นายกฯ คว่ำเอ็นจีวี4พันคัน ซื้อเวลาตั้ง'ไตรรงค์' สั่งศึกษาเพิ่ม5ประเด็น'โสภณ' เมินตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูลเพิ่ม ยันใช้ของเดิมชี้แจง ข้องใจไม่รู้มีอะไรใต้ดินบนดิน “อภิสิทธิ์” ยึดข้อท้วงติง “สนั่น” เปิดศึกภูมิใจไทย เบรกโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน วงเงิน 6.3 หมื่นล้านบาท กลางที่ประชุม ครม. ตั้ง “ไตรรงค์” ศึกษาข้อมูลเพิ่ม 5 ประเด็น ทั้งแผนบริหารพนักงาน ขสมก. 2.3 พันคน ที่ไม่เข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด-ผลกระทบรถเมล์ฟรี-ค่าก่อสร้างอู่จอดรถ-ปั๊มก๊าซเอ็นจีวี รมต.ลูกพรรคภูมิใจไทย ประสานเสียงบีบ ครม.พิจารณา ระบุเสนอมาหลายครั้งแล้ว “โสภณ” ยัวะประชดโยนนายกฯ ดูแลโครงการเอง ก่อน “สุเทพ-ไตรรงค์-ชุมพล” ต้องหย่าศึกธปท.วอนแบงก์นอกปล่อยกู้  ชี้'ศก.ฟื้น'ความต้องการสูง 'แบงก์ชาติ' ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ต่างชาติปล่อยสินเชื่อเพิ่ม ด้าน 'นายแบงก์' ชี้ แต่ละธนาคารมีหลักเกณฑ์การปล่อยอยู่แล้ว หากเข้าตามเกณฑ์พร้อมอนุมัติ  ธปท. ประเมินแนวโน้มสินเชื่อไตรมาสที่ 3 ความต้องการเพิ่มในทุกภาคธุรกิจ เหตุเศรษฐกิจฟื้น การเมืองเคลียร์คลังส่งหนังสือยธ.สหรัฐ  ลุยสอบ'รับสินบนยาสูบ' คลังส่งหนังสือด่วนกระทรวงยุติธรรม เพื่อส่งต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ขอข้อมูลเจ้าหน้าที่โรงงานยาสูบไทย เรียกรับสินบน 2 บริษัทยาสูบสหรัฐ เล็งตั้งกรรมการสอบซ้ำ 'สถิตย์' ระบุอาจส่งต่อดีเอสไอดำเนินการ ป.ป.ช.พร้อมตั้งเรื่องสอบรับสินบน 'เมธี ครองแก้ว' บินรับข้อมูลนักธุรกิจสหรัฐจ่ายเงินอดีตผู้ว่าการ ททท.แลกจัดฟิล์มเฟสติวัล'อำพน'ชิงเสนอ'อาคม'นั่งเลขาฯ สศช. 'อำพน' ชิงเสนอ ครม.ตั้ง 'อาคม' เลขาธิการ สศช. หลังอยู่ครบวาระ 6 ปี ลุ้นนั่งเลขาธิการ ครม.คนใหม่ พลังงานจ่อโยก 'พรชัย' ข้ามห่วยปลัดไอซีที พร้อมดัน 'ณอคุณ' เสียบแทน 'ชลิต-อรรถ' แคนดิเดทปลัดกระทรวงเกษตรฯ คนใหม่วิตกศก.จีน-สหรัฐกดหุ้นวูบ 13 จุด แนะจับตาเฟดออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่ม ขณะที่นักลงทุนต่างชาติรายย่อยซื้อสุทธิ นักวิเคราะห์ชี้นักลงทุนขายทำกำไรหลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน ประเมินวันนี้หุ้นผันผวนต่อ ดัชนีหุ้นร่วง 13 จุด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังนักลงทุนกังวลปัญหาเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ ชะลอตัวแรง ผสมโรงไร้ปัจจัยใหม่สนับสนุน แนะจับตาดูการประชุมเฟดจะส่งสัญญาณมาตรการการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ประเมินหุ้นวันนี้ผันผวนต่อแอดวานซ์ชี้3จีไม่เกิดปีนี้ พร้อมจ่าย'ปันผลพิเศษ' แอดวานซ์รับครึ่งปีหลังผลประกอบการชะลอตัวตามทิศเศรษฐกิจ แต่ทั้งปียังโต 5% หลังครึ่งปีแรกรายได้โตไปแล้ว 6.4% ชี้ขอดู 3จี ว่าเกิดทันปีนี้หรือไม่ก่อนพิจารณาปันผลพิเศษ แต่รับปากทั้งปีปันผล 6.3 บาทต่อหุ้นเท่าเดิม แม้ต้องลงทุนในส่วน 3จี เพิ่มอีก 5 หมื่นล้านบาทในช่วง 3 ปีเดลต้าคาดรายได้ 3.5 หมื่นล. 'ศก.ฟื้น'ดันกำไรโตเกินเป้า เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ปรับเป้ารายได้ปีนี้แตะ 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนกำไรสูงกว่าเป้าหมาย หลังเห็นสัญญาณธุรกิจครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง รับกระแสพลังงานทดแทนในกลุ่มยานยนต์ พร้อมวางเป้ายาว 3 ปี ยอดขายแตะ 9.6 หมื่นล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิแตะ 16% รับอานิสงส์หันผลิตสินค้ามาร์จินสูง ด้านฮานาไม่น้อยหน้าไตรมาส 2 กวาดกำไร 743 ล้านบาท เพิ่ม 36%เฟดส่อแววตรึงดอกเบี้ยรับศก.โตช้า ผู้เชี่ยวชาญมองเฟดประชุมวันพุธนี้ มีแนวโน้มประเมินเศรษฐกิจสหรัฐระมัดระวังมากขึ้น มองการเติบโตชะลอตัวลง พร้อมคงดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ใกล้ศูนย์ เพื่อลดแรงกดดันที่อาจฉุดรั้งการฟื้นตัวของประเทศ อินเตอร์ไฮด์ยืนรายได้ปีนี้ 1.9 พันล. โชว์ไตรมาส 2 กำไรทะยาน 234% เผยออเดอร์เข้ามาเต็มทั้งปี  ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.25 บาท อินเตอร์ไฮด์ โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 ทะยาน 234% เหตุยอดขายฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมยานยนต์ และต้นทุนลดจากการสำรองวัตถุดิบราคาต่ำ มั่นใจรายได้ทั้งปีเข้าเป้า 1.9 พันล้านบาท หลังมีออเดอร์เข้ามาเต็มทั้งปี พร้อมขยายกำลังผลิตรองรับงานใหม่กรุงไทยพานิช เปิดเดบิตการ์ด พ่วงประกันภัย นายกีรติ พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่าล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในการเปิดตัวบัตร 'KTB Shop Smart Blue Diamond' ซึ่งเป็นบัตรเดบิต ที่มีคุณสมบัติเป็นบัตรถอนเงินสดจากเครื่องเอทีเอ็มทั่วโลก ที่มีสัญลักษณ์ ATM Pool รวมถึงรับสิทธิประโยชน์จากร้านค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมมากมายกว่า 1,500 ร้านค้าบิ๊ก 'ไอเอฟเอส' ปลื้มเทรดพ้นจอง 28% บรรยากาศการซื้อขายหุ้นบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IFS เมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) ซึ่งเป็นครั้งแรกของการซื้อขายปรากฎว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก โดยเปิดซื้อขายที่ 1.96 บาทเพิ่มขึ้น 0.16 บาท หรือ 45.18%     ระหว่างวันปรับตัวแตะระดับสูงสุดที่ 1.97 บาท และปิดซื้อขายที่ 1.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.38 บาท จากราคาจอง หรือ 28.14% มูลค่าการซื้อขาย 396.22 ล้านบาทที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ                

