อ่านข่าวย้อนหลัง ทั้งหมด หน้า 26629

เนื้อหาทั้งหมด

เนื้อหาทั้งหมด ใหม่ล่าสุด

เนื้อหาทั้งหมด
ใหม่ล่าสุด
ราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบ ก.พ.เช้าแตะ77.28ดอลล์

ราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบ ก.พ.เช้าแตะ77.28ดอลล์

         สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไลท์สัญญาส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ที่ตลาดสิงคโปร์ครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 61 เซนต์ มาอยู่ที่ 77.28 ดอลลาร์/บาร์เรล        ขณะที่ราคาน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 1.37 เซนต์ มาอยู่ที่ 2.03 ดอลลาร์/แกลลอน ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.28 เซนต์ มาอยู่ที่ 1.98 ดอลลาร์/แกลลอน และราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 6.4 เซนต์ มาอยู่ที่ 5.89 ดอลลาร์/1 พันลูกบาศก์ฟุต         ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากตลาดคาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯอยู่ในช่วงฟื้นตัว หลังสำนักข้อมูลพลังงานสหรัฐฯแถลงวานนี้ว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐฯสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.9 ล้าบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล    

เปิดอ่าน6
STA มองปี53โต10-15%พร้อมทุ่มพันล้านสร้างโรงงาน

STA มองปี53โต10-15%พร้อมทุ่มพันล้านสร้างโรงงาน

นายกิติชัย สินเจริญกุล กรรมการ บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) กล่าวว่า คาดยอดขายปี 53 เพิ่มขึ้น 10-15% ทั้งนี้หากบริษัทเพิ่มกำลังผลิตอีก 15 - 20% จากการเปิดโรงงานแห่งใหม่ตามแผน จะทำให้ยอดขายมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 15-20% จากปีนี้ที่คาดผลการดำเนินงานเติบโตกว่าในปี 2551 เนื่องจากตัวเลขงวด 9 เดือนค่อนข้างดี ประกอบกับ หากความต้องการในตลาดประเทศจีน มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยจีดีพี ปี 2553 มีโอกาสเติบโต 9-10%  โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนลูกค้าจากประเทศจีนประมาณ 30% ของรายได้รวม ซึ่งหากความต้องการเพิ่มมากขึ้นก็น่าจะส่งผลบวกต่อบริษัท นอกจากนี้ ปีหน้าบริษัทได้ตั้งงบลงทุนปีหน้า 1 พันล้านบาท สำหรับสร้างโรงงงานใหม่ 2 แห่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และในประเทศอินโดนีเซีย โดยเดิมบริษัทมีโรงงานบริเวณภาคใต้ แต่การเข้าไปรุกในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ อาทิ โครงการกล้ายาง และเชื่อว่าในอนาคตแหล่งยางจากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเพิ่มปริมาณขึ้น ซึ่งการที่บริษัทไปตั้งโรงงานในบริเวณดังกล่าวเพิ่มรองรับปริมาณยางที่เพิ่มขึ้น ผนวกกับช่วยลดต้นทุนในการขนส่งจากภาคเหนือไปสู่ภาพใต้ ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนจากการแสเงินสดหมุนเวียน และการกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์บางส่วน ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย บริษัทได้เปิดโรงงานแล้วก่อนหน้านี้ 2 แห่ง        

เปิดอ่าน6
บสก. รอจังหวะปิด บสท.ก่อนเข้าตลาดหุ้น

บสก. รอจังหวะปิด บสท.ก่อนเข้าตลาดหุ้น

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวว่า แผนการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นยังคงเดินหน้า แต่อย่างไรก็ดี ยังคงต้องรอให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือ บสท. ปิดตัวลงในเดือน มิ.ย.2554 ก่อน จากนั้นจะทำการโอนย้ายสินทรัพย์มาสู่ บสก. ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของทางกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 100% 'แผนเข้าตลาดฯ ยังคงเดินอยู่รอการคิดของทางภาครัฐต้องตั้งโจทย์ให้ครบก่อน ซึ่งบสท. ที่จะปิดตัวลง จากนั้นอยู่ที่กองทุนต่อไป' นายบรรยง กล่าว  อย่างไรก็ดี บสท.ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดการกับสินทรัพย์ได้มีแนวทางที่จะแบ่งสินทรัพย์รอการขาย (NPA) 3 พอร์ต มูลค่ารวม 9 หมื่นล้านบาท คิดเป็นพอร์ตละ 3 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดให้ผู้ที่สนใจพิจารณาข้อมูลประมาณไตรมาส 3 ปี 2553 ส่วนเงื่อนไขด้านบุคลากรของบสท.จะโอนย้ายมายังบสก.หรือไม่นั้น มองว่าอยู่ที่นโยบายของกองทุนเป็นหลัก ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไปที่จะพิจารณา

