บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24/03/53เทรดดิ้งต่อ..แต่ควรหาจังหวะซื้อตอนตลาดอ่อน และขายทำกำไรบ้าง!! นักลงทุนยังคงมั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวบวกขึ้นเกือบ 1% โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังมีสัญญาณอุปสงค์ที่ดีขึ้นในอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปก็ดีดตัวขึ้นด้วยจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตามค่าเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง เนื่องจากค่าเงินยูโรที่อ่อนแอลงจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาของกรีซที่ยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ชัดเจนจากยูโรโซน ส่วนตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ถือว่าอยู่ในลักษณะบวกแคบๆ ทำให้ FSS ยังคงคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังอยู่ในลักษณะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 770-790 จุดต่อไปก่อน ซึ่งในบ้านเรายังต้องจับตาดูสถานการณ์การเมืองต่อเนื่อง หลังมีการขยายเวลาใช้ พรบ.ความมั่นคง ไปจนถึง 30 มี.ค. และติดตามการเปิดประชุม 2 สภาฯ ในวันนี้ว่าสมาชิกของทั้ง 2 สภาฯ จะมีท่าทีอะไรออกมาบ้าง รวมถึงการกำหนดทิศทางการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเพิ่มเติมหลังเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของการชุมนุมใหญ่ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เลือกเข้าเทรดดิ้งเป็นรายตัว และหาจังหวะทยอยขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดขยับขึ้นเพื่อรอเข้ารับในจังหวะที่ SET อ่อนตัวลงมา โดยหุ้นที่น่าสนใจในช่วงนี้ได้แก่ PTTAR, PTTEP, TMB, ADVANC, AIT, AP, BCP, BEC, BGH, BMCL, CFRESH, CPALL, EGCO, GSTEEL, TSTH, HANA, HEMRAJ, IRPC, KASET, LPN, MCOT, TASCO, TTW, TVO เป็นต้น รวมทั้งหุ้นในกลุ่มแบงก์ ซึ่ง Top Picks ของเราได้แก่ KBANK, SCB, BAYประเด็นสำคัญวันนี้ ขยายเวลา พรบ. ความมั่นคง ตามตลาดคาด รัฐบาลขยาย พรบ. ความมั่นคงออกไปอีก 7 วัน ถึง 30 มี.ค. หลังสถานการณ์ชุมนุมยืดเยื้อ (อย่างน้อยให้ครอบคลุมถึงวันเสาร์ที่ 27 ที่เสื้อแดงชุมนุมใหญ่) แต่ปรับลดพื้นที่ลงโดยจะเหลือ 3 จังหวัดคือกรุงเทพ นนทบุรี สมุทรปราการ การขยายเวลาการใช้ พรบ. ความมั่นคงไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของตลาด ดังนั้น จึงเชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อดัชนี และเชื่อว่าการชุมนุมยืดเยื้อไม่ได้กระทบต่อตลาดโดยรวมเช่นกัน แต่จะกระทบกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เช่นกลุ่มโรงแรมและท่องเที่ยว ซึ่งก็เห็นผลแล้วจากดัชนีกลุ่ม Tourism ที่ perform แย่ที่สุดในรอบนี้ตั้งแต่ 9 ก.พ. ถึงวานนี้ ปรับตัวบวก 0.4% น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ ขณะที่ SET Index บวก 14.1% นอกจากนี้ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ลดลงคือกลุ่มโทรศัพท์มือถือ และโรงพยาบาลที่มีฐานลูกค้าเป็นต่างชาติ (BH, BGH) กลุ่มอสังหาฯ ครม.ต่ออายุมาตรการอสังหาฯ เฉพาะค่าโอนที่ดิน (2% เป็น 0.01%) และภาษีจดจำนอง (1% เป็น 0.01%) ต่อไปอีก 2 เดือนเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ จะได้ประโยชน์จากมาตรการต่ออายุนี้ คือ ลดค่าใช้จ่ายการโอนได้ 1% เท่านั้น (แบ่งคนละครึ่งกับผู้ซื้อ) ในระยะ 2 เดือนนี้ ส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ไม่ได้รับการต่ออายุ ดังนั้น คาดว่าการต่อมาตรการจะไม่กระทบต่อประมาณการกำไรทั้งปี 2010 ของกลุ่มที่อยู่อาศัยมากนัก แต่จะเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อหุ้นที่จะมีการโอนคอนโดมีเนียมที่ครบกำหนดโอนมากใน 1Q10-2Q10 ได้แก่ QH และ AP และ PS ที่มีบ้านก่อสร้างเสร็จในช่วง 1Q10 และจะโอนใน 2Q10 ปัจจัยต่างประเทศที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อตลาดในช่วงปลายสัปดาห์ได้แก่ 1) การประชุมของธนาคารกลางไต้หวันวันพฤหัสนี้ ต้องจับตาว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่หลังจากอินเดีย surprise ตลาดด้วยการขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (ทำให้ดัชนีลบ 1% และกดดันตลาดหุ้นทั่วเอเชีย) 2) ความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯ หลังจากที่สหรัฐฯ วิจารณ์และกดดันอย่างหนักให้ค่าเงินหยวนแข็งค่า ทั้งนี้ รมว. พาณิชย์ของจีนจะไปเยือนสหรัฐฯ วันที่ 24 – 26 มี.ค. นี้ อาจมีการถกเรื่องค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าเกินจริง 3) หลายฝ่ายเริ่มคาดการณ์ว่าจีนจะออกมาตรการคุมเข้มการเงินเพิ่มเติมเช่นการขึ้นอัตราการกันสำรองเงินฝาก หรือปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 4) ปัญหาหนี้ของกรีซที่ทาง EU จะประชุม Summit ในวันที่ 25 – 26 มี.ค. นี้ เราให้น้ำหนักน้อยกับประเด็นนี้เพราะเชื่อว่าสุดท้ายกรีซจะหันไปพึ่ง IMF เนื่องจากประเทศในกลุ่ม EU ไม่ได้อยู่ในภาวะที่พร้อมจะช่วยเหลือได้ แต่สิ่งที่จะกระทบตลาดคือค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าในช่วงปลายสัปดาห์นี้ถึงต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งจะกดดันราคาโภคภัณฑ์ Technical View : “ดัชนีดีดผ่านแนวต้าน 778 จุดขึ้นมายืนสูงกว่าทำให้ยังมีลุ้นขึ้นหาแนวต้านระดับถัดๆ ไปให้ทำกำไรตามรอบ แต่ถ้าย้อนต่ำกว่าลงอีกต้องถอยไปรอที่แนวรับถัดไป...โดยยังเน้นให้เทรดดิ้งเป็นรอบๆ...” แนวรับ : 778-775*** , 763-757* , 753** แนวต้าน : 787-788*** , 796-800*Technical Picks:ITD (Bt 2.60 เป้าเทคนิค 2.74-2.84 cut loss ถ้าหลุด 2.54)PSL (Bt 19.10 เป้าเทคนิค 20.50-21 cut loss ถ้าหลุด 18.70)MINT(Bt11.50 เป้าเทคนิค 12.40-12.80 cut loss ถ้าหลุด 11)