10292 0

หุ้นสหรัฐปิดไม่หวือหวาหลังเฟดคงดอกเบี้ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีกลับมาบวกเพิ่มขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงผลการประชุมคณะผู้บริหาร โดยยืนยันคงอัตราดอกเบี้ยต่ำ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไป ขณะที่มีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐว่าจะขยายตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ด้านราคาน้ำมันดิบในตลาดไนเม็กซ์ ปิดตลาดลดลง 1.23 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 80.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ 10,644.25 จุด ลดลง 54.50 จุด แนสแดคปิดที่ 2,277.17 จุด ลดลง 28.52 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ 1,121.06 จุด ลดลง  6.73 จุด.

14 0

ราคาน้ำมันดิบไลท์ ปิดที่ร่วง 1.23 ดอลลาร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกันยายน วันที่ 10 ส.ค. 53 ที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 80.25 ดอลลาร์/บาร์เรล  ลดลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.51%       

9 0

12-13 สิงหาคมนี้ออมสินหยุดให้บริการ ATM

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการด้านเงินฝากไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2552 และพัฒนาระบบการให้บริการ Core Banking เฟส 2 คือ ระบบงานด้านสินเชื่อ เมื่อวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2553 เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและความรวดเร็วในการใช้บริการ ธนาคารฯ จะดำเนินการทดสอบระบบการให้บริการด้าน ATM และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ธนาคารออมสินขอแจ้งให้ทราบว่าจะหยุดให้บริการเครื่อง ATM, บัตร ATM รวมถึงบัตร GSB VISA DEBIT ซื้อหรือชำระสินค้าและใช้บริการในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าร้านให้บริการต่างๆ 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม 2553 เวลา 04.00 - 9.30 น. และช่วงที่ 2 วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึงเวลา 02.00 น. ของวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2553 อย่างไรก็ตาม ธนาคาร ออมสินจะเร่งดำเนินการพัฒนาด้านอิเล็กทรอนิกส์นี้ให้แล้วเสร็จภายในวันและ เวลาดังกล่าวเพื่อเปิดให้บริการโดยเร็วที่สุด แต่หากมีความจำเป็นต้องทำรายการทางการเงินในช่วงวันและเวลาดังกล่าว ขอความกรุณาประชาชนและลูกค้าได้โปรดสำรองการใช้เงินสดไว้ล่วงหน้า และขออภัยมา ณ โอกาสนี้ หากท่านไม่ได้รับความสะดวกในระหว่างการปรับปรุงดังกล่าวด้วย.

1078 0

สรรพากร- KTB ร่มมือให้บริการรับยื่นแบบแสดงรายการภาษี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสรรพากรได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือในการให้บริการรับแบบแสดงรายการภาษีทางอินเทอร์เน็ต   และรับชำระภาษีแก่ผู้ประกอบการและผู้เสียภาษีในท้องที่ อ. เกาะพงัน อ.เกาะสมุย  จ. สุราษฎร์ธานี  และ อ.เกาะลันตา จ. กระบี่  โดยนางสาวเพรามาตร หันตรา  รองอธิบดีกรมสรรพากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี   ประธานในพิธีร่วมลงนามกับนางศรีประภา  พริ้งพงษ์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส  ผู้บริหารสายงานธุรกิจภาครัฐ  ธนาคารกรุงไทย จำกัด    ( มหาชน ) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการและผู้เสียภาษี  สามารถยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีได้ทุกประเภทภาษี  ณ  ธนาคารกรุงไทย  จำกัด ( มหาชน ) (KTB)  โดยมีจุดให้บริการในพื้นที่ดังกล่าว   ดังต่อไปนี้ 1.    จังหวัดสุราษฎร์ธานี  เปิดบริการบนเกาะพะงัน และเกาะสมุย รวม 7 สาขา ได้แก่1.1    เกาะพงัน จำนวน 2 สาขา คือ สาขาเกาะพะงัน และสาขาหาดริ้น  1.2    เกาะสมุย   จำนวน 5 สาขา  คือ  สาขาเกาะสมุย  สาขาบิ๊กซีเกาะสมุย   สาขาแม่น้ำ  สาขาละไม  และสาขาเฉวง     2.    จังหวัดกระบี่   เปิดบริการบนเกาะลันตา จำนวน 1 สาขา  คือ สาขาเกาะลันตา  โดยแต่ละสาขาดังกล่าวของธนาคารจะเป็นที่รับแบบแสดงรายการภาษีทางอินเทอร์เน็ตและรับชำระภาษีอากร  ตามประมวลรัษฎากร  ซึ่งจะเปิดรับยื่นแบบฯ และชำระภาษีได้ตั้งแต่วันที่  1  กันยายน  2553  เป็นต้นไป นางสาวเพรามาตร   หันตรา  รองอธิบดีกรมสรรพากร   รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี  กล่าวว่า  “ ที่ผ่านมา   กรมสรรพากรได้เคยเปิดให้บริการมาแล้วบนเกาะเต่า   ตั้งแต่วันที่ 1  มิถุนายน  2550   พบว่า มีผู้เสียภาษีมาใช้บริการมากกว่า 80%  ถือเป็นโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง   กรมฯ  จึงเพิ่มช่องทางการบริการแก่ผู้เสียภาษีในพื้นที่เหล่านั้นให้มากยิ่งขึ้น   โดยขยายผลโครงการส่วนที่ 2  ไปตามเกาะต่าง ๆ ใน จ. สุราษฎร์ธานี  และ  จ. กระบี่ เพิ่มเติมอีก   ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากธนาคารกรุงไทย จำกัด ( มหาชน )  ในการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยของทั้ง  2  หน่วยงานมาให้บริการร่วม   เพื่อผู้เสียภาษีในภูมิภาคนั้นได้รับความสะดวก  รวดเร็วในการบริการ  อีกทั้งประหยัดงบประมาณ และอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่ต้องบริการรับแบบฯ และชำระภาษี    จึงขอเชิญชวนให้ผู้เสียภาษีในท้องที่ดังกล่าว ใช้บริการยื่นแบบฯ และชำระภาษีได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยฯ  ที่ระบุไว้ได้  ตั้งแต่วันที่  1  กันยายน  2553  เป็นต้นไป  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ”                   

