อ่านข่าวย้อนหลัง ทั้งหมด หน้า 25864

เนื้อหาทั้งหมด

เนื้อหาทั้งหมด ใหม่ล่าสุด

เนื้อหาทั้งหมด
ใหม่ล่าสุด
"พีรพัฒน์เทคโนโลยี"ขายไอพีโอ25ล้านหุ้น-เข้าเทรดmaiครึ่งปีแรก

"พีรพัฒน์เทคโนโลยี"ขายไอพีโอ25ล้านหุ้น-เข้าเทรดmaiครึ่งปีแรก

นายอรรนพ จุลพันธ์ กรรมการ บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่บริษัทฯ จะขายให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้ประมาณครึ่งแรกของปี 2553 เนื่องจากขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินงาน ซึ่งภายในไตรมาส1/2553 คาดว่าจะยื่นขอมูลไฟลิ่งให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ส่วนเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้สำหรับการขยายคลังสินค้าและเป็นเงินทุนหมุนเวียน ' เรื่องนำหุ้นเข้าตลาดเอ็มเอไอ ตอนนี้กำลังเตรียมการอยู่ ซึ่งคาดว่าไตรมาส 1 ปีนี้ คงยื่นไฟลิ่งกับ ก.ล.ต.ได้ ส่วนระยะเวลาการเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนั้น อยากให้ไม่เกินครึ่งแรกของปีนี้หรือภายในไตรมาส 2 แต่คงต้องรอดูภาวะตลาดฯ ประกอบด้วยเพราะหากภาวะตลาดฯ ไม่ดีก็คงยังไม่เข้า ' นายอรรนพ กล่าว

เปิดอ่าน456
SIRIคลอดSIRI-W1แจกผู้ถือหุ้นเดิม

SIRIคลอดSIRI-W1แจกผู้ถือหุ้นเดิม

นายวันจักร์ บุรณศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2552 ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)  เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้บริษัททำการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (SIRI-W1) ( ใบสำคัญแสดงสิทธิ ) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) โดยบริษัทได้กำหนดให้วันที่ 9 ตุลาคม 2552 เป็นวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) มีสิทธิในการ รับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทโดยให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (ตามที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ด้วยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 12 ตุลาคม 2552 ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ และที่ประชุมได้มอบอำนาจให้คณะกรรมการบริษัท และ/หรือกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท และ/หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท หรือกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท มีอำนาจในการกำหนดและแก้ไขเงื่อนไขและรายละเอียดอื่น ๆ อันจำเป็นและสมควรซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธินั้น ในการนี้ ประธานอำนวยการ และ กรรมการผู้จัดการ ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรกำหนดให้ทำการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 20 มกราคม 2553

เปิดอ่าน3,081
คาดราคาทองคำโลกอยู่ในกรอบ1000-1340 ดอลลาร์/ออนซ์

คาดราคาทองคำโลกอยู่ในกรอบ1000-1340 ดอลลาร์/ออนซ์

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG เปิดเผยถึง ราคาทองคำในตลาดโลกใน ปี 2553 ซึ่งอ้างอิงจากสถาบันเหมืองทองทั่วโลก (GFMF) ว่า ราคาทองเฉลี่ยปีนี้จะ อยู่ที่ 1172 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยกรอบการเคลื่อนไหวทั้งปีจะอยู่ที่ 1,000-1,340 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดกว่าปี 2552 เนื่องจาก ตลาดไม่มีปัจจัยใหม่ที่โดดเด่นพอจนทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวรุนแรง นักลงทุน ส่วนใหญ่จะเข้ามาซื้อขายทองจากปัจจัยรายวัน เช่นในวันนี้มีข่าวเรื่องกรีซมีปัญหา เรื่องทุนสำรองของประเทศจึงทำให้ราคาทองคำระหว่างวันปรับตัวลดลงมา ทั้งนี้ยัง ต้องติดตามตลาดทองคำขนาดใหญ่อย่างอังกฤษ สหรัฐฯ และจีน ซึ่งหากมีข่าวจาก ทางประเทศเหล่านี้จะทำให้ราคาทองผันผวนรุนแรง โดยกลยุทธ์การลงทุนในตลาดทองซื้อขายจริง แนะนำให้รอซื้อเมื่อราคา ทองคำอ่อนตัวมาบริเวณ 1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ และไปรอขายทำกำไรเมื่อราคา ทองคำอยู่ที่ระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้นักลงทุนซื้อ ขายอย่างปลอดภัยที่สุด

