อ่านข่าวย้อนหลัง ทั้งหมด หน้า 26237

เนื้อหาทั้งหมด

เนื้อหาทั้งหมด ใหม่ล่าสุด

เนื้อหาทั้งหมด
ใหม่ล่าสุด
KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

 นายเวทย์ นุชเจริญ ผู้ช่วยอาวุโสฝ่ายสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีสิ้นปี52นี้ต่ำเป้าหมายที่วางไว้ 7% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธนาคารได้รับการชำระคืนหนี้จากกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่เกี่ยวข้องกับพืชไร่ ทั้งนี้ ปัจจุบันสินเชื่อของธนาคารขยายตัวได้เพียง 5%  อย่างไรก็ดี ในปี 2553 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 10% เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10-20 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งสินเชื่อในโครงการไทยเข้มแข็ง  ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 52 พอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้พอร์ตสิ้นเชื่อจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท  นายเวทย์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการแข็งขันด้านการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในปี 53 จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าสถาบันการเงินหลายแห่งได้ออกมาระบุว่าจะรุกการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารได้เตรียมผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ 

เปิดอ่าน7
GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

       นายอัญชตรรถ เตชะมาถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFM กล่าวว่า ปีหน้า(พ.ศ.2553) บริษัทเตรียมทุ่มงบลงทุน 20-30 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่โรงงาน รองรับออเดอร์ใหม่ที่จะทยอยเข้ามาในปีหน้า โดยคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยประมาณไตรมาส 3/2553        'ปีหน้าเราเตรียมลงทุนในส่วนของการขยายพื้นที่โรงงาน เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงปีหน้า ซึ่งคงใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6-7 เดือน หรือประมาณไตรมาส 3/2553 คงเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจะทำให้รองรับกำลังการผลิตได้อีก 20% จากปัจจุบันที่รองรับกำลังการผลิตได้ 70-80% จากกำลังการผลิตเต็มที่ 100% ' นายอัญชตรรถ กล่าว        อย่างไรก็ตามแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงหรือดีกว่านโยบายคือไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาบริษัท จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและอยู่ในอัตราที่สูงกว่านโยบาย ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นยอมรับว่าไม่หวือหวานัก เพราะเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาวและให้ผลตอบแทนที่ดี

เปิดอ่าน15
KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

 นายเวทย์ นุชเจริญ ผู้ช่วยอาวุโสฝ่ายสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีสิ้นปี52นี้ต่ำเป้าหมายที่วางไว้ 7% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธนาคารได้รับการชำระคืนหนี้จากกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่เกี่ยวข้องกับพืชไร่ ทั้งนี้ ปัจจุบันสินเชื่อของธนาคารขยายตัวได้เพียง 5%  อย่างไรก็ดี ในปี 2553 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 10% เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10-20 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งสินเชื่อในโครงการไทยเข้มแข็ง  ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 52 พอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้พอร์ตสิ้นเชื่อจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท  นายเวทย์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการแข็งขันด้านการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในปี 53 จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าสถาบันการเงินหลายแห่งได้ออกมาระบุว่าจะรุกการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารได้เตรียมผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ 

เปิดอ่าน9
KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

 นายเวทย์ นุชเจริญ ผู้ช่วยอาวุโสฝ่ายสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีสิ้นปี52นี้ต่ำเป้าหมายที่วางไว้ 7% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธนาคารได้รับการชำระคืนหนี้จากกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่เกี่ยวข้องกับพืชไร่ ทั้งนี้ ปัจจุบันสินเชื่อของธนาคารขยายตัวได้เพียง 5%  อย่างไรก็ดี ในปี 2553 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 10% เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10-20 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งสินเชื่อในโครงการไทยเข้มแข็ง  ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 52 พอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้พอร์ตสิ้นเชื่อจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท  นายเวทย์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการแข็งขันด้านการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในปี 53 จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าสถาบันการเงินหลายแห่งได้ออกมาระบุว่าจะรุกการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารได้เตรียมผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ 