23 0

แบงก์ชาติ คาด สินเชื่อธพ.โค้งสามโตต่อเนื่อง

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในไตรมาส 3/53 ว่า คาดว่าความต้องการสินเชื่อของภาคธุรกิจ ยังมีเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์การเมืองคลี่คลายลง โดยสถาบันการเงินคาดว่า ความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจทุกประเภท จะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามความชัดเจนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัย จะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า หลังจากมีการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วในครึ่งปีแรก รวมถึงปัจจัยทางฤดูกาล ที่มีการชะลอตัวของอุปสงค์ในไตรมาส 3 สำหรับความต้องการสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อครัวเรือนอื่นๆ คาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า ตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น     ด้านมาตรฐานการให้สินเชื่อภาคธุรกิจของสถาบันการเงินคาดว่า จะทรงตัวทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม แต่สถาบันการเงินยังคงระมัดระวังการให้สินเชื่อ แก่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบทางการเมือง ขณะที่มาตรฐานการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จะผ่อนคลายลงเล็กน้อย ส่วนมาตรฐานการให้สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อครัวเรือนอื่นๆ จะเข้มงวดเล็กน้อย ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าว ได้จากการสำรวจในช่วงเดือนเม.ย. โดยมีสถาบันการเงินเข้าร่วมการสำรวจ 25 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง, สาขาธนาคารต่างประเทศ 5 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ อีก 5 แห่ง ซึ่งครอบคลุม 95% ของสินเชื่อทั้งระบบ

9 0

ครม. ตั้ง 'คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม' นั้งปธ.บอร์ดบสก.ต่อ

นายแพทย์มารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(บสท.) แทนกรรมการที่ครบวาระดังนี้ 1.คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เป็นประธานกรรมการต่ออีกวาระ 2.นางธาริษา วัฒนเกส เป็นกรรมการต่ออีกวาระ 3.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นกรรมการต่ออีกวาระ 4.นายบรรยง วิเศษมงคลชัย เป็นกรรมการแทนนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล 5.นายชาติศิริ โสภณพนิช เป็นกรรมการผู้แทนสมาคมธนาคารไทย แทนนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ 6.นายชัยวัธ มะระพฤกษ์วรรณ เป็นกรรมการผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยต่ออีกวาระตามที่สมาคมหอการค้าแห่งประเทศไทยเสนอ นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งนายมงคล สุระสัจจะ อธิบดีกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2553 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป            