เปิดอ่าน9
โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

"สมบัติ นราวุฒิชัย" เผยโพลล์ สมาคมนักวิเคราะห์ฯ เพิ่มเป้าดัชนีปลายปี 52 ที่ 726 จุด โดยเดือนกันยายน เป้าหมาย 674 จุด ส่วนปี 53 ผันผวนตั้งเป้าสูงสุด 845 จุด ต่ำสุด 625 จุด พร้อมปรับเป้าจีดีพีปีนี้เป็น -3.2% จากเดิมคาดติดลบ 3.4% ส่วนปี 53 เพิ่มเป้าจีดีพีเป็นโต 3.5% จากเดิมคาดโต 3.2%นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีหุ้นปลายปี 2552 เป็นเฉลี่ย 726 จุด จากคาดการณ์เดือนก.ย.ที่ 674 จุด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็งทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น ส่วนแนวโน้มปี 2553 ตลาดหุ้นน่าจะผันผวน 220 จุด โดยประเมินดัชนีฯสูงสุดไว้ที่ 845 จุด และต่ำสุดที่ 625 จุด และคาดว่าในช่วงปลายปีดัชนีฯจะอยู่ที่ 812 จุด  ซึ่งปัจจัยบวกมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยรวมถึงแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าของไทย    อย่างไรก็ตาม หลังภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทำให้นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2552 เป็นติดลบ 3.2% ฟื้นตัวขึ้นจากเดิมที่คาดติดลบ 3.4% และเพิ่มประมาณการณ์จีดีพีปี 2553 เป็นเติบโต 3.5% จากเดิมที่คาดโต 3.2%     

เปิดอ่าน6
ราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบ ก.พ.เช้าแตะ77.28ดอลล์

ราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบ ก.พ.เช้าแตะ77.28ดอลล์

         สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไลท์สัญญาส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ที่ตลาดสิงคโปร์ครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 61 เซนต์ มาอยู่ที่ 77.28 ดอลลาร์/บาร์เรล        ขณะที่ราคาน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 1.37 เซนต์ มาอยู่ที่ 2.03 ดอลลาร์/แกลลอน ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.28 เซนต์ มาอยู่ที่ 1.98 ดอลลาร์/แกลลอน และราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 6.4 เซนต์ มาอยู่ที่ 5.89 ดอลลาร์/1 พันลูกบาศก์ฟุต         ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากตลาดคาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯอยู่ในช่วงฟื้นตัว หลังสำนักข้อมูลพลังงานสหรัฐฯแถลงวานนี้ว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐฯสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.9 ล้าบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล    

เปิดอ่าน3
ราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบ ก.พ.เช้าแตะ77.28ดอลล์

ราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบ ก.พ.เช้าแตะ77.28ดอลล์

         สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไลท์สัญญาส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ที่ตลาดสิงคโปร์ครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 61 เซนต์ มาอยู่ที่ 77.28 ดอลลาร์/บาร์เรล        ขณะที่ราคาน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 1.37 เซนต์ มาอยู่ที่ 2.03 ดอลลาร์/แกลลอน ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.28 เซนต์ มาอยู่ที่ 1.98 ดอลลาร์/แกลลอน และราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 6.4 เซนต์ มาอยู่ที่ 5.89 ดอลลาร์/1 พันลูกบาศก์ฟุต         ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากตลาดคาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯอยู่ในช่วงฟื้นตัว หลังสำนักข้อมูลพลังงานสหรัฐฯแถลงวานนี้ว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐฯสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.9 ล้าบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล    

เปิดอ่าน7
STA มองปี53โต10-15%พร้อมทุ่มพันล้านสร้างโรงงาน

STA มองปี53โต10-15%พร้อมทุ่มพันล้านสร้างโรงงาน

นายกิติชัย สินเจริญกุล กรรมการ บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) กล่าวว่า คาดยอดขายปี 53 เพิ่มขึ้น 10-15% ทั้งนี้หากบริษัทเพิ่มกำลังผลิตอีก 15 - 20% จากการเปิดโรงงานแห่งใหม่ตามแผน จะทำให้ยอดขายมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 15-20% จากปีนี้ที่คาดผลการดำเนินงานเติบโตกว่าในปี 2551 เนื่องจากตัวเลขงวด 9 เดือนค่อนข้างดี ประกอบกับ หากความต้องการในตลาดประเทศจีน มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยจีดีพี ปี 2553 มีโอกาสเติบโต 9-10%  โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนลูกค้าจากประเทศจีนประมาณ 30% ของรายได้รวม ซึ่งหากความต้องการเพิ่มมากขึ้นก็น่าจะส่งผลบวกต่อบริษัท นอกจากนี้ ปีหน้าบริษัทได้ตั้งงบลงทุนปีหน้า 1 พันล้านบาท สำหรับสร้างโรงงงานใหม่ 2 แห่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และในประเทศอินโดนีเซีย โดยเดิมบริษัทมีโรงงานบริเวณภาคใต้ แต่การเข้าไปรุกในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ อาทิ โครงการกล้ายาง และเชื่อว่าในอนาคตแหล่งยางจากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเพิ่มปริมาณขึ้น ซึ่งการที่บริษัทไปตั้งโรงงานในบริเวณดังกล่าวเพิ่มรองรับปริมาณยางที่เพิ่มขึ้น ผนวกกับช่วยลดต้นทุนในการขนส่งจากภาคเหนือไปสู่ภาพใต้ ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนจากการแสเงินสดหมุนเวียน และการกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์บางส่วน ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย บริษัทได้เปิดโรงงานแล้วก่อนหน้านี้ 2 แห่ง        

เปิดอ่าน5
โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

"สมบัติ นราวุฒิชัย" เผยโพลล์ สมาคมนักวิเคราะห์ฯ เพิ่มเป้าดัชนีปลายปี 52 ที่ 726 จุด โดยเดือนกันยายน เป้าหมาย 674 จุด ส่วนปี 53 ผันผวนตั้งเป้าสูงสุด 845 จุด ต่ำสุด 625 จุด พร้อมปรับเป้าจีดีพีปีนี้เป็น -3.2% จากเดิมคาดติดลบ 3.4% ส่วนปี 53 เพิ่มเป้าจีดีพีเป็นโต 3.5% จากเดิมคาดโต 3.2%นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีหุ้นปลายปี 2552 เป็นเฉลี่ย 726 จุด จากคาดการณ์เดือนก.ย.ที่ 674 จุด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็งทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น ส่วนแนวโน้มปี 2553 ตลาดหุ้นน่าจะผันผวน 220 จุด โดยประเมินดัชนีฯสูงสุดไว้ที่ 845 จุด และต่ำสุดที่ 625 จุด และคาดว่าในช่วงปลายปีดัชนีฯจะอยู่ที่ 812 จุด  ซึ่งปัจจัยบวกมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยรวมถึงแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าของไทย    อย่างไรก็ตาม หลังภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทำให้นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2552 เป็นติดลบ 3.2% ฟื้นตัวขึ้นจากเดิมที่คาดติดลบ 3.4% และเพิ่มประมาณการณ์จีดีพีปี 2553 เป็นเติบโต 3.5% จากเดิมที่คาดโต 3.2%     

เปิดอ่าน4
โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

"สมบัติ นราวุฒิชัย" เผยโพลล์ สมาคมนักวิเคราะห์ฯ เพิ่มเป้าดัชนีปลายปี 52 ที่ 726 จุด โดยเดือนกันยายน เป้าหมาย 674 จุด ส่วนปี 53 ผันผวนตั้งเป้าสูงสุด 845 จุด ต่ำสุด 625 จุด พร้อมปรับเป้าจีดีพีปีนี้เป็น -3.2% จากเดิมคาดติดลบ 3.4% ส่วนปี 53 เพิ่มเป้าจีดีพีเป็นโต 3.5% จากเดิมคาดโต 3.2%นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีหุ้นปลายปี 2552 เป็นเฉลี่ย 726 จุด จากคาดการณ์เดือนก.ย.ที่ 674 จุด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็งทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น ส่วนแนวโน้มปี 2553 ตลาดหุ้นน่าจะผันผวน 220 จุด โดยประเมินดัชนีฯสูงสุดไว้ที่ 845 จุด และต่ำสุดที่ 625 จุด และคาดว่าในช่วงปลายปีดัชนีฯจะอยู่ที่ 812 จุด  ซึ่งปัจจัยบวกมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยรวมถึงแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าของไทย    อย่างไรก็ตาม หลังภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทำให้นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2552 เป็นติดลบ 3.2% ฟื้นตัวขึ้นจากเดิมที่คาดติดลบ 3.4% และเพิ่มประมาณการณ์จีดีพีปี 2553 เป็นเติบโต 3.5% จากเดิมที่คาดโต 3.2%     

เปิดอ่าน7
ราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบ ก.พ.เช้าแตะ77.28ดอลล์

ราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบ ก.พ.เช้าแตะ77.28ดอลล์

         สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไลท์สัญญาส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ที่ตลาดสิงคโปร์ครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 61 เซนต์ มาอยู่ที่ 77.28 ดอลลาร์/บาร์เรล        ขณะที่ราคาน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 1.37 เซนต์ มาอยู่ที่ 2.03 ดอลลาร์/แกลลอน ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.28 เซนต์ มาอยู่ที่ 1.98 ดอลลาร์/แกลลอน และราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 6.4 เซนต์ มาอยู่ที่ 5.89 ดอลลาร์/1 พันลูกบาศก์ฟุต         ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากตลาดคาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯอยู่ในช่วงฟื้นตัว หลังสำนักข้อมูลพลังงานสหรัฐฯแถลงวานนี้ว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐฯสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.9 ล้าบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล    

เปิดอ่าน5
โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

"สมบัติ นราวุฒิชัย" เผยโพลล์ สมาคมนักวิเคราะห์ฯ เพิ่มเป้าดัชนีปลายปี 52 ที่ 726 จุด โดยเดือนกันยายน เป้าหมาย 674 จุด ส่วนปี 53 ผันผวนตั้งเป้าสูงสุด 845 จุด ต่ำสุด 625 จุด พร้อมปรับเป้าจีดีพีปีนี้เป็น -3.2% จากเดิมคาดติดลบ 3.4% ส่วนปี 53 เพิ่มเป้าจีดีพีเป็นโต 3.5% จากเดิมคาดโต 3.2%นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีหุ้นปลายปี 2552 เป็นเฉลี่ย 726 จุด จากคาดการณ์เดือนก.ย.ที่ 674 จุด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็งทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น ส่วนแนวโน้มปี 2553 ตลาดหุ้นน่าจะผันผวน 220 จุด โดยประเมินดัชนีฯสูงสุดไว้ที่ 845 จุด และต่ำสุดที่ 625 จุด และคาดว่าในช่วงปลายปีดัชนีฯจะอยู่ที่ 812 จุด  ซึ่งปัจจัยบวกมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยรวมถึงแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าของไทย    อย่างไรก็ตาม หลังภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทำให้นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2552 เป็นติดลบ 3.2% ฟื้นตัวขึ้นจากเดิมที่คาดติดลบ 3.4% และเพิ่มประมาณการณ์จีดีพีปี 2553 เป็นเติบโต 3.5% จากเดิมที่คาดโต 3.2%     

เปิดอ่าน7
โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

โพลล์ ส.นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีสิ้นปี 726-ปีหน้า 845จุด

"สมบัติ นราวุฒิชัย" เผยโพลล์ สมาคมนักวิเคราะห์ฯ เพิ่มเป้าดัชนีปลายปี 52 ที่ 726 จุด โดยเดือนกันยายน เป้าหมาย 674 จุด ส่วนปี 53 ผันผวนตั้งเป้าสูงสุด 845 จุด ต่ำสุด 625 จุด พร้อมปรับเป้าจีดีพีปีนี้เป็น -3.2% จากเดิมคาดติดลบ 3.4% ส่วนปี 53 เพิ่มเป้าจีดีพีเป็นโต 3.5% จากเดิมคาดโต 3.2%นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีหุ้นปลายปี 2552 เป็นเฉลี่ย 726 จุด จากคาดการณ์เดือนก.ย.ที่ 674 จุด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็งทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น ส่วนแนวโน้มปี 2553 ตลาดหุ้นน่าจะผันผวน 220 จุด โดยประเมินดัชนีฯสูงสุดไว้ที่ 845 จุด และต่ำสุดที่ 625 จุด และคาดว่าในช่วงปลายปีดัชนีฯจะอยู่ที่ 812 จุด  ซึ่งปัจจัยบวกมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยรวมถึงแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าของไทย    อย่างไรก็ตาม หลังภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทำให้นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2552 เป็นติดลบ 3.2% ฟื้นตัวขึ้นจากเดิมที่คาดติดลบ 3.4% และเพิ่มประมาณการณ์จีดีพีปี 2553 เป็นเติบโต 3.5% จากเดิมที่คาดโต 3.2%     

เปิดอ่าน4
STA มองปี53โต10-15%พร้อมทุ่มพันล้านสร้างโรงงาน

STA มองปี53โต10-15%พร้อมทุ่มพันล้านสร้างโรงงาน

นายกิติชัย สินเจริญกุล กรรมการ บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) กล่าวว่า คาดยอดขายปี 53 เพิ่มขึ้น 10-15% ทั้งนี้หากบริษัทเพิ่มกำลังผลิตอีก 15 - 20% จากการเปิดโรงงานแห่งใหม่ตามแผน จะทำให้ยอดขายมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 15-20% จากปีนี้ที่คาดผลการดำเนินงานเติบโตกว่าในปี 2551 เนื่องจากตัวเลขงวด 9 เดือนค่อนข้างดี ประกอบกับ หากความต้องการในตลาดประเทศจีน มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยจีดีพี ปี 2553 มีโอกาสเติบโต 9-10%  โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนลูกค้าจากประเทศจีนประมาณ 30% ของรายได้รวม ซึ่งหากความต้องการเพิ่มมากขึ้นก็น่าจะส่งผลบวกต่อบริษัท นอกจากนี้ ปีหน้าบริษัทได้ตั้งงบลงทุนปีหน้า 1 พันล้านบาท สำหรับสร้างโรงงงานใหม่ 2 แห่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และในประเทศอินโดนีเซีย โดยเดิมบริษัทมีโรงงานบริเวณภาคใต้ แต่การเข้าไปรุกในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ อาทิ โครงการกล้ายาง และเชื่อว่าในอนาคตแหล่งยางจากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเพิ่มปริมาณขึ้น ซึ่งการที่บริษัทไปตั้งโรงงานในบริเวณดังกล่าวเพิ่มรองรับปริมาณยางที่เพิ่มขึ้น ผนวกกับช่วยลดต้นทุนในการขนส่งจากภาคเหนือไปสู่ภาพใต้ ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนจากการแสเงินสดหมุนเวียน และการกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์บางส่วน ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย บริษัทได้เปิดโรงงานแล้วก่อนหน้านี้ 2 แห่ง        

เปิดอ่าน7
บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการนำเสนอสินเชื่อให้กับลูกค้าบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์และแก่ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์กับบสก.ด้วยเงื่อนไขพิเศษ ภายใต้โครงการสนับสนุนโครงการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรายย่อย ซึ่งถือเป็นการให้บริการสินเชื่อให้กับลูกค้าใน 2 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ของ บสก. และในกลุ่มลูกค้าที่ปรับโครงสร้างหนี้กับบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์กับทางธนาคาร ทั้งนี้ปัจจุบัน บสก. มีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ที่อยู่ในความดูแล 229,949 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA ซึ่งอยู่ในความดูแลจำนวน 15,583 รายการ มูลค่า 39,655 ล้านบาท ซึ่งได้มีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพทรัพย์ให้เป็นบ้านพร้อมอยู่ที่ดินพร้อมใช้ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้องชุดพักอาศัย ที่ดินเปล่า เป็นต้น    

เปิดอ่าน7
บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการนำเสนอสินเชื่อให้กับลูกค้าบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์และแก่ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์กับบสก.ด้วยเงื่อนไขพิเศษ ภายใต้โครงการสนับสนุนโครงการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรายย่อย ซึ่งถือเป็นการให้บริการสินเชื่อให้กับลูกค้าใน 2 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ของ บสก. และในกลุ่มลูกค้าที่ปรับโครงสร้างหนี้กับบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์กับทางธนาคาร ทั้งนี้ปัจจุบัน บสก. มีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ที่อยู่ในความดูแล 229,949 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA ซึ่งอยู่ในความดูแลจำนวน 15,583 รายการ มูลค่า 39,655 ล้านบาท ซึ่งได้มีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพทรัพย์ให้เป็นบ้านพร้อมอยู่ที่ดินพร้อมใช้ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้องชุดพักอาศัย ที่ดินเปล่า เป็นต้น    

เปิดอ่าน9
บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการนำเสนอสินเชื่อให้กับลูกค้าบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์และแก่ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์กับบสก.ด้วยเงื่อนไขพิเศษ ภายใต้โครงการสนับสนุนโครงการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรายย่อย ซึ่งถือเป็นการให้บริการสินเชื่อให้กับลูกค้าใน 2 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ของ บสก. และในกลุ่มลูกค้าที่ปรับโครงสร้างหนี้กับบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์กับทางธนาคาร ทั้งนี้ปัจจุบัน บสก. มีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ที่อยู่ในความดูแล 229,949 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA ซึ่งอยู่ในความดูแลจำนวน 15,583 รายการ มูลค่า 39,655 ล้านบาท ซึ่งได้มีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพทรัพย์ให้เป็นบ้านพร้อมอยู่ที่ดินพร้อมใช้ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้องชุดพักอาศัย ที่ดินเปล่า เป็นต้น    

เปิดอ่าน5
บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการนำเสนอสินเชื่อให้กับลูกค้าบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์และแก่ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์กับบสก.ด้วยเงื่อนไขพิเศษ ภายใต้โครงการสนับสนุนโครงการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรายย่อย ซึ่งถือเป็นการให้บริการสินเชื่อให้กับลูกค้าใน 2 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ของ บสก. และในกลุ่มลูกค้าที่ปรับโครงสร้างหนี้กับบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์กับทางธนาคาร ทั้งนี้ปัจจุบัน บสก. มีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ที่อยู่ในความดูแล 229,949 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA ซึ่งอยู่ในความดูแลจำนวน 15,583 รายการ มูลค่า 39,655 ล้านบาท ซึ่งได้มีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพทรัพย์ให้เป็นบ้านพร้อมอยู่ที่ดินพร้อมใช้ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้องชุดพักอาศัย ที่ดินเปล่า เป็นต้น    

เปิดอ่าน9
บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการนำเสนอสินเชื่อให้กับลูกค้าบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์และแก่ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์กับบสก.ด้วยเงื่อนไขพิเศษ ภายใต้โครงการสนับสนุนโครงการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรายย่อย ซึ่งถือเป็นการให้บริการสินเชื่อให้กับลูกค้าใน 2 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ของ บสก. และในกลุ่มลูกค้าที่ปรับโครงสร้างหนี้กับบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์กับทางธนาคาร ทั้งนี้ปัจจุบัน บสก. มีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ที่อยู่ในความดูแล 229,949 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA ซึ่งอยู่ในความดูแลจำนวน 15,583 รายการ มูลค่า 39,655 ล้านบาท ซึ่งได้มีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพทรัพย์ให้เป็นบ้านพร้อมอยู่ที่ดินพร้อมใช้ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้องชุดพักอาศัย ที่ดินเปล่า เป็นต้น    

เปิดอ่าน10
บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการนำเสนอสินเชื่อให้กับลูกค้าบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์และแก่ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์กับบสก.ด้วยเงื่อนไขพิเศษ ภายใต้โครงการสนับสนุนโครงการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรายย่อย ซึ่งถือเป็นการให้บริการสินเชื่อให้กับลูกค้าใน 2 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ของ บสก. และในกลุ่มลูกค้าที่ปรับโครงสร้างหนี้กับบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์กับทางธนาคาร ทั้งนี้ปัจจุบัน บสก. มีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ที่อยู่ในความดูแล 229,949 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA ซึ่งอยู่ในความดูแลจำนวน 15,583 รายการ มูลค่า 39,655 ล้านบาท ซึ่งได้มีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพทรัพย์ให้เป็นบ้านพร้อมอยู่ที่ดินพร้อมใช้ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้องชุดพักอาศัย ที่ดินเปล่า เป็นต้น    

เปิดอ่าน9
บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

บสก.จับมือไทยเครดิตบริการสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการนำเสนอสินเชื่อให้กับลูกค้าบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์และแก่ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์กับบสก.ด้วยเงื่อนไขพิเศษ ภายใต้โครงการสนับสนุนโครงการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรายย่อย ซึ่งถือเป็นการให้บริการสินเชื่อให้กับลูกค้าใน 2 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ของ บสก. และในกลุ่มลูกค้าที่ปรับโครงสร้างหนี้กับบสก.ที่ต้องการรีไฟแนนซ์กับทางธนาคาร ทั้งนี้ปัจจุบัน บสก. มีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ที่อยู่ในความดูแล 229,949 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA ซึ่งอยู่ในความดูแลจำนวน 15,583 รายการ มูลค่า 39,655 ล้านบาท ซึ่งได้มีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพทรัพย์ให้เป็นบ้านพร้อมอยู่ที่ดินพร้อมใช้ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้องชุดพักอาศัย ที่ดินเปล่า เป็นต้น    

เปิดอ่าน9