เปิดอ่าน5
GFM ตั้งเป้าปี53 โต10%

GFM ตั้งเป้าปี53 โต10%

        นายอัญชตรรถ เตชะมาถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFM กล่าวว่า ตั้งเป้ารายได้ปี 53 เพิ่มขึ้น 10% จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะลดลงประมาณ 20-30% จากปี 2551 ที่ทำได้ 1,794.23 ล้านบาท เพราะได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ส่งผลให้มีคำสั่งผลิตสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาทองเริ่มลดลง ทำให้ลูกค้าสั่งผลิตสินค้าที่ทำจากทองเพิ่มขึ้นอีกด้วย        ' ที่ปีนี้แนวโน้มของรายได้จะลดลง 20-30% เพราะในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าลดลง แต่ปีหน้าแนวโน้มคงดีขึ้น หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ส่วนราคาทองที่ลดลงไม่ได้ส่งผลบวกต่อบริษัทฯ โดยตรง แต่จะได้ประโยชน์ทางอ้อม เพราะลูกค้าจะสั่งผลิตสินค้าที่ทำจากทองเพิ่มขึ้น' นายอัญชตรรถ กล่าว

เปิดอ่าน5
KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

 นายเวทย์ นุชเจริญ ผู้ช่วยอาวุโสฝ่ายสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีสิ้นปี52นี้ต่ำเป้าหมายที่วางไว้ 7% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธนาคารได้รับการชำระคืนหนี้จากกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่เกี่ยวข้องกับพืชไร่ ทั้งนี้ ปัจจุบันสินเชื่อของธนาคารขยายตัวได้เพียง 5%  อย่างไรก็ดี ในปี 2553 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 10% เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10-20 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งสินเชื่อในโครงการไทยเข้มแข็ง  ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 52 พอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้พอร์ตสิ้นเชื่อจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท  นายเวทย์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการแข็งขันด้านการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในปี 53 จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าสถาบันการเงินหลายแห่งได้ออกมาระบุว่าจะรุกการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารได้เตรียมผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ 

เปิดอ่าน7
KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส(ASP) กล่าวว่า จากการที่บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ  KSL ประกาศผลการดำเนินงานงานงวด 1 ปี สิ้นสุด 31 ต.ค. 52  กำไรเพิ่มอยู่ที่ 900.70 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 859.52 ล้านบาท โดยตัวเลขกำไรที่ออกมาดังกล่าวใกล้เคียงกับที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการงวดไตรมาส 4 /51-52 (ส.ค.-ต.ค.52) มีการอ่อนตัวลง เนื่องจาก เนื่องจากบริษัทฯได้ทำการปรับปรุงต้นทุนค่าอ้อยขึ้น 15 บาทต่อตัน เพื่อสะท้อนค่าอ้อยขั้นสุดท้ายสำหรับปี 2552/53 ที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ประกาศที่ 960 บาทต่อตัน สูงกว่าค่าอ้อยขั้นต้นที่เคยประกาศไว้ที่ 945 บาท/ตัน นอกจากนี้ หากประเมินถึงผลประกอบการในปี 53 (สิ้นสุด ต.ค.) ในส่วนงบประจำงวดไตมาส 1/52-53 (พ.ย.-ม.ค.)   คาดว่า KSL มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรออกมาอย่างโดดเด่น ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานรวมในปีหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้อยู่ที่ 1,323 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจน้ำตาลเป็นหลัก ประกอบกับในช่วงดังกล่าวราคาน้ำตาลมีโอกาสที่จะทำจุดสูงสุด ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ทั้งจากปริมาณและราคาขาย โดยปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น ตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะดีมานด์จากประเทศอินเดียที่จำเป็นต้องนำเข้าน้ำตาลในสัดส่วนสูงเพื่อเพียงพอกับความต้องการบรโภคในประเทศ ขณะที่ราคาขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2552 กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อให้ราคาเหมาะสมปี 53 อยู่ที่ 16.46 บาท