7623 0

IHL เจ๋ง 6 เดือนกำไรพุ่งกว่า 5,477%

นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL  เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2553 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น  59.9 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552  ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 17.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 234.63%  สาเหตุที่กำไรไตรมาส 2/2553 ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมียอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 433.01 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน ปี 2552 จำนวน 234.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 198.86 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 85  ซึ่งการเพิ่มขึ้นเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการปรับตัวดีขึ้นในปี 2553 นอกจากนี้ บริษัทยังมีต้นทุนการขายอยู่ที่ 324.59 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76 ของยอดรายได้จากการขาย อัตราร้อยละของต้นทุนลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี2552 ซึ่งบริษัทมีต้นทุนขาย 192.10 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82 ของยอดรายได้จากการขาย  ซึ่งอัตราร้อยละของต้นทุนที่ลดลงมีสาเหตุมาจากราคาวัตถุดิบที่ลดลงประกอบกับผลผลิตที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลให้บริษัทมีการประหยัดจากขนาดการผลิต   ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาส 2/2553 มีจํานวน 24.41 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 2552 ซึ่งบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจํานวน14.86 ล้านบาท โดยการเพิ่มเป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการประจำงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 173.51ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5,477 จากปีก่อนที่ขาดทุน 3.22 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2553  คณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2553 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 23 สิงหาคม 2553 และให้รวบรวมรายชื่อตาม มาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 24 สิงหาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2553          'การจ่ายปันผลระหว่างกาลครั้งนี้ก็เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ถือหุ้น หลังจากที่บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้อย่างโดดเด่น ตามอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งเรามั่นใจว่าในปี 2553 นี้จะเป็นอีกหนึ่งปีทองของบริษัทฯ เพราะในครึ่งปีหลังยังเห็นทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างชัดเจนซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ อินเตอร์ไฮด์ เติบโตในทิศทางเดียวกันด้วย' เขากล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจในครี่งปีหลังเชื่อว่าจะยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก โดยปัจจัยหลักมาจากได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อ (order) ใหม่ๆ เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อ  จากลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการค่ายรถยนต์เข้ามารอการส่งมอบจนถึงสิ้นปีแล้ว จากการใช้กำลังการผลิต 2.5 ล้านตารางฟุต/เดือน ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าสามารถผลักดันให้รายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1,800-1,900 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้  ส่วนในปีหหน้า หลังจากที่ขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 50% เป็น 3-4 ล้านตารางฟุต/เดือน จะทำให้สามารถรับคำสั่งซื้อได้เพิ่มขึ้น  รวมทั้งยังเพิ่มความคล่องตัวในการรับงานที่มีขนาดใหญ่จากต่างประเทศ  ซึ่งเป็นแผนธุรกิจของบริษัทฯ ที่เตรียมขยายงานไปต่างประเทศมากขึ้นด้วย นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL  เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2553 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น  59.9 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552  ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 17.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 234.63%  สาเหตุที่กำไรไตรมาส 2/2553 ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมียอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 433.01 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน ปี 2552 จำนวน 234.