อ่านข่าวย้อนหลัง ทั้งหมด หน้า 26254

เนื้อหาทั้งหมด

เนื้อหาทั้งหมด ใหม่ล่าสุด

เนื้อหาทั้งหมด
ใหม่ล่าสุด
บ.โกลเบล็กโฮลดิ้งฯ: รายงานภาวะตลาดทองคำ

บ.โกลเบล็กโฮลดิ้งฯ: รายงานภาวะตลาดทองคำ

บ.โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯ  : รายงานภาวะตลาดทองคำรายวัน 28/12/52   กลยุทธ์ ดีดตัวขึ้นส่งท้ายปี ขั้นต่อไปดูที่ $1,120/Oz. ผ่านได้ซื้อเพิ่ม  แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้ ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันอีก $8/Oz. หรือ 0.75% มาอยู่ที่ $1,103/Oz. โดยในช่วงกลางสัปดาห์ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ $1,074/Oz. หลังสหรัฐฯเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดยเพิ่มขึ้นถึง 7.4% สูงสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งหนุนให้เงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พอยอดขายบ้านใหม่ที่ประกาศในวันถัดไปออกมาแย่ลงถึง 11.3% ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ก็สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนและเริ่มเกิดมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้นจริงแล้วหรือไม่ จึงทำให้มีแรงขายเงินดอลล่าร์สหรัฐฯออกมา ขณะเดียวกันการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของราคาน้ำมัน (กำลังทดสอบ $80/บาร์เรล) จากสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงแรงเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นยังเป็นอีกปัจจัยที่เกื้อหนุนให้ราคาทองคำเล่นทางบวกในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสมาสต์ โดยราคาดีดตัวขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ $1,100/Oz. ไปทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ไว้ที่ $1,105/Oz. ส่วนแนวโน้มสัปดาห์นี้คาดว่าราคาจะแกว่งตัวแคบในลักษณะ Sideway Up แม้เงินดอลล่าร์สหรัฐฯจะมีโอกาสฟื้นตัวจากปัจจัยทางด้านเทคนิค แต่ภาพสถิติในอดีตบ่งชี้ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง 80% ว่าราคาทองคำมักปรับตัวขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของปีเฉลี่ยประมาณ 0.6% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สาเหตุเพราะนักลงทุนมักใช้ทองคำควบคู่กับดอลล่าร์สหรัฐฯเป็นแหล่งพักเงินในช่วงวันหยุดยาว ขณะเดียวกันการไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญให้ลุ้นมากนักก็น่าจะส่งผลดีต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ที่ในช่วงหลังมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลเศรษฐกิจรายสัปดาห์เหลือเกิน คาดการณ์กรอบแนวรับ-ต้านที่ $1,085-1,118/Oz. หรือประมาณ 17,100-17,600 บาท/บาททอง โดยปริมาณการซื้อขายน่าจะเบาบางต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อนเพราะมีเวลาซื้อขายเพียงแค่ 3 วันทำการ แนวโน้มตลาดวันนี้  เราคาดว่าราคาทองคำโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยทางด้านสถิติที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน และในมุมมองรายสัปดาห์ด้านบน กอปรกับปัจจัยทางด้านเทคนิคในภาพรายวันที่ราคาสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ $1,108/Oz. ขึ้นมาได้ ขณะเดียวกันสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทโลหะมีค่า ราคาน้ำมัน และตลาดหุ้นในช่วงเช้าต่างเล่นในแดนบวกแทบทั้งสิ้น แต่กรอบการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังถูกจำกัดที่เส้น Downtrend บริเวณ $1,118/Oz. หากไม่สามารถยืนได้อาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วน สำหรับปัจจัยที่กระทบช่วงเช้าค่อนข้างให้น้ำหนักทางลบแต่ไม่มากนัก โดยปัจจัยลบได้แก่ Dollar Index ดีดตัวขึ้น 0.25% มาอยู่ที่ 77.83 จุด แต่ราคาทองคำกลับไม่ยอมลงและเปิดเพิ่มขึ้น $5/Oz. มาอยู่ที่ $1,109/Oz. ส่วนปัจจัยบวกได้แก่ 1) ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่ออีก $0.46/บาร์เรล มาอยู่ที่ $78.38/บาร์เรล และ 2) กองทุน SPDR Gold Trust ยังถือครองทองคำทรงตัวที่ 1,132.71 ตัน นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ราคาน่าจะเคลื่อนไหวแคบในแดนบวกเพราะสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันขึ้นมาได้ ซื้อแล้วถือรอขายเช่นเดิมที่ $1,115-1,120/Oz. คาดแนวรับ-ต้านที่ $1,101-1,116/Oz. หรือประมาณ 17,350-17,600 บาท/บาททอง  นักลงทุนระยะกลาง-ยาว ภาพทางเทคนิครายสัปดาห์มีลุ้นเด้งเพราะลงแตะเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ และ Uptrend Line หากผ่าน $1,120/Oz. ให้ซื้อเพิ่ม คาดกรอบที่ $1,090-1,130/Oz. หรือ 17,150-17,800 บาท/บาททอง ส่วนระยะยาวสำหรับการลงทุนระดับเดือนให้ทยอยขายจนกว่าราคาจะกลับขึ้นไปยืนเหนือ $1,120/Oz. ประเด็นสำคัญในการลงทุน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และน้ำมันดิบปิดทำการในวันคริสมาสต์ ค่าเงิน USD Dollar Index ปิดลดลง 0.26% มาอยู่ที่ 77.64 จุด  ค่าเงินบาท ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.31 บาท/USD อ่อนค่าลง 0.01 บาท/USD ปัจจัยที่น่าจับตา 29 ธ.ค. 52 – 1) สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค 2) เยอรมันเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค และ 3) ญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิต  30 ธ.ค. 52  - 1) ยุโรปเปิดเผยปริมาณเงิน (M3) และ 2) สหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมัน  31 ธ.ค. 52 – สหรัฐฯเปิดเผยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ แนวโน้มราคาทองคำโลก ระยะสั้น (ระหว่างวัน) กราฟรายวันยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันขึ้นมาได้ที่ $1,108/Oz. ส่งสัญยาณบวกต่อเนื่อง และมีโอกาสขึ้นทดสอบ Downtrend Line ที่ $1,120/Oz. แต่ปริมาณการซื้อขายที่เบาบางยังไม่หนุนให้เล่นทางขึ้นอย่างเต็มตัว คาดการณ์กรอบรับ-ต้านที่ $1,101-1,116/Oz. ระยะกลาง (เล่นระดับสัปดาห์) ภาพรายสัปดาห์เริ่มยืนได้ที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ แต่ดัชนีบ่งชี้ยังอยู่ต่ำกว่า Signal Line ตัวเอง ขึ้นไปยังไม่น่าไว้ใจ คาดการณ์กรอบระดับสัปดาห์อยู่ที่ $1,090-1,130/Oz. ระยะยาว (เล่นระดับเดือน) หลังจากผ่านเส้น Neck Line ของการฟอร์มตัวรูปหัวและไหล่แบบกลับหัว (Inverse Head & Shoulder) มาได้ สัญญาณบวกเกิดขึ้นทันที แนวโน้มยาวๆหลังจากนี้ไประยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน น่าจะได้เห็นการแกว่งตัวขึ้นไปเล่นบริเวณ $1,150-1,200/Oz. ได้ โดยมีข้อแม้ว่าไม่ควรหลุด Neck Line ที่เพิ่งผ่านไปแถว $1,030/Oz. ลงมา แนวโน้มราคาทองคำในประเทศ ระยะสั้น (ระหว่างวัน) คาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวเทียบเท่าราคาทองคำโลกที่  17,350-17,600 บาท/บาททอง  ระยะกลาง (เล่นระดับสัปดาห์) คาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวระดับสัปดาห์เทียบทองโลกที่ 17,150-17,800 บาท/บาททอง  ระยะยาว (เล่นระดับเดือน) ยังแข็งแรงดี จนกว่าจะเล่นต่ำกว่า 16,250 บาท/บาททอง กรอบการเคลื่อนไหวรอบใหญ่เทียบเท่าราคาทองคำโลกอยู่ประมาณ 16,600-18,200 บาท/บาททอง แนวโน้ม Dollar Index ระยะสั้น (ระหว่างวัน) ภาพรายวันยังส่งสัญญาณไม่ดี เพราะหลุด Uptrend Line และดัชนีบ่งชี้ตัด Signal Line ลง อาจอ่อนตัวลงตามมา หา 76.50 คาดการณ์กรอบที่ 77.50-78.30 จุด ระยะกลาง (ระดับสัปดาห์) ฟื้นตัวชัดเจนด้วยการผ่านทุก Downtrend ยังมีช่องว่างให้ขึ้นได้อีก กรอบระดับสัปดาห์อยู่ที่ 76.60-79.20 จุด ระยะยาว (ระดับเดือน) ระยะยาวยังเป็นขาลงจนกว่าจะเล่นเหนือ 82.00 จุดมิฉะนั้นโอกาสทำ New Low ยังเป็นไปได้อยู่  อัตราส่วนระหว่าง Gold : Dollar Index เพิ่มขึ้นเป็น 14.22 เท่า จาก 14.19 เท่าในวันก่อนหน้า ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 12.56 เท่า แต่ยังต่ำกว่าขอบเขตบนทั้ง 2 ที่ 15.59-17.11 เท่า สะท้อนความเสี่ยงที่ทองคำโลกจะถูกทุบลงแรงเริ่มลดลงต่อเนื่อง   อัตราส่วนระหว่าง Gold : Nymex Crude ลดลงเป็น 14.14 เท่า จาก 14.15 เท่าในวันก่อนหน้า ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 14.87 เท่า แต่ไม่อยู่ในระดับที่มีนัยสำคัญ จึงไม่มีความได้เปรียบเสียเปรียบโดยเปรียบเทียบ ในการซื้อขายระหว่าง Gold และ Nymex Crude  อัตราส่วนระหว่าง Gold : Silver ลดลงเป็น 63.07 เท่า จาก 63.36 เท่าในวันก่อนหน้า ยังใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 65.46 เท่า ความได้เปรียบเสียเปรียบในการซื้อขาย Gold และ Silver จึงเริ่มลดลง ราคาทองคำเทียบกับดัชนีดาวโจนส์ (DJIA) ราคาทองคำโลกและ DJIA ยังคงไปในทิศทางเดียวกัน คือ หุ้นขึ้นทองขึ้น ซึ่งค่อนข้างผิดปกติเมื่อเทียบกับความสัมพันธ์ในอดีต สาเหตุเพราะเงินสกุล USD อ่อนค่าลง แต่นักลงทุนในตลาดหุ้นคาดการณ์เชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ความสัมพันธ์ที่ผิดปกติย่อมสะท้อนว่าตลาดอยู่บนพื้นฐานของการเก็งกำไร จึงต้องระวังเมื่อ DJIA ขึ้นแรง ราคาทองคำเทียบกับ US Dollar Index  ด้วยความสัมพันธ์ที่ผกผันกันอย่างมากในปัจจุบัน ราคาทองคำโลกจึงมีความอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของ Dollar Index สูง โดยหาก Dollar Index รีบาวน์เหนือ 76.50 จุดขึ้นไป ให้ระวังแรงขายทำกำไรเพราะราคาทองคำโลกจะปรับตัวลดลงแรง ราคาทองคำเทียบกับราคาน้ำมันดิบที่ล่วงหน้า NYMEX ราคาน้ำมันดิบเริ่มแกว่งตัวออกด้านข้างอีกครั้ง ซึ่งต่างจากราคาทองคำโลกที่เดินหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสัมพันธ์ที่ผิดแปลกไปจากอดีตที่ควรจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน (เพราะทองป้องกันเงินเฟ้อได้) การดูราคาน้ำมันดิบเพื่อซื้อขายทองคำแท่งจึงไม่ได้บอกอะไร ราคาทองคำในประเทศเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยน (THB/USD) ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ส่งผลลบเล็กน้อยต่อราคาทองคำในประเทศ แต่น้ำหนักยังอยู่ที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำโลกเป็นหลัก คาดการณ์กรอบค่าเงินบาทที่ 33.00-33.50 บาท/USD   GFZ09 เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 17,600-17,840 (แนวรับ 17,460, 17,600 / แนวต้าน 17,700, 17,840) GFG10 เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 17,700-17,950 (แนวรับ 17,560, 17,700 / แนวต้าน 17,800, 17,950)     ราคาทองมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ โดยมีทิศทางเป็นบวกเล็กน้อย หลังราคาปิดยืนบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน แต่จากปริมาณการซื้อขายที่ยังเบาบาง ทำให้การปรับขึ้นยังอยู่ในกรอบที่จำกัด  

เปิดอ่าน8
**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

           ดัชนี นิกเกอิ: ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 10:51 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,628.95 จุด เพิ่มขึ้น 134.24 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,521.81 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,494.71 จุด หรือ 1.28 %

เปิดอ่าน3
**ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ล่าสุดแตะ 10,470จุด

**ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ล่าสุดแตะ 10,470จุด

ดัชนี ดาวโจนส์ ล่วงหน้า: ตลาดหุ้นนิวยอร์ค เวลา 10:43 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,470.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,445.00 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,466.00 จุด หรือ 0.04 %

เปิดอ่าน4
**ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ล่าสุดแตะ 10,470จุด

**ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ล่าสุดแตะ 10,470จุด

ดัชนี ดาวโจนส์ ล่วงหน้า: ตลาดหุ้นนิวยอร์ค เวลา 10:43 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,470.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,445.00 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,466.00 จุด หรือ 0.04 %

เปิดอ่าน6
**ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ล่าสุดแตะ 10,470จุด

**ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ล่าสุดแตะ 10,470จุด

ดัชนี ดาวโจนส์ ล่วงหน้า: ตลาดหุ้นนิวยอร์ค เวลา 10:43 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,470.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,445.00 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,466.00 จุด หรือ 0.04 %

เปิดอ่าน12
**ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ล่าสุดแตะ 10,470จุด

**ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ล่าสุดแตะ 10,470จุด

ดัชนี ดาวโจนส์ ล่วงหน้า: ตลาดหุ้นนิวยอร์ค เวลา 10:43 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,470.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,445.00 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,466.00 จุด หรือ 0.04 %

เปิดอ่าน6
**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

           ดัชนี นิกเกอิ: ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 10:51 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,628.95 จุด เพิ่มขึ้น 134.24 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,521.81 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,494.71 จุด หรือ 1.28 %

เปิดอ่าน10
**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

           ดัชนี นิกเกอิ: ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 10:51 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,628.95 จุด เพิ่มขึ้น 134.24 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,521.81 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,494.71 จุด หรือ 1.28 %

เปิดอ่าน7
**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

           ดัชนี นิกเกอิ: ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 10:51 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,628.95 จุด เพิ่มขึ้น 134.24 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,521.81 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,494.71 จุด หรือ 1.28 %

เปิดอ่าน6
บ.โกลเบล็กโฮลดิ้งฯ: รายงานภาวะตลาดทองคำ

บ.โกลเบล็กโฮลดิ้งฯ: รายงานภาวะตลาดทองคำ

บ.โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯ  : รายงานภาวะตลาดทองคำรายวัน 28/12/52   กลยุทธ์ ดีดตัวขึ้นส่งท้ายปี ขั้นต่อไปดูที่ $1,120/Oz. ผ่านได้ซื้อเพิ่ม  แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้ ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันอีก $8/Oz. หรือ 0.75% มาอยู่ที่ $1,103/Oz. โดยในช่วงกลางสัปดาห์ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ $1,074/Oz. หลังสหรัฐฯเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดยเพิ่มขึ้นถึง 7.4% สูงสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งหนุนให้เงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พอยอดขายบ้านใหม่ที่ประกาศในวันถัดไปออกมาแย่ลงถึง 11.3% ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ก็สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนและเริ่มเกิดมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้นจริงแล้วหรือไม่ จึงทำให้มีแรงขายเงินดอลล่าร์สหรัฐฯออกมา ขณะเดียวกันการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของราคาน้ำมัน (กำลังทดสอบ $80/บาร์เรล) จากสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงแรงเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นยังเป็นอีกปัจจัยที่เกื้อหนุนให้ราคาทองคำเล่นทางบวกในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสมาสต์ โดยราคาดีดตัวขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ $1,100/Oz. ไปทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ไว้ที่ $1,105/Oz. ส่วนแนวโน้มสัปดาห์นี้คาดว่าราคาจะแกว่งตัวแคบในลักษณะ Sideway Up แม้เงินดอลล่าร์สหรัฐฯจะมีโอกาสฟื้นตัวจากปัจจัยทางด้านเทคนิค แต่ภาพสถิติในอดีตบ่งชี้ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง 80% ว่าราคาทองคำมักปรับตัวขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของปีเฉลี่ยประมาณ 0.6% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สาเหตุเพราะนักลงทุนมักใช้ทองคำควบคู่กับดอลล่าร์สหรัฐฯเป็นแหล่งพักเงินในช่วงวันหยุดยาว ขณะเดียวกันการไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญให้ลุ้นมากนักก็น่าจะส่งผลดีต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ที่ในช่วงหลังมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลเศรษฐกิจรายสัปดาห์เหลือเกิน คาดการณ์กรอบแนวรับ-ต้านที่ $1,085-1,118/Oz. หรือประมาณ 17,100-17,600 บาท/บาททอง โดยปริมาณการซื้อขายน่าจะเบาบางต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อนเพราะมีเวลาซื้อขายเพียงแค่ 3 วันทำการ แนวโน้มตลาดวันนี้  เราคาดว่าราคาทองคำโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยทางด้านสถิติที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน และในมุมมองรายสัปดาห์ด้านบน กอปรกับปัจจัยทางด้านเทคนิคในภาพรายวันที่ราคาสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ $1,108/Oz. ขึ้นมาได้ ขณะเดียวกันสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทโลหะมีค่า ราคาน้ำมัน และตลาดหุ้นในช่วงเช้าต่างเล่นในแดนบวกแทบทั้งสิ้น แต่กรอบการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังถูกจำกัดที่เส้น Downtrend บริเวณ $1,118/Oz. หากไม่สามารถยืนได้อาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วน สำหรับปัจจัยที่กระทบช่วงเช้าค่อนข้างให้น้ำหนักทางลบแต่ไม่มากนัก โดยปัจจัยลบได้แก่ Dollar Index ดีดตัวขึ้น 0.25% มาอยู่ที่ 77.83 จุด แต่ราคาทองคำกลับไม่ยอมลงและเปิดเพิ่มขึ้น $5/Oz. มาอยู่ที่ $1,109/Oz. ส่วนปัจจัยบวกได้แก่ 1) ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่ออีก $0.46/บาร์เรล มาอยู่ที่ $78.38/บาร์เรล และ 2) กองทุน SPDR Gold Trust ยังถือครองทองคำทรงตัวที่ 1,132.71 ตัน นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ราคาน่าจะเคลื่อนไหวแคบในแดนบวกเพราะสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันขึ้นมาได้ ซื้อแล้วถือรอขายเช่นเดิมที่ $1,115-1,120/Oz. คาดแนวรับ-ต้านที่ $1,101-1,116/Oz. หรือประมาณ 17,350-17,600 บาท/บาททอง  นักลงทุนระยะกลาง-ยาว ภาพทางเทคนิครายสัปดาห์มีลุ้นเด้งเพราะลงแตะเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ และ Uptrend Line หากผ่าน $1,120/Oz. ให้ซื้อเพิ่ม คาดกรอบที่ $1,090-1,130/Oz. หรือ 17,150-17,800 บาท/บาททอง ส่วนระยะยาวสำหรับการลงทุนระดับเดือนให้ทยอยขายจนกว่าราคาจะกลับขึ้นไปยืนเหนือ $1,120/Oz. ประเด็นสำคัญในการลงทุน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และน้ำมันดิบปิดทำการในวันคริสมาสต์ ค่าเงิน USD Dollar Index ปิดลดลง 0.26% มาอยู่ที่ 77.64 จุด  ค่าเงินบาท ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.31 บาท/USD อ่อนค่าลง 0.01 บาท/USD ปัจจัยที่น่าจับตา 29 ธ.ค. 52 – 1) สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค 2) เยอรมันเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค และ 3) ญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิต  30 ธ.ค. 52  - 1) ยุโรปเปิดเผยปริมาณเงิน (M3) และ 2) สหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมัน  31 ธ.ค. 52 – สหรัฐฯเปิดเผยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ แนวโน้มราคาทองคำโลก ระยะสั้น (ระหว่างวัน) กราฟรายวันยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันขึ้นมาได้ที่ $1,108/Oz. ส่งสัญยาณบวกต่อเนื่อง และมีโอกาสขึ้นทดสอบ Downtrend Line ที่ $1,120/Oz. แต่ปริมาณการซื้อขายที่เบาบางยังไม่หนุนให้เล่นทางขึ้นอย่างเต็มตัว คาดการณ์กรอบรับ-ต้านที่ $1,101-1,116/Oz. ระยะกลาง (เล่นระดับสัปดาห์) ภาพรายสัปดาห์เริ่มยืนได้ที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ แต่ดัชนีบ่งชี้ยังอยู่ต่ำกว่า Signal Line ตัวเอง ขึ้นไปยังไม่น่าไว้ใจ คาดการณ์กรอบระดับสัปดาห์อยู่ที่ $1,090-1,130/Oz. ระยะยาว (เล่นระดับเดือน) หลังจากผ่านเส้น Neck Line ของการฟอร์มตัวรูปหัวและไหล่แบบกลับหัว (Inverse Head & Shoulder) มาได้ สัญญาณบวกเกิดขึ้นทันที แนวโน้มยาวๆหลังจากนี้ไประยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน น่าจะได้เห็นการแกว่งตัวขึ้นไปเล่นบริเวณ $1,150-1,200/Oz. ได้ โดยมีข้อแม้ว่าไม่ควรหลุด Neck Line ที่เพิ่งผ่านไปแถว $1,030/Oz. ลงมา แนวโน้มราคาทองคำในประเทศ ระยะสั้น (ระหว่างวัน) คาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวเทียบเท่าราคาทองคำโลกที่  17,350-17,600 บาท/บาททอง  ระยะกลาง (เล่นระดับสัปดาห์) คาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวระดับสัปดาห์เทียบทองโลกที่ 17,150-17,800 บาท/บาททอง  ระยะยาว (เล่นระดับเดือน) ยังแข็งแรงดี จนกว่าจะเล่นต่ำกว่า 16,250 บาท/บาททอง กรอบการเคลื่อนไหวรอบใหญ่เทียบเท่าราคาทองคำโลกอยู่ประมาณ 16,600-18,200 บาท/บาททอง แนวโน้ม Dollar Index ระยะสั้น (ระหว่างวัน) ภาพรายวันยังส่งสัญญาณไม่ดี เพราะหลุด Uptrend Line และดัชนีบ่งชี้ตัด Signal Line ลง อาจอ่อนตัวลงตามมา หา 76.50 คาดการณ์กรอบที่ 77.50-78.30 จุด ระยะกลาง (ระดับสัปดาห์) ฟื้นตัวชัดเจนด้วยการผ่านทุก Downtrend ยังมีช่องว่างให้ขึ้นได้อีก กรอบระดับสัปดาห์อยู่ที่ 76.60-79.20 จุด ระยะยาว (ระดับเดือน) ระยะยาวยังเป็นขาลงจนกว่าจะเล่นเหนือ 82.00 จุดมิฉะนั้นโอกาสทำ New Low ยังเป็นไปได้อยู่  อัตราส่วนระหว่าง Gold : Dollar Index เพิ่มขึ้นเป็น 14.22 เท่า จาก 14.19 เท่าในวันก่อนหน้า ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 12.56 เท่า แต่ยังต่ำกว่าขอบเขตบนทั้ง 2 ที่ 15.59-17.11 เท่า สะท้อนความเสี่ยงที่ทองคำโลกจะถูกทุบลงแรงเริ่มลดลงต่อเนื่อง   อัตราส่วนระหว่าง Gold : Nymex Crude ลดลงเป็น 14.14 เท่า จาก 14.15 เท่าในวันก่อนหน้า ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 14.87 เท่า แต่ไม่อยู่ในระดับที่มีนัยสำคัญ จึงไม่มีความได้เปรียบเสียเปรียบโดยเปรียบเทียบ ในการซื้อขายระหว่าง Gold และ Nymex Crude  อัตราส่วนระหว่าง Gold : Silver ลดลงเป็น 63.07 เท่า จาก 63.36 เท่าในวันก่อนหน้า ยังใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 65.46 เท่า ความได้เปรียบเสียเปรียบในการซื้อขาย Gold และ Silver จึงเริ่มลดลง ราคาทองคำเทียบกับดัชนีดาวโจนส์ (DJIA) ราคาทองคำโลกและ DJIA ยังคงไปในทิศทางเดียวกัน คือ หุ้นขึ้นทองขึ้น ซึ่งค่อนข้างผิดปกติเมื่อเทียบกับความสัมพันธ์ในอดีต สาเหตุเพราะเงินสกุล USD อ่อนค่าลง แต่นักลงทุนในตลาดหุ้นคาดการณ์เชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ความสัมพันธ์ที่ผิดปกติย่อมสะท้อนว่าตลาดอยู่บนพื้นฐานของการเก็งกำไร จึงต้องระวังเมื่อ DJIA ขึ้นแรง ราคาทองคำเทียบกับ US Dollar Index  ด้วยความสัมพันธ์ที่ผกผันกันอย่างมากในปัจจุบัน ราคาทองคำโลกจึงมีความอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของ Dollar Index สูง โดยหาก Dollar Index รีบาวน์เหนือ 76.50 จุดขึ้นไป ให้ระวังแรงขายทำกำไรเพราะราคาทองคำโลกจะปรับตัวลดลงแรง ราคาทองคำเทียบกับราคาน้ำมันดิบที่ล่วงหน้า NYMEX ราคาน้ำมันดิบเริ่มแกว่งตัวออกด้านข้างอีกครั้ง ซึ่งต่างจากราคาทองคำโลกที่เดินหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสัมพันธ์ที่ผิดแปลกไปจากอดีตที่ควรจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน (เพราะทองป้องกันเงินเฟ้อได้) การดูราคาน้ำมันดิบเพื่อซื้อขายทองคำแท่งจึงไม่ได้บอกอะไร ราคาทองคำในประเทศเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยน (THB/USD) ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ส่งผลลบเล็กน้อยต่อราคาทองคำในประเทศ แต่น้ำหนักยังอยู่ที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำโลกเป็นหลัก คาดการณ์กรอบค่าเงินบาทที่ 33.00-33.50 บาท/USD   GFZ09 เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 17,600-17,840 (แนวรับ 17,460, 17,600 / แนวต้าน 17,700, 17,840) GFG10 เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 17,700-17,950 (แนวรับ 17,560, 17,700 / แนวต้าน 17,800, 17,950)     ราคาทองมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ โดยมีทิศทางเป็นบวกเล็กน้อย หลังราคาปิดยืนบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน แต่จากปริมาณการซื้อขายที่ยังเบาบาง ทำให้การปรับขึ้นยังอยู่ในกรอบที่จำกัด  

เปิดอ่าน5
**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

**ดัชนีนิกเกอิ ล่าสุดบวก 134.24จุด

           ดัชนี นิกเกอิ: ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 10:51 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,628.95 จุด เพิ่มขึ้น 134.24 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,521.81 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,494.71 จุด หรือ 1.28 %

เปิดอ่าน3