เปิดอ่าน5
KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส(ASP) กล่าวว่า จากการที่บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ  KSL ประกาศผลการดำเนินงานงานงวด 1 ปี สิ้นสุด 31 ต.ค. 52  กำไรเพิ่มอยู่ที่ 900.70 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 859.52 ล้านบาท โดยตัวเลขกำไรที่ออกมาดังกล่าวใกล้เคียงกับที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการงวดไตรมาส 4 /51-52 (ส.ค.-ต.ค.52) มีการอ่อนตัวลง เนื่องจาก เนื่องจากบริษัทฯได้ทำการปรับปรุงต้นทุนค่าอ้อยขึ้น 15 บาทต่อตัน เพื่อสะท้อนค่าอ้อยขั้นสุดท้ายสำหรับปี 2552/53 ที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ประกาศที่ 960 บาทต่อตัน สูงกว่าค่าอ้อยขั้นต้นที่เคยประกาศไว้ที่ 945 บาท/ตัน นอกจากนี้ หากประเมินถึงผลประกอบการในปี 53 (สิ้นสุด ต.ค.) ในส่วนงบประจำงวดไตมาส 1/52-53 (พ.ย.-ม.ค.)   คาดว่า KSL มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรออกมาอย่างโดดเด่น ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานรวมในปีหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้อยู่ที่ 1,323 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจน้ำตาลเป็นหลัก ประกอบกับในช่วงดังกล่าวราคาน้ำตาลมีโอกาสที่จะทำจุดสูงสุด ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ทั้งจากปริมาณและราคาขาย โดยปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น ตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะดีมานด์จากประเทศอินเดียที่จำเป็นต้องนำเข้าน้ำตาลในสัดส่วนสูงเพื่อเพียงพอกับความต้องการบรโภคในประเทศ ขณะที่ราคาขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2552 กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อให้ราคาเหมาะสมปี 53 อยู่ที่ 16.46 บาท

เปิดอ่าน7
KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส(ASP) กล่าวว่า จากการที่บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ  KSL ประกาศผลการดำเนินงานงานงวด 1 ปี สิ้นสุด 31 ต.ค. 52  กำไรเพิ่มอยู่ที่ 900.70 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 859.52 ล้านบาท โดยตัวเลขกำไรที่ออกมาดังกล่าวใกล้เคียงกับที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการงวดไตรมาส 4 /51-52 (ส.ค.-ต.ค.52) มีการอ่อนตัวลง เนื่องจาก เนื่องจากบริษัทฯได้ทำการปรับปรุงต้นทุนค่าอ้อยขึ้น 15 บาทต่อตัน เพื่อสะท้อนค่าอ้อยขั้นสุดท้ายสำหรับปี 2552/53 ที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ประกาศที่ 960 บาทต่อตัน สูงกว่าค่าอ้อยขั้นต้นที่เคยประกาศไว้ที่ 945 บาท/ตัน นอกจากนี้ หากประเมินถึงผลประกอบการในปี 53 (สิ้นสุด ต.ค.) ในส่วนงบประจำงวดไตมาส 1/52-53 (พ.ย.-ม.ค.)   คาดว่า KSL มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรออกมาอย่างโดดเด่น ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานรวมในปีหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้อยู่ที่ 1,323 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจน้ำตาลเป็นหลัก ประกอบกับในช่วงดังกล่าวราคาน้ำตาลมีโอกาสที่จะทำจุดสูงสุด ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ทั้งจากปริมาณและราคาขาย โดยปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น ตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะดีมานด์จากประเทศอินเดียที่จำเป็นต้องนำเข้าน้ำตาลในสัดส่วนสูงเพื่อเพียงพอกับความต้องการบรโภคในประเทศ ขณะที่ราคาขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2552 กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อให้ราคาเหมาะสมปี 53 อยู่ที่ 16.46 บาท

เปิดอ่าน7
GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

       นายอัญชตรรถ เตชะมาถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFM กล่าวว่า ปีหน้า(พ.ศ.2553) บริษัทเตรียมทุ่มงบลงทุน 20-30 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่โรงงาน รองรับออเดอร์ใหม่ที่จะทยอยเข้ามาในปีหน้า โดยคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยประมาณไตรมาส 3/2553        'ปีหน้าเราเตรียมลงทุนในส่วนของการขยายพื้นที่โรงงาน เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงปีหน้า ซึ่งคงใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6-7 เดือน หรือประมาณไตรมาส 3/2553 คงเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจะทำให้รองรับกำลังการผลิตได้อีก 20% จากปัจจุบันที่รองรับกำลังการผลิตได้ 70-80% จากกำลังการผลิตเต็มที่ 100% ' นายอัญชตรรถ กล่าว        อย่างไรก็ตามแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงหรือดีกว่านโยบายคือไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาบริษัท จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและอยู่ในอัตราที่สูงกว่านโยบาย ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นยอมรับว่าไม่หวือหวานัก เพราะเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาวและให้ผลตอบแทนที่ดี

เปิดอ่าน6
KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

 นายเวทย์ นุชเจริญ ผู้ช่วยอาวุโสฝ่ายสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีสิ้นปี52นี้ต่ำเป้าหมายที่วางไว้ 7% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธนาคารได้รับการชำระคืนหนี้จากกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่เกี่ยวข้องกับพืชไร่ ทั้งนี้ ปัจจุบันสินเชื่อของธนาคารขยายตัวได้เพียง 5%  อย่างไรก็ดี ในปี 2553 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 10% เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10-20 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งสินเชื่อในโครงการไทยเข้มแข็ง  ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 52 พอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้พอร์ตสิ้นเชื่อจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท  นายเวทย์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการแข็งขันด้านการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในปี 53 จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าสถาบันการเงินหลายแห่งได้ออกมาระบุว่าจะรุกการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารได้เตรียมผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ 

เปิดอ่าน6
KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส(ASP) กล่าวว่า จากการที่บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ  KSL ประกาศผลการดำเนินงานงานงวด 1 ปี สิ้นสุด 31 ต.ค. 52  กำไรเพิ่มอยู่ที่ 900.70 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 859.52 ล้านบาท โดยตัวเลขกำไรที่ออกมาดังกล่าวใกล้เคียงกับที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการงวดไตรมาส 4 /51-52 (ส.ค.-ต.ค.52) มีการอ่อนตัวลง เนื่องจาก เนื่องจากบริษัทฯได้ทำการปรับปรุงต้นทุนค่าอ้อยขึ้น 15 บาทต่อตัน เพื่อสะท้อนค่าอ้อยขั้นสุดท้ายสำหรับปี 2552/53 ที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ประกาศที่ 960 บาทต่อตัน สูงกว่าค่าอ้อยขั้นต้นที่เคยประกาศไว้ที่ 945 บาท/ตัน นอกจากนี้ หากประเมินถึงผลประกอบการในปี 53 (สิ้นสุด ต.ค.) ในส่วนงบประจำงวดไตมาส 1/52-53 (พ.ย.-ม.ค.)   คาดว่า KSL มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรออกมาอย่างโดดเด่น ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานรวมในปีหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้อยู่ที่ 1,323 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจน้ำตาลเป็นหลัก ประกอบกับในช่วงดังกล่าวราคาน้ำตาลมีโอกาสที่จะทำจุดสูงสุด ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ทั้งจากปริมาณและราคาขาย โดยปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น ตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะดีมานด์จากประเทศอินเดียที่จำเป็นต้องนำเข้าน้ำตาลในสัดส่วนสูงเพื่อเพียงพอกับความต้องการบรโภคในประเทศ ขณะที่ราคาขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2552 กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อให้ราคาเหมาะสมปี 53 อยู่ที่ 16.46 บาท

เปิดอ่าน4
KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส(ASP) กล่าวว่า จากการที่บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ  KSL ประกาศผลการดำเนินงานงานงวด 1 ปี สิ้นสุด 31 ต.ค. 52  กำไรเพิ่มอยู่ที่ 900.70 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 859.52 ล้านบาท โดยตัวเลขกำไรที่ออกมาดังกล่าวใกล้เคียงกับที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการงวดไตรมาส 4 /51-52 (ส.ค.-ต.ค.52) มีการอ่อนตัวลง เนื่องจาก เนื่องจากบริษัทฯได้ทำการปรับปรุงต้นทุนค่าอ้อยขึ้น 15 บาทต่อตัน เพื่อสะท้อนค่าอ้อยขั้นสุดท้ายสำหรับปี 2552/53 ที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ประกาศที่ 960 บาทต่อตัน สูงกว่าค่าอ้อยขั้นต้นที่เคยประกาศไว้ที่ 945 บาท/ตัน นอกจากนี้ หากประเมินถึงผลประกอบการในปี 53 (สิ้นสุด ต.ค.) ในส่วนงบประจำงวดไตมาส 1/52-53 (พ.ย.-ม.ค.)   คาดว่า KSL มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรออกมาอย่างโดดเด่น ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานรวมในปีหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้อยู่ที่ 1,323 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจน้ำตาลเป็นหลัก ประกอบกับในช่วงดังกล่าวราคาน้ำตาลมีโอกาสที่จะทำจุดสูงสุด ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ทั้งจากปริมาณและราคาขาย โดยปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น ตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะดีมานด์จากประเทศอินเดียที่จำเป็นต้องนำเข้าน้ำตาลในสัดส่วนสูงเพื่อเพียงพอกับความต้องการบรโภคในประเทศ ขณะที่ราคาขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2552 กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อให้ราคาเหมาะสมปี 53 อยู่ที่ 16.46 บาท

เปิดอ่าน7
GFM ตั้งเป้าปี53 โต10%

GFM ตั้งเป้าปี53 โต10%

        นายอัญชตรรถ เตชะมาถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFM กล่าวว่า ตั้งเป้ารายได้ปี 53 เพิ่มขึ้น 10% จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะลดลงประมาณ 20-30% จากปี 2551 ที่ทำได้ 1,794.23 ล้านบาท เพราะได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ส่งผลให้มีคำสั่งผลิตสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาทองเริ่มลดลง ทำให้ลูกค้าสั่งผลิตสินค้าที่ทำจากทองเพิ่มขึ้นอีกด้วย        ' ที่ปีนี้แนวโน้มของรายได้จะลดลง 20-30% เพราะในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าลดลง แต่ปีหน้าแนวโน้มคงดีขึ้น หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ส่วนราคาทองที่ลดลงไม่ได้ส่งผลบวกต่อบริษัทฯ โดยตรง แต่จะได้ประโยชน์ทางอ้อม เพราะลูกค้าจะสั่งผลิตสินค้าที่ทำจากทองเพิ่มขึ้น' นายอัญชตรรถ กล่าว

เปิดอ่าน3
GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

       นายอัญชตรรถ เตชะมาถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFM กล่าวว่า ปีหน้า(พ.ศ.2553) บริษัทเตรียมทุ่มงบลงทุน 20-30 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่โรงงาน รองรับออเดอร์ใหม่ที่จะทยอยเข้ามาในปีหน้า โดยคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยประมาณไตรมาส 3/2553        'ปีหน้าเราเตรียมลงทุนในส่วนของการขยายพื้นที่โรงงาน เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงปีหน้า ซึ่งคงใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6-7 เดือน หรือประมาณไตรมาส 3/2553 คงเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจะทำให้รองรับกำลังการผลิตได้อีก 20% จากปัจจุบันที่รองรับกำลังการผลิตได้ 70-80% จากกำลังการผลิตเต็มที่ 100% ' นายอัญชตรรถ กล่าว        อย่างไรก็ตามแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงหรือดีกว่านโยบายคือไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาบริษัท จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและอยู่ในอัตราที่สูงกว่านโยบาย ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นยอมรับว่าไม่หวือหวานัก เพราะเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาวและให้ผลตอบแทนที่ดี

เปิดอ่าน6
KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

KTB ยืดอกรับสินเชื่อ SMEปีนี้พลาดเป้า

 นายเวทย์ นุชเจริญ ผู้ช่วยอาวุโสฝ่ายสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีสิ้นปี52นี้ต่ำเป้าหมายที่วางไว้ 7% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธนาคารได้รับการชำระคืนหนี้จากกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่เกี่ยวข้องกับพืชไร่ ทั้งนี้ ปัจจุบันสินเชื่อของธนาคารขยายตัวได้เพียง 5%  อย่างไรก็ดี ในปี 2553 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 10% เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10-20 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งสินเชื่อในโครงการไทยเข้มแข็ง  ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 52 พอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้พอร์ตสิ้นเชื่อจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท  นายเวทย์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการแข็งขันด้านการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในปี 53 จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าสถาบันการเงินหลายแห่งได้ออกมาระบุว่าจะรุกการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารได้เตรียมผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ 

เปิดอ่าน7
GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

       นายอัญชตรรถ เตชะมาถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFM กล่าวว่า ปีหน้า(พ.ศ.2553) บริษัทเตรียมทุ่มงบลงทุน 20-30 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่โรงงาน รองรับออเดอร์ใหม่ที่จะทยอยเข้ามาในปีหน้า โดยคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยประมาณไตรมาส 3/2553        'ปีหน้าเราเตรียมลงทุนในส่วนของการขยายพื้นที่โรงงาน เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงปีหน้า ซึ่งคงใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6-7 เดือน หรือประมาณไตรมาส 3/2553 คงเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจะทำให้รองรับกำลังการผลิตได้อีก 20% จากปัจจุบันที่รองรับกำลังการผลิตได้ 70-80% จากกำลังการผลิตเต็มที่ 100% ' นายอัญชตรรถ กล่าว        อย่างไรก็ตามแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงหรือดีกว่านโยบายคือไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาบริษัท จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและอยู่ในอัตราที่สูงกว่านโยบาย ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นยอมรับว่าไม่หวือหวานัก เพราะเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาวและให้ผลตอบแทนที่ดี