เปิดอ่าน104
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน9,933
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน5,304
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน9,932
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน9,929
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน10,334
คาดหุ้นไทยบ่ายนี้ยืนในแดนลบ-แนวรับ742จุด

คาดหุ้นไทยบ่ายนี้ยืนในแดนลบ-แนวรับ742จุด

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวถึงภาพรวมดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ดัชนีฯแกว่งตัวแดนลบในกรอบแคบๆ โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์คที่ปรับตัวลดลง 100.90 จุด เนื่องจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2552 ที่ 3.28 พันล้านดอลลาร์ หรือ 74 เซนต์ต่อหุ้น แม้เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ หลังต้นทุนสินเชื่อที่อยู่ในระดับสูงจากสถานการณ์ด้านการจ้างงานที่ยังคงวิกฤตในสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวล นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง 1.39 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ราคา 78  ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นกลุ่มมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ อย่าง กลุ่มพลังงาน และกดดันการเคลื่อนไหวของดัชนีฯอย่างมีนัยสำคัญ โดยดัชนี ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดเช้าที่ระดับ  21,582.44 จุด ลดลง 71.72 จุด หรือ -0.33 % ด้านดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 11:47 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,825.09 จุด ลดลง 157.01 จุด และดัชนี เวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน เวลา 11:56 น.(ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 8,348.04 จุด ลดลง 8.85 จุด สำหรับแนวโน้มดัชนีฯในช่วงบ่ายนี้ ประเมินว่า ดัชนีฯน่าจะเคลื่อนไหวในแดนลบต่อเนื่องจากช่วงเช้า แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างการซื้อขายดัชนีฯอาจเคลื่อนไหวในแดนบวกได้บ้าง จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 4/2552 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากทิศทางของตลาดหุ้นภูมิภาคที่เริ่มรีบาวน์ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารฯ โดยประเมินแนวรับอยู่ที่ 742 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 750 จุด

เปิดอ่าน12
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน9,722
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน6,363
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน9,920
นายกฯแจงเจโทรแก้ปัญหามาบตาพุดพรุ่งนี้

นายกฯแจงเจโทรแก้ปัญหามาบตาพุดพรุ่งนี้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พรุ่งนี้ (19 ม.ค.) ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) จะเข้าพบ ซึ่งตนจะใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงและทำความเข้าใจกับนักลงทุนญี่ปุ่นถึงแนว นโยบายและขั้นตอนการแก้ไขปัญหาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดทั้งนี้เชื่อมั่นว่า แนวทางแก้ปัญหาจะชัดเจนภายใน 6 เดือน โดยในอีก 2 เดือน หลังจากมีองค์กรอิสระจะสามารถให้ความเห็นได้ สำหรับการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA) นั้น จะต้องพิจารณาไปตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดต้องให้ความร่วมมือเร่งนำเสนอ รายงานดังกล่าวเข้ามาอย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายทั้งหมดการการถูกชะลอโครงการลงทุน ตามคำสั่งศาลปกครองได้ เนื่องจากศาลอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในแต่ละโครงการที่จะส่งผลให้บางโครงการ สามารถเดินหน้าต่อ และทำให้มูลค่าความเสียหายสามารถปรับลดลงมาได้

เปิดอ่าน15
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน9,942
บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บล.ธนชาต : Daily Trading Strategy 18/01/53

