ข่าวทั้งหมด

BBLหนุนสภาพคล่องช่วยลูกค้าธุรกิจเจอวิกฤต

BBLหนุนสภาพคล่องช่วยลูกค้าธุรกิจเจอวิกฤต

ธนาคารกรุงเทพ พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยจะพิจารณาตามสภาพการณ์และความเดือดร้อน เพื่อเสนอทางออกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าในแต่ละราย นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่เป็นผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่กินระยะเวลากว่า 2 เดือน อันส่งผลให้ธุรกิจการค้าหยุดชะงัก และขาดรายได้จนส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกิจการ ทางธนาคารกรุงเทพ ได้เตรียมแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกค้าไว้ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ การปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ และการสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อเสริมสภาพคล่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถประคับประคองธุรกิจจนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ โดยการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้นั้น อาจเป็นการพิจารณาปรับลดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ระยะหนึ่ง เพื่อลดภาระทางการเงินของลูกค้า หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระ เพื่อให้ยอดเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละงวดลดลง โดยรายละเอียดการให้ความช่วยเหลือลูกค้าแต่ละรายจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความเหมาะสม ทั้งนี้ธนาคารเชื่อว่าแนวทางที่ลูกค้าได้รับจะเป็นข้อเสนอและทางออกที่ดีที่สุดของลูกค้า ด้วยธนาคารจะดำเนินการพิจารณาความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะราย ‘สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการที่มีความประสงค์ใช้บริการ ทางธนาคารได้เตรียมผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ที่ดูแลท่านอยู่ในปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินการประสานงานและให้บริการ หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ ‘ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือธุรกิจ’ โทร 0-2353-5825 และ 0-2636-4095 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป’ นายวีระศักดิ์ กล่าว

สถานีบริการน้ำมัน-ก๊าซฯเปิดบริการตามปกติแล้ว

สถานีบริการน้ำมัน-ก๊าซฯเปิดบริการตามปกติแล้ว

นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า หลังจากการตรวจเยี่ยมสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่ผลกระทบจากการชุมนุม 4 แห่ง ประกอบด้วย สถานีบริการน้ำมันของคาร์เท็ก บริเวณอุรุกพงษ์, ปตท. 2 แห่ง บริเวณบรรทัดทองและบ่อนไก่ และเชลล์ บริเวณบรรทัดทอง พบว่า สถานีบริการน้ำมันและก๊าซฯส่วนใหญ่เปิดให้บริการตามปกติแล้ว หลังจากมีการปิดให้บริการชั่วคราวในพื้นที่เสี่ยง 13 เขตในกรุงเทพมหานครรวม 90 ปั้ม จาก 107 ปั้ม ขณะนี้เหลือเพียง 4 ปั้ม ที่ยังไม่เปิดให้บริการ เนื่องจากได้รับความเสียหาย คือ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ของบริษัท ฐานิตปิโตรเลียมจำกัด บริเวณบอนไก่, สถานีน้ำมัน ปตท.ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ย่านราชประสงค์, สถานีน้ำมัน เอสโซ่ ของบริษัท ทองคำคาร์แคฯ บริเวณซอยรางน้ำ และสถานีน้ำมัน เซลล์ ของบริษัท เลิศวนิชออยล์ สาขา 3 ซึ่งอยู่ระหว่างซ่อมแซมระบบไฟฟ้าที่ใช้ควบคุมการจ่ายน้ำมันและสภาพโดยรอบของปั้ม คาดจะสามารถเปิดให้บริการได้ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประเมินความเสียหายทั้งหมดเพื่อเสนอกระทรวงพลังงานพิจารณาให้ความช่วยเหลือ หลังจากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการน้ำมันหลายแห่ง พบว่า ในบางพื้นที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันการจราจล หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินให้รัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะมีการหารือภายในกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป                

รร.เซ็นทาราแกรนด์เปิดให้บริการ 1 มิ.ย. นี้

รร.เซ็นทาราแกรนด์เปิดให้บริการ 1 มิ.ย. นี้

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหารบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า บริษัทฯ  ขอแจ้งว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 นั้น บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า ในเบื้องต้น ส่วนของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งอยู่หลังศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่จำเป็นที่จะต้องสำรวจและทำการทดสอบระบบต่างๆ รวมทั้งการทำความสะอาดฝุ่นละออง และกลิ่นควันให้เรียบร้อย โดยคาดว่าโรงแรมจะสามารถเริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2553            