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 198.86 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 85  ซึ่งการเพิ่มขึ้นเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการปรับตัวดีขึ้นในปี 2553 นอกจากนี้ บริษัทยังมีต้นทุนการขายอยู่ที่ 324.59 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76 ของยอดรายได้จากการขาย อัตราร้อยละของต้นทุนลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี2552 ซึ่งบริษัทมีต้นทุนขาย 192.10 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82 ของยอดรายได้จากการขาย  ซึ่งอัตราร้อยละของต้นทุนที่ลดลงมีสาเหตุมาจากราคาวัตถุดิบที่ลดลงประกอบกับผลผลิตที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลให้บริษัทมีการประหยัดจากขนาดการผลิต   ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาส 2/2553 มีจํานวน 24.41 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 2552 ซึ่งบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจํานวน14.86 ล้านบาท โดยการเพิ่มเป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการประจำงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 173.51ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5,477 จากปีก่อนที่ขาดทุน 3.22 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2553  คณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2553 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 23 สิงหาคม 2553 และให้รวบรวมรายชื่อตาม มาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 24 สิงหาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2553          'การจ่ายปันผลระหว่างกาลครั้งนี้ก็เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ถือหุ้น หลังจากที่บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้อย่างโดดเด่น ตามอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งเรามั่นใจว่าในปี 2553 นี้จะเป็นอีกหนึ่งปีทองของบริษัทฯ เพราะในครึ่งปีหลังยังเห็นทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างชัดเจนซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ อินเตอร์ไฮด์ เติบโตในทิศทางเดียวกันด้วย' เขากล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจในครี่งปีหลังเชื่อว่าจะยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก โดยปัจจัยหลักมาจากได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อ (order) ใหม่ๆ เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อ  จากลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการค่ายรถยนต์เข้ามารอการส่งมอบจนถึงสิ้นปีแล้ว จากการใช้กำลังการผลิต 2.5 ล้านตารางฟุต/เดือน ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าสามารถผลักดันให้รายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1,800-1,900 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้  ส่วนในปีหหน้า หลังจากที่ขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 50% เป็น 3-4 ล้านตารางฟุต/เดือน จะทำให้สามารถรับคำสั่งซื้อได้เพิ่มขึ้น  รวมทั้งยังเพิ่มความคล่องตัวในการรับงานที่มีขนาดใหญ่จากต่างประเทศ  ซึ่งเป็นแผนธุรกิจของบริษัทฯ ที่เตรียมขยายงานไปต่างประเทศมากขึ้นด้วย

13 0

นายกฯ ยัน ตีกลับเมล์NGV 4 พันคันไม่เอี่ยวการเมือง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่พิจารณาเห็นชอบโครงการรถเมล์ NGVพันคัน ว่า  ครม. ได้มอบหมายให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นประธานคณะทำงานเพื่อไปศึกษาประเด็นหลักที่ยังคงมีข้อคิดเห็นไม่ตรงกัน โดยจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดทุนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และต้องการให้โครงการดังกล่าวมีความเป็นไปได้จริง ไม่ใช่ปัญหาเรื่องการเมือง สำหรับประเด็นที่ต้องไปศึกษา 3 ข้อ ได้แก่ จำนวนพนักงานที่ขสมก. จะต้องทำการลดจำนวนพนักงานลง เพื่อลดภาระต้นทุนโดยเปลี่ยนมาใช้การจัดเก็บค่าโดยสารผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งขณะนี้พบว่ายังมีพนักงานที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเออรี่ รีไทร์ หรือไม่ 2-3 พันราย ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังไม่ได้มีแผนมารองรับชัดเจนว่ามีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะถ้าหากจำนวนพนักงานไม่ได้ลดลงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ก็จะทำให้รัฐบาลยังคงต้องแบกรับภาระดังกล่าว , กรณีรถเมล์ฟรี 800 คันที่ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปศึกษาว่าหลังจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพสิ้นสุดลงจะยังคงให้บริการรถเมล์ฟรีต่อไปอีกหรือไม่ ซึ่งในข้อดังกล่าวก่อนหน้านี้ยังไม่ได้มีการกำหนดรวมไปในสมมติฐานเดิมที่ได้มีการจัดทำโครงการรถเมล์ NGV ซึ่งก็ต้องไปพิจารณาดูว่าหากรถเมล์ฟรียังคงให้บริการต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารที่จะใช้รถเมล์ NGV หรือไม่ และ สุดท้ายบทบาทของรถร่วมบริการที่ยังมีข้อถกเถียงกันเรื่องเส้นทางการเดินรถ 'โครงการรถเมล์ NGV ถือเป็นโครงการเก่าที่มีมาตั้งแต่แรก ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะผลักดันให้โครงการมีความเป็นไปได้ แต่ก็ต้องอยู่ในหลักที่จะทำเช่นไรให้ลดการขาดทุนของขสมก. และทำให้รัฐไม่ต้องอุดหนุนขสมก. ยืนยันคณะกรรมการที่มีนายไตรรงค์ เป็นประธานจะหาแนวทางเพื่อให้ได้ข้อสรุปมีความเป็นไปได้ และมองว่าไม่ใช่เรื่องของการเมือง'นายกฯ กล่าว            

14 0

อัตราเงินเฟ้อเยอรมนีเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.2%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยวันนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.2% จาก 0.8% ในเดือนก่อนหน้า หลังราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบในเดือนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น 15% จากเดือนเดียวกันปีก่อน หลังเงินยูโรที่อ่อนค่าลงทำให้ราคาน้ำมันซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศสูงขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง เนื่องจากผู้บริโภคกังวลว่านโยบายลดการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลเยอรมนีจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ 'เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพ ซึ่งอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ระหว่าง 1%-1.5% ในปีนี้' นายเจ็นส์ คราเมอร์นักเศรษฐศาสตร์ที่นอร์ดแอลบีกล่าว

9 0

บลจ.บีที ได้ฤกษ์เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บีที ได้เปิดตัวในนามใหม่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้บริษัทได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล (ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มาเลเซีย) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (joint venture) ด้านการบริหารการลงทุนระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีกลุ่มซีไอเอ็มบี และ พรินซิเพิล ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เป็นเจ้าของกลุ่มซีไอเอ็มบีเป็นกลุ่มที่ให้บริการทางการเงินและการธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ2 ของมาเลเซีย ในขณะที่ พรินซิเพิล ไฟแนนเชียล กรุ๊ปเป็นบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ระดับโลกที่ก่อตั้งมานานกว่า 130 ปีโดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE)นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า "การ เป็นองค์กรระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะทำให้บริษัทสามารถนำเสนอกอง ทุนรวมได้หลากหลายครบวงจรและเจาะตลาดประเทศต่างๆได้ดีขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง""กองทุน ASEAN Equity Foreign Investment Fund (FIF)"ของบริษัทซึ่งลงทุนในบริษัทใหญ่ๆในระดับอาเซียนถือเป็นกองทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดของบริษัทการ มุ่งเน้นและการเป็นที่รู้จักในระดับภูมิภาคตลอดจนการมีผู้จัดการกองทุนที่มี ประสบการณ์สูงจะช่วยสร้างความโดดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งให้แก่บริษัทบริษัทจะอาศัยจุดแข็งนี้ออกกองทุน FIF อีกในครึ่งปีหลังของปีนี้ซึ่งได้แก่ กองทุน China-India-Indonesia Equity FIF"นายอนุสรณ์ กล่าวนายอนุสรณ์แถลงต่อสื่อมวลชนในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยมีผู้ร่วมงานได้แก่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ประธานธนาคาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) นางราชา นัวร์มา ออตมานหัวหน้าสายบริหารจัดการสินทรัพย์ กลุ่มซีไอเอ็มบี นายเร็กซ์  โอวยังกรรมการผู้จัดการใหญ่ พรินซิเพิล ไฟแนนเชียล กรุ๊ป - เอเชีย นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และนายแคมป์เบล ทัพลิ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มาเลเซียนายอนุสรณ์กล่าวเสริมว่า "บริษัทมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมายาวนานกว่า 2ทศวรรษในการบริหารกองทุนในประเทศโดยได้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฐานลูกค้าหลักได้แก่ รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ บริษัทข้ามชาติธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศ และลูกค้าบุคคลทีเป็นลูกค้าธนบดีบริษัทยังเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศที่มีผลงานโดดเด่นโดยล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทบริหารคือเมอร์เคียวสมุยซึ่งเป็นโรงแรมติดชายหาดบนเกาะสมุยในเครือ Accor ได้เสนอขายครั้งแรก(IPO) ปรากฏว่ามีนักลงทุนสนใจจองซื้ออย่างล้นหลามเกินจำนวนที่เสนอขายกองทุนรวมอื่นๆของบริษัทซึ่งเป็นที่ยอมรับเป็นอย่างดีในตลาดได้แก่กองทุนที่ลงทุนในตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีซึ่งให้ผลตอบแทนสูงแต่มีความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้กองทุนเกาหลีที่บริษัทกำลังจะออกในเดือนนี้ คือกองทุนตราสารหนี้เกาหลีทันใจจะเป็นกองทุนที่มีคุณสมบัติโดดเด่นล้ำหน้าต่างจากกองทุนอื่น คือจะมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนทันทีที่ลงทุน (Up-front dividend)"ขณะเดียวกัน นายแคมป์เบล ทัพลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มาเลเซียชี้แจงว่าขั้นตอนการลงทุนของบริษัทจะผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการภายใต้กรอบการบริหารความเสี่ยงในระดับภูมิภาค"การเข้าซื้อบริษัทบริหารจัดการกองทุนในประเทศไทยนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคของซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลกรุ๊ป แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะนับเป็นความท้าทายแต่เราก็พร้อมจะใช้โอกาสอันดีนี้ให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด โดยซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ประเทศไทยจะประสานความร่วมมือกับซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลกรุ๊ปในการออกผลิตภัณฑ์เพื่อให้สามารถสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าใหม่ปัจจุบันเรามีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร เป็นมูลค่ารวม 7,550ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็น สินทรัพย์ภายใต้การบริหารของซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ประเทศไทยมูลค่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ"นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวแสดงความยินดีที่ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย"นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของซีไอเอ็มบีกรุ๊ปจากนี้ไปผลิตภัณฑ์ซึ่งมีการออกในระดับภูมิภาคจะช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นแก่ลูกค้าได้ธนาคารรู้สึกยินดีกับการก้าวเข้ามาของ ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลในธุรกิจบริหารจัดการกองทุนในประเทศไทยเนื่องจากความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management)ของ ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลจะช่วยให้ธนาคารสามารถสนองความต้องการทางเลือกในการ ออมและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าธนบดีธนกิจของธนาคารได้เป็นอย่างดีและลงทุนในตราสารทุนของผู้ฝากที่มีฐานะและลูกค้าสิทธิพิเศษของธนาคาร"นายสุภัค กล่าวอีกว่า ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ประเทศไทยโดยจะจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านเครือข่ายสาขาทั่วประเทศของธนาคารนอกจากนี้  ยังกล่าวได้ว่าขณะนี้ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ประเทศไทยสามารถก้าวเป็นส่วนหนึ่งบนเส้นทางของศักยภาพและความเชี่ยวชาญในระดับนานาชาติของพรินซิเพิลไฟแนนเชียล กรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่ให้บริการทางการเงินระดับโลกที่ติดอันดับ Fortune500 พร้อมด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการถึง 9.4 ล้านล้านบาท (ณ 30มิถุนายน 2553)"เห็นได้ชัดว่า การร่วมธุรกิจกันระหว่างซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลและซีไอเอ็มบี ไทยจะเป็นการผสานความแข็งแกร่งระหว่างธุรกิจบริหารจัดการกองทุนและธุรกิจธนาคารเป็นอย่างดี"นายสุภัค กล่าว

56 0

สสช.พบผู้ว่างงานเดือนเมษายนปีนี้ลดลง

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ หรือ สสช. เปิดเผยว่า ผลสำรวจภาวะการทำงานของประชากรในประเทศไทยเดือนเมษายน 2553 พบว่า ช่วงปี 2552-2553 โดยภาพรวมทั่วประเทศมีจำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 2 แสนคน จาก 37.06 ล้านคนในปี 2552 เป็น 37.26 ล้านคนในปี 2553 โดย 2 แสนคนดังกล่าวเป็นผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมกว่า 1.5 แสนคน และเป็นผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรมอีก 5 หมื่นคน ส่วนในเดือนเมษายน 2553 พบว่ามีจำนวนผู้ว่างงานลดลง 3.66 แสนคน จากผู้ว่างงานเดิม 4.51 แสนคนในช่วงเดียวกันของปี 2552 ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นของการว่างงานของประชากรภายในหนึ่งประเทศ ขณะที่อัตรามีงานทำของวัยแรงงานในกลุ่มแรงงานจบใหม่ หรือ กลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 15-24 ปี พบว่า มีอัตราการว่างงานร้อยละ 4.7 ซึ่งแรงงานในกลุ่มนี้เป็นแรงงานใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดแรงงาน มักมีอัตราการว่างงานค่อนข้างสูงเช่นนี้เป็นปกติ ส่วนอัตราการว่างงานเป็นรายภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดเท่ากัน คือร้อยละ 1.6 รองลงมาเป็นภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และภาคเหนือมีอัตราการว่างงานน้อยที่สุด                

19 0

โตโยต้าไม่ต่อสัญญาจ้างงานพนง.ชั่วคราวในญี่ปุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  โตโยต้าไม่ต่อสัญญาจ้างพนักงานชั่วคราวที่โรงงานผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่น 600 ราย เพื่อเตรียมรับมือกับยอดขายรถยนต์ที่อาจลดลง เนื่องจากนโยบายอุดหนุนผู้ซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงานจะสิ้นสุดลงเดือนหน้า ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะทำให้โตโยต้ามีพนักงานชั่วคราวทั้งหมด 2,400 รายในช่วงปลายปี 2010 โดยพนักงานชั่วคราวได้รับการว่าจ้างภายใต้ข้อตกลงที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเพิ่มและลดจำนวนพนักงาน ในกรณีที่ความต้องการซื้อรถยนต์ผันผวน    ทั้งนี้ พนักงานชั่วคราวของโตโยต้ามีสัญญาการทำงานตั้งแต่ 11 เดือน - 2 ปี เมื่อสัญญาดังกล่าวสิ้นสุดลง พนักงานอาจได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานประจำหรือบริษัทอาจไม่ต่อสัญญาจ้างงาน ซึ่งโตโยต้าไม่เปิดเผยว่า พนักงานชั่วคราวกี่คนจาก 600 คนได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานประจำ

30 0

บอร์ด THANA ใจป้ำอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.08 บ.

บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป หรือ THANA หุ้นอสังหาฯ ในตลาดเอ็มเอไอ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรก ปี 53  หุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็นจำนวน 20 ล้านบาท หลังจากทำยอดขายครึ่งปีแรกโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนกว่า 46% จาก 330 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น 483  ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 72.7 ล้าน จากเดิมที่มีกำไรสุทธิงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 28.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึงกว่า 157%  พร้อมกันนี้  เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการภายใต้แบรนด์ “เดอะคลัสเตอร์ วิลล์” มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ประจำไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิประจำไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 เท่ากับ 30.30 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 15.38 ล้านบาท มาจากสาเหตุสำคัญมาจาก 1. รายได้จากการขายบ้านเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 64.60 ล้านบาท หรือเทียบเป็นร้อยละ 36.25 โดยมีรายได้จากการขาย 242.80 ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 178.20 ล้านบาท ในขณะที่ปริมาณการขายบ้านเพิ่มขึ้นประมาณ 28 หลัง หรือเมื่อเทียบเป็นร้อยละ 48.28 สาเหตุของการเพิ่มขึ้นมาจากการเปิดโครงการ ธนาสิริ ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์ 2 ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่เปิดขายในต้นปี 2553, โครงการเดอะไพรเวซี่ ไพร์มเพลส 2 และโครงการไพร์มเพลส ภูเก็ต-อนุสาวรีย์ 2, 3 ที่เริ่มขายในปี 2553 ประกอบกับมาตรการของทางภาครัฐในส่วนของการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการโอนบ้านและที่ดิน 2. อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯและบริษัทย่อยในไตรมาส 2 ปี 2553 และ 2552 เท่ากับร้อยละ 34.78 และ 29.02 ตามลำดับ 3. บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมภาษีเงินได้) เทียบเท่ากับรายได้จากการขายในไตรมาส 2 ปี 2553 และ 2552 เท่ากับร้อยละ 11.90 และ 13.08 ตามลำดับ 4 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมภาษี) ของไตรมาส 2 ปี 2553 มีจนวน 28.88 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2552 จำนวน 23.32 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากในไตรมาส 2 ปี 2553 บริษัทฯ ได้มีการปรับอัตราเงินเดือนประจำปี และรับพนักงานเพิ่มเติมในส่วนงานต่าง ๆ หลายตำแหน่งเพื่อรองรับการขยายงานทำให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนของพนักงานสูงขึ้น ประกอบกับได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเพิ่มเติมเพื่อรอรับจำนวนพนักงานที่เพิ่มมากขึ้นส่วนหนึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเช่าสำนักงานเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละเดือน พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2553 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานของบริษัท สำหรับงวด 6 เดือนแรก ตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน 2553 หุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 20 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 24 สิงหาคม 2553 เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลและให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 25 สิงหาคม 2553 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2553                

172 0

DRT เล็งชงบอร์ดจ่ายปันผล

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า บริษัทฯเตรียมที่จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเพื่อพิจารณาจ่ายเงินปันผลงวดระหว่างกาล(ม.ค.-มิ.ย.53) ภายในเดือนส.ค.นี้ แต่ทั้งนี้อัตราการจ่ายเงินปันผลจะมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือไม่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2552 บริษัทฯจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ส่วนทั้งปี 2552 จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท                

17 0
อ่านข่าวถัดไป
Sanook.commenu