เปิดอ่าน7
GFM ตั้งเป้าปี53 โต10%

GFM ตั้งเป้าปี53 โต10%

        นายอัญชตรรถ เตชะมาถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFM กล่าวว่า ตั้งเป้ารายได้ปี 53 เพิ่มขึ้น 10% จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะลดลงประมาณ 20-30% จากปี 2551 ที่ทำได้ 1,794.23 ล้านบาท เพราะได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ส่งผลให้มีคำสั่งผลิตสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาทองเริ่มลดลง ทำให้ลูกค้าสั่งผลิตสินค้าที่ทำจากทองเพิ่มขึ้นอีกด้วย        ' ที่ปีนี้แนวโน้มของรายได้จะลดลง 20-30% เพราะในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าลดลง แต่ปีหน้าแนวโน้มคงดีขึ้น หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ส่วนราคาทองที่ลดลงไม่ได้ส่งผลบวกต่อบริษัทฯ โดยตรง แต่จะได้ประโยชน์ทางอ้อม เพราะลูกค้าจะสั่งผลิตสินค้าที่ทำจากทองเพิ่มขึ้น' นายอัญชตรรถ กล่าว

เปิดอ่าน11
GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

GFM ทุ่ม 30ล.ขยายพื้นที่รองรับออเดอร์ใหม่

       นายอัญชตรรถ เตชะมาถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFM กล่าวว่า ปีหน้า(พ.ศ.2553) บริษัทเตรียมทุ่มงบลงทุน 20-30 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่โรงงาน รองรับออเดอร์ใหม่ที่จะทยอยเข้ามาในปีหน้า โดยคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยประมาณไตรมาส 3/2553        'ปีหน้าเราเตรียมลงทุนในส่วนของการขยายพื้นที่โรงงาน เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงปีหน้า ซึ่งคงใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6-7 เดือน หรือประมาณไตรมาส 3/2553 คงเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจะทำให้รองรับกำลังการผลิตได้อีก 20% จากปัจจุบันที่รองรับกำลังการผลิตได้ 70-80% จากกำลังการผลิตเต็มที่ 100% ' นายอัญชตรรถ กล่าว        อย่างไรก็ตามแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงหรือดีกว่านโยบายคือไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาบริษัท จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและอยู่ในอัตราที่สูงกว่านโยบาย ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นยอมรับว่าไม่หวือหวานัก เพราะเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาวและให้ผลตอบแทนที่ดี

เปิดอ่าน8
KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

KSLฟันกำไรปี53กว่า1.3พันล.แนะซื้อเป้า16.46บ.

 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส(ASP) กล่าวว่า จากการที่บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ  KSL ประกาศผลการดำเนินงานงานงวด 1 ปี สิ้นสุด 31 ต.ค. 52  กำไรเพิ่มอยู่ที่ 900.70 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 859.52 ล้านบาท โดยตัวเลขกำไรที่ออกมาดังกล่าวใกล้เคียงกับที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการงวดไตรมาส 4 /51-52 (ส.ค.-ต.ค.52) มีการอ่อนตัวลง เนื่องจาก เนื่องจากบริษัทฯได้ทำการปรับปรุงต้นทุนค่าอ้อยขึ้น 15 บาทต่อตัน เพื่อสะท้อนค่าอ้อยขั้นสุดท้ายสำหรับปี 2552/53 ที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ประกาศที่ 960 บาทต่อตัน สูงกว่าค่าอ้อยขั้นต้นที่เคยประกาศไว้ที่ 945 บาท/ตัน นอกจากนี้ หากประเมินถึงผลประกอบการในปี 53 (สิ้นสุด ต.ค.) ในส่วนงบประจำงวดไตมาส 1/52-53 (พ.ย.-ม.ค.)   คาดว่า KSL มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรออกมาอย่างโดดเด่น ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานรวมในปีหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้อยู่ที่ 1,323 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจน้ำตาลเป็นหลัก ประกอบกับในช่วงดังกล่าวราคาน้ำตาลมีโอกาสที่จะทำจุดสูงสุด ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ทั้งจากปริมาณและราคาขาย โดยปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น ตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะดีมานด์จากประเทศอินเดียที่จำเป็นต้องนำเข้าน้ำตาลในสัดส่วนสูงเพื่อเพียงพอกับความต้องการบรโภคในประเทศ ขณะที่ราคาขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2552 กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อให้ราคาเหมาะสมปี 53 อยู่ที่ 16.46 บาท

เปิดอ่าน7