บวกไม่เกิน 748 และอ่อนสู่ Low เช้า 744-743 ดัชนีฯ อยู่ที่  746.27  จุด -0.25  จุด -0.03 %  ปริมาณซื้อขาย 9,174.20 ลบ.สรุปทิศทางดัชนีฯ ช่วงเช้า เช้าไม่ต่างจากที่คาดการณ์ โดยเปิดอ่อนตัวลงทันที 2.33 จุด ทำ Low ไว้ที่ 743.56 จุด ซึ่งระดับเปิดไม่หลุดจุดเสี่ยงแนวรับ 744 จุดที่เราวางไว้ เพียงแต่ระหว่าง ชม. ทำ Low หลุดต่ำกว่า ก่อนจะดีดกลับขึ้นทันที เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นที่มีประเด็นเรื่องควบรวม อาทิ IRPC แนะนำไปเมื่อวันศุกร์ใน stock picks ติด Most Active อันดับ 1 กินส่วนแบ่งตลาดฯ 12.46% ตามด้วย PTTAR ที่วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร กินส่วนแบ่งตลาด 8.79% ติด Most Active อันดับ 2 ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังเป็นการเล่นเลือกเล่นคละเป็นรายตัว ดึงให้ SET แกว่งลบตลอดการซื้อขายครึ่งเช้าแนวโน้มบ่ายนี้ SET จะดีดต่อได้ไม่เกินแนวต้าน 748 จุด และอ่อนตัวทันที เพราะภาพราย 15 นาทียังอยู่ในระยะการคลายตัวจากภาวะ Overbought แนวรับให้ไว้สำหรับบ่ายนี้ คือ Low ของเมื่อเช้า 744-743 จุด สาเหตุที่ SET บ่ายนี้หลังจากขึ้นแตะแนวต้าน 748 จุดแล้วจะไม่อ่อนเร็ว เพราะการค้ำยันตัวดัชนีด้วยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีประเด็นการควบรวมเข้าหาหนุน ขณะที่กลุ่มธนาคารมีแรง sell on fact ส่งผลให้ตัวดัชนีจะลงไม่เยอะ แต่ Vol. จะพองหนาขึ้นมา ส่วนรายวันเกาะ Sideway up ได้ เมื่อปิดไม่หลุด 744 จุด การต่อยอดจะไม่สามารถทำได้เกิน 758-760 จุด เราให้ไว้เป็นทั้งแนวต้านจุดยอดของรายวันและรายสัปดาห์ ดีที่สุด คือ แตะ 758-760 จุด แล้วอ่อนตัวทันที ความเห็นเพิ่มเติม : รายวันคลายตัวและเริ่มดีด แต่สัปดาห์ยังเสี่ยงที่จะสุดแค่ 758-760

เปิดอ่าน9,930
หุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่746.27จุด ลดลง0.25จุด

หุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่746.27จุด ลดลง0.25จุด

เช้าวันนี้ดัชนีฯ ปิดที่  746.27 จุด ลดลง 0.25 จุด หรือ 0.03%    มูลค่าการซื้อขาย 9,174.20 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่1.IRPC  ปิดที่ 4.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,143.41 ลบ.2.PTTAR ปิดที่ 27.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง  มูลค่าการซื้อขาย 806.46 ลบ.3.PTT   ปิดที่ 245.00 บาท ลดลง 2.00 บาท  บาทมูลค่าการซื้อขาย 368.78 ลบ.4.BANPU   ปิดที่  622.00 บาท ลดลง 6.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 303.06 ลบ.5.PTTEP   ปิดที่  149.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท  มูลค่าการซื้อขาย 235.61 ลบ.               

เปิดอ่าน14
GBXรุกทองคำแท่ง-TFEXเสริมแกร่ง หวังบล.ฟันรายได้710ล.

GBXรุกทองคำแท่ง-TFEXเสริมแกร่ง หวังบล.ฟันรายได้710ล.

โกลเบล็ก กรุ๊ป จัดทัพเสริมกลยุทธ์ทางธุรกิจ รับปี53 เร่งขยายฐานลูกค้า หวังดันรายได้เพิ่ม “ภาคภูมิ ภาคย์วิศาล” ระบุ ธุรกิจค้าทองคำแท่ง ยังไปได้สวย เตรียมเปิดตลาดซื้อขายทองคำผ่านอินเตอร์เน็ตรับวาเลนไทน์ พร้อมดันยอดขายปีนี้แตะ8,000 ล้านบาท ด้าน “ชนะชัย จุลจิราภรณ์” วางตัว TFEX ทำรายได้ ประกาศขอหั่นสัดส่วนรายได้ การซื้อขายหลักทรัพย์เหลือ 50%  เหตุค่าคอมฯแข่งเดือด เชื่อบล.ปีนี้รายได้ประมาณ 710 ล้านบาท นายภาคภูมิ ภาคย์วิศาล  กรรมการผู้จัดการ บริษัทโกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานธุรกิจในปี2553 บริษัทฯยังคงมุ่งพัฒนาและขยายธุรกิจค้าทองคำแท่งอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มปริมาณการซื้อขาย และการขยายฐานลูกค้าของบริษัทฯ , การสร้าง Brand Awareness จนถึงการสร้าง Brand Loyalty ให้กับทองคำแท่งภายใต้ชื่อ “GBX” (Globlex)  ตลอดจนการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีอยู่ให้มีศักยภาพมากขึ้น “ ปัจจุบันบริษัทฯให้บริการ อาทิ  SMS ราคาทองคำ , บทวิเคราะห์ราคาทองคำ , การจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านการลงทุนในทองคำ , และการรับ-ส่งทองคำในเขตพื้นที่ที่บริษัทฯกำหนด ดังนั้นในปีนี้ เราจะมีการขยายช่องทางในการซื้อขายและบริการต่างๆเพิ่มเติมให้กับลูกค้าของบริษัทฯให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บริการการซื้อขายทองคำแท่งผ่านทาง Internet ซึ่งน่าจะเริ่มได้ในช่วงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์(วันวาเลนไทน์) , บริการการซื้อขายทองคำในช่วงเวลากลางคืน(Night Trade) Campaign ต่างๆสำหรับลูกค้าปัจจุบันที่มีวอลุ่มสูง และสำหรับลูกค้าใหม่ที่มาเปิดบัญชีซื้อขายฯลฯ “ นายภาคภูมิ กล่าว สำหรับภาพรวมของธุรกิจค้าทองคำแท่งในปี2553 เชื่อว่าทองคำแท่งยังคงมีบทบาทที่สำคัญในแง่ของเครื่องมือในการลงทุน การออม และการสะสมความมั่งคั่งอยู่ โดยจะสังเกตได้จากความสนใจของนักลงทุนไทยต่อการลงทุนในทองคำแท่งที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบในปีนี้บริษัทฯมีนโยบายเชิงรุกในการดำเนินธุรกิจค้าทองคำแท่งต่อเนื่องจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 8,000 ล้านบาท ขณะที่อัตราผลกำไรได้ประมาณการไว้ที่ขั้นต่ำ 20 ล้านบาท  โดยอิงกับฐานลูกค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 คน ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมของทิศทางและแนวโน้มของราคาทองคำในปี2553นั้น มองว่าราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนถึงปลายไตรมาส1/2553 ก่อนที่จะมีการพักฐาน โดยได้ประเมินTarget Price ของราคาทองคำโลกไว้ที่ 1,250-1,300 $/Oz. และราคาทองคำไทยไว้ที่ 19,500 – 20,500 บาท ในช่วงไตรมาสที่ 1/2553 “สำหรับช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของปี 2553 น่าจะเป็นช่วงที่ราคาทองคำมีการตกพักฐานเกิดขึ้น โดยราคาทองคำโลกน่าจะมีการปรับตัวลงมายังระดับ 1,000-1,050 $/Oz. และราคาทองคำไทยลงมาที่ราวๆ 16,500 บาท จึงเป็นช่วงที่น่าทยอยซื้อทองคำสะสมอีกครั้งในลักษณะ “Dollar Cost Average” เพื่อกระจายต้นทุนและ Market Timing “ นายภาคภูมิ กล่าว ด้านนายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบล.ในปี2553 บริษัทฯยังคงเน้นกระจายความเสี่ยงของรายได้ โดยจะไม่เน้นสัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์เหมือนในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากในปีนี้ธุรกิจดังกล่าวเริ่มมีการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่เปิดใช้ค่าคอมมิสชั่นขั้นบันได และต่อเนื่องไปยังการเปิดเสรีการค้าหลักทรัพย์ในปี 2555 ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯต้องปรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯลง ทั้งนี้ บริษัทฯได้ประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ของธุรกิจในปี2553ที่ระดับ 710 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2552 ที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 497 ล้านบาท โดยจะมาจากสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ 50% ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่มีสัดส่วนรายได้ 63% , รายได้จากธุรกิจตราสารอนุพันธ์(TFEX)15-20% จากปีก่อนที่ 13% , รายได้จากการลงทุนของบริษัท20% จากปีก่อน16% , รายได้จากอัตราดอกเบี้ยการกู้ยืม 5% จากปีก่อน 5% , รายได้จากวาณิชธกิจ 5% และรายได้อื่นๆอีก 5% นายชนะชัย ยังได้กล่าวอีกว่า บริษัทฯเตรียมรุกธุรกิจTFEXมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวยังมีแนวโน้มอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง  ขณะเดียวกันหากเปรียบเทียบสัดส่วนการลงทุนในตลาดTFEX ระหว่างประเทศไทย กับตลาดในต่างประเทศ อาทิ ไต้หวัน , เกาหลี ฯลฯ ต้องยอมรับว่าสัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนไทยในTFEX ถือว่าอยู่ในสัดส่วนที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับต่างประเทศ เนื่องจากพฤติกรรมของนักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่มักจะลงทุนในตลาดหุ้นเป็นหลัก “ บริษัทฯจะเน้นในการขยายฐานลูกค้าTFEXมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีบัญชีประมาณ 1,220 บัญชี โดยแบ่งเป็นบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวที่ 330 บัญชี  พร้อมทั้งตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ของTFEXในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น12.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 7.54% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปิดขาย  Mini-Gold Futures และ Interest Rate Futures ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่ารายได้จากธุรกิจดังกล่าวจะสามารถเสริมรายได้ของธุรกิจโดยรวมของบริษัทหลักทรัพย์ได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับหากย้อนไปในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี2552 มาร์เก็ตเแชร์ของบริษัทฯปรับตัวขึ้นมาอยู่อันดับ1 เป็นระยะเวลาที่ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าในปีนี้TFEXมีแนวโน้มการขยายตัวได้อย่างชัดเจน” นายชนะชัย กล่าว

เปิดอ่าน96
คลังจับมือผู้บริหารกระทรวงลงนามกำจัดผลประโยชน์ทับซ้อน

คลังจับมือผู้บริหารกระทรวงลงนามกำจัดผลประโยชน์ทับซ้อน

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าากระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะผลักดันการสร้างจริธรรมในกระทรวง โดยเฉพาะการสร้างธรรมาภิบาล ในปี 2553 โดยในเร็วๆนี้ ตนพร้อมด้วยปลัดกระทรวงการคลังและผู้บริหารกระทรวง จะร่วมกันประกาศและร่วมลงนามสัตยาบัน เพื่อให้ใช้กฎเกณฑ์เดียวกันในการกำจัดผลประโยชน์ทับซ้อนและอำนาจไม่ควร ซึ่งคาดว่าเกณฑ์ดังกล่าวจะบังคับใช้ได้ 31 มกราคมนี้ 'ตนและปลัดกระทรวงการคลังสร้างจริยธรรมและธรรมาภิบาลไม่ว่าจะเป็นข้าราชการการเมือง หรือส่วนราชการจะใช้กฎเกรณฑ์เดียวกัน'นายกรณ์กล่าวนอกจากนั้น จะมีการยกระดับองค์กรในกระทรวงการคลัง ในการเปิดเผยข้อมูลให้มากขึ้น โดยจะยกมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต. ที่ใช้สำหรับบริษัทจดทะเบียนมาใช้กับหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสของการทำงาน

เปิดอ่าน8