BBL เพิ่มช่องรับชำระภาษีผ่าน Tax Smart Card

BBL เพิ่มช่องรับชำระภาษีผ่าน Tax Smart Card

นายธีระ อภัยวงศ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ , นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู รองผู้จัดการใหญ่ พร้อมผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ประกอบด้วย นางรัชนี นพเมือง นางสาวสุธีรา ศรีไพบูลย์  นางคาเรน แคมเบล  และนางสาวบุษกร เปาอินทร์  ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) ร่วมส่งมอบบัตร Tax Smart Card ให้กับ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  พร้อมนายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากรและผู้บริหารระดับสูงของกรมสรรพากร ในฐานะธนาคารแห่งแรกที่เริ่มให้บริการบัตร Tax Smart Card ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2553 นับเป็นการเพิ่มช่องทางใหม่ในการให้บริการของกรมสรรพากร เพื่อให้ผู้เสียภาษีที่เป็น บริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา ในการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ด้วยบัตร Tax Smart Card โดยระยะแรกจะเปิดให้บริการ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 51 แห่ง ทั้งนี้ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาธนาคารกรุงเทพ หรือบริการบัวหลวงโฟน โทร.1333                 

CIMBT เปิดสาขาสำรองช่วยลูกค้า

CIMBT เปิดสาขาสำรองช่วยลูกค้า

นายฐาภพ คลี่สุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่  ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)  หรือCIMBT เปิดเผยว่า  สืบเนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 21 พฤษภาคม 2553 และส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายในหลายพื้นที่นั้น ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์และความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมกันนี้ ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับความสูญเสียทุก ๆ ท่าน  และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยของเราจะฟื้นคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ววัน ทั้งนี้ ธนาคารขอเรียนแจ้งว่า ถึงแม้จะมีสาขาของธนาคารบางแห่งได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวบ้าง แต่จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการดำเนินธุรกรรมและการให้บริการแก่ลูกค้าของสาขา รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ เนื่องจากธนาคารได้มีการเตรียมความพร้อมในภาวะฉุกเฉิน โดยมีระบบการสำรองข้อมูลของลูกค้าไว้ในสถานที่ปลอดภัย ตลอดจนจัดเก็บเอกสารสำคัญไว้ ณ ห้องมั่นคงของธนาคารไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป ขอให้ลูกค้าของธนาคารที่ต้องการติดต่อทำธุรกรรมในสาขาที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อใช้บริการ ณ สาขาสำรองที่ธนาคารได้จัดเตรียมไว้ดังนี้ - สาขาลุมพินี ขอให้ลูกค้าติดต่อใช้บริการได้ที่ สาขาถนนสาทร โทร 02-6388970, 02-6388973-6 - สาขาสยามสแควร์ ขอให้ลูกค้าติดต่อใช้บริการได้ที่ สาขามาบุญครองเซ็นเตอร์ โทร 02-6863964-6 นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ธนาคารได้จัดเตรียมมาตรการพิเศษเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ท่าน โดยท่านสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ ณสาขาต่าง ๆ ของธนาคาร หรือ สอบถามเพิ่มเติมที่ CIMB Thai Care Center โทร. 0-2626 - 7777 กด 0                

ราคาน้ำมันดิบไลท์สิงคโปร์เช้าเพิ่ม 69 เซนต์

ราคาน้ำมันดิบไลท์สิงคโปร์เช้าเพิ่ม 69 เซนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานข่าวเอพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไลท์สัญญาส่งมอบเดือนมิถุนายนที่สิงคโปร์ครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 69 เซนต์ มาอยู่ที่ 70.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 1.04 เซนต์ มาอยู่ที่ 1.907 ดอลลาร์/แกลลอน ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.39 เซนต์ มาอยู่ที่ 1.975 ดอลลาร์/แกลลอน และราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 3.5 เซนต์ มาอยู่ที่ 4 ดอลลาร์/1 พันลูกบาศก์ฟุต ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากนักค้าน้ำมันเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังราคาหุ้นในตลาดหุ้นของภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น ซึ่งนักค้าน้ำมันใช้ราคาหุ้นเป็นเครื่องชี้วัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก

DCON ลุยซื้อที่ดินต่อยอดธุรกิจ

DCON ลุยซื้อที่ดินต่อยอดธุรกิจ

นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DCON เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 150-200 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อที่ดินซึ่งบริษัทฯ กำลังพิจารณาใน 3 ทำเล ได้แก่ ที่บริเวณราชพฤกษ์ ธัญบุรี และลำลูกกา โดยจะมีการลงทุนเปิดโครงการบ้านเดี่ยวเพื่อทดแทนโครงการเดิมที่คาดว่าจะขายหมดในปีนี้ จำนวน 2 โครงการใหม่ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงประมาณไตรมาส 3 และเริ่มเปิดให้จองได้ทันที โดยรายได้จากโครงการใหม่ดังกล่าวจะสามารถเริ่มทยอยรับรู้รายได้ได้ประมาณในช่วงต้นปีหน้า ในส่วนของเม็ดเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่มีอยู่ประมาณ 70-80 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมีการขอกู้จากธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะรุกในธุรกิจใหม่ คือ การดำเนินการจัดการสร้างและวางระบบอพาร์ทเม้นท์ให้กับลูกค้าที่มีความต้องการ โดยจะเน้นในทำเลที่มีอพาร์ทเม้นท์เดิมอยู่ เนื่องจากในทำเลดังกล่าว เชื่อว่ายังมีความต้องการที่อยู่อาศัย ประกอบกับการลงทุนสร้างอพาร์ทเม้นท์ใหม่ เชื่อว่าจะมีความได้เปรียบจากอพาร์ทเม้นท์เดิมที่มีอยู่ในทำเลดังกล่าว                

สถานการณ์ไม่เอื้อTWZ เลื่อนส่งวอร์แรนยาว

สถานการณ์ไม่เอื้อTWZ เลื่อนส่งวอร์แรนยาว

นายพุทธชาติ รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า ใบสำคัญสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 600 ล้านหน่วย ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทดังกล่าวตามสัดส่วนของการถือหุ้น ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญ ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ในราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิหุ้นละ 0.90 บาท นั้น ในเบื้องต้นคาดว่าคงเลื่อนนำวอร์แรนต์ดังกล่าวเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นกลางเดือนมิถุนายน 2553 จากเดิมเดือนพฤษภาคม 2553 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ทำให้กระบวนการในการนำวอร์แรนต์เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่วางแผนไว้

ซิตี้กรุ๊ปคาดดัชนีตลาดหุ้นอินเดียจะเพิ่มขึ้น 10% สิ้นปีนี้

ซิตี้กรุ๊ปคาดดัชนีตลาดหุ้นอินเดียจะเพิ่มขึ้น 10% สิ้นปีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวบลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า ซิตี้กรุ๊ปอิงค์คาดดัชนีตลาดหุ้นอินเดียจะเพิ่มขึ้น 10% ในสิ้นปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจมหภาคกำลังอยู่ในช่วงขยายตัวได้สูง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้น โดยนายอาทิตยา นาเรนนักวิเคราะห์ซิตี้กรุ๊ประบุในบทวิเคราะห์ว่า ดัชนีเซ็นเซคส์ตลาดหุ้นอินเดียในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 18,100 จุด พร้อมระบุว่า ขณะนี้ราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียนอินเดียยังคงอยู่ในระดับไม่แพง ในบทวิเคราะห์ดังกล่าวระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดี เช่นเดียวกับกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียน และมูลค่าหุ้นที่อยู่ในระดับน่าลงทุนเป็นปัจจัยที่ทำให้ซิตี้กรุ๊ปแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นอินเดีย ส่วนหุ้นที่ซิตี้กรุ๊ปแนะนำลงทุนได้แก่ กลุ่มธนาคาร สินค้าทุน พลังงาน และยานยนต์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากการขยายตัวของเศรษฐกิจมหภาค

นายกฯ เล็งตั้งธงปฏิรูปประเทศใน 2เดือน

นายกฯ เล็งตั้งธงปฏิรูปประเทศใน 2เดือน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรก (ม.ค.- มี.ค. 2553 ) ที่ขยายตัวถึง 12% เป็นการบ่งบอกถึงความเข้มแข็งของพื้นฐานเศรษฐกิจไทย แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องจับตาเป็นพิเศษคือตัวเลขไตรมาส 2 ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้(23 พ.ค.53) ได้เรียกหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันนี้เพื่อกำหนดแนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศ โดยภายใน 2 เดือนนี้ ในภาพรวมต้องเห็นการปฏิรูปประเทศชัดเจน เบื้องต้นจากการประเมินความเสียจากเหตุการณ์วันที่ 19 พ.ค.เฉพาะลูกค้ารายย่อยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1 พันล้านบาท แต่ในเรื่องของผลกระทบในภาพรวมทั้งหมดยังเร็วเกินไปที่จะประเมินตัวเลขได้ในขณะนี้ แต่รัฐบาลจะเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นโดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว ส่วนงานที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นงานเร่งด่วน คือ การเดินหน้ากระบวนการยุติธรรม รวมถึงการฟื้นฟูประเทศ ซึ่งยอมรับว่าในแผนปรองดอง 5 ข้อ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมเรื่องการฟื้นฟูประเทศ รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งคงจะได้มีโอกาสหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องนี้ต่อไป

อังกฤษเล็งลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ในประเทศ

อังกฤษเล็งลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ในประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาลผสมชุดใหม่ของอังกฤษจะประกาศแผนลดค่าใช้จ่ายลงมากถึง 6 พันล้านปอนด์หรือราว 282,000 ล้านบาทเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงเป็นประวัติการณ์ นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน กล่าวในหนังสือพิมพ์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ฉบับวานนี้ว่า พรุ่งนี้รัฐบาลจะประกาศว่าจะลดค่าใช้จ่ายด้านใดบ้างเป็นจำนวนรวม 6,000 ล้านปอนด์ จากนั้นจะดำเนินมาตรการคุ้มครองกลุ่มอ่อนแอที่สุดในสังคมไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการลดงบประมาณนี้                

ออมสินส่งมาตรการช่วยลูกค้า-ปชช.จากวิกฤตการเมือง

ออมสินส่งมาตรการช่วยลูกค้า-ปชช.จากวิกฤตการเมือง

นายเลอ ศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงกว่าสัปดาห์ ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าจึงปิดให้บริการบางสาขาใน พื้นที่ดังกล่าวรวมจำนวน 15 สาขา แต่หลังจากเหตุการณ์ได้สงบลงเป็นที่เรียบร้อย ธนาคารออมสินจึงขอแจ้งให้ทราบว่า ธนาคารออมสินทุกสาขาในพื้นที่ดังกล่าวได้เปิดให้บริการทั้งหมดแล้วตั้งแต่ วันนี้ (วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2553) เพื่ออำนวยสะดวกให้แก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้อย่างทั่ว ถึงทั้งนี้ สำหรับลูกค้าสินเชื่อทุกประเภทที่ครบกำหนดชำระในช่วงเวลาที่ธนาคารฯ ปิดให้บริการตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2553 สามารถชำระเงินได้ในวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2553 โดยธนาคารฯ ไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระแต่อย่างใดนายเลอ ศักดิ์ กล่าวว่า ที่สำคัญธนาคารฯ ยังมีมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบ สำหรับลูกค้าของธนาคารฯ ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยลูกค้าสินเชื่อที่มีหลักประกันเดิมจำนองอยู่ เช่น สินเชื่อเคหะ สามารถขอกู้เพิ่มได้ไม่เกินรายละ 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 3.50  ต่อปี โดยจะคงดอกเบี้ยไว้ 2 ปี สำหรับลูกค้าเงินฝากสามารถขอกู้เงินได้ไม่เกิน 50,000  บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.50  ต่อปี เป็นระยะเวลา 1 ปีสำหรับ ลูกค้าสินเชื่อเดิมทุกประเภทของธนาคารฯ ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงโดยตรงนั้น ธนาคารออมสินได้พิจารณาผ่อนผันพัก ชำระเงินต้น และหรือดอกเบี้ยให้ไม่เกิน 1 ปี  ส่วน ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั่วๆ ไป ธนาคารฯ ผ่อนผันพักชำระเงินต้น และ ดอกเบี้ยให้ไม่เกิน 6  เดือนโดยไม่คิดเบี้ย ปรับ และจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่อไป"นอก จากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารฯ แล้ว สำหรับประชาชนทั่วไปที่ทำมา ค้าขายในพื้นที่ เสี่ยงภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถติดต่อขอสินเชื่อกับธนาคารออมสินได้โดยธนาคารจะ พิจารณาวง เงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาที่เหมาะสมต่อไป" ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว

'สุเทพ' ยันแกนนำเสื้อแดงยังหลบอยู่ในประเทศ

'สุเทพ' ยันแกนนำเสื้อแดงยังหลบอยู่ในประเทศ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการติดตามตัวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังหลบหนีการจับกุมว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการ แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่รัฐบาลจะไม่ลดละความพยายาม ส่วนที่มีข่าวแกนนำบางคนได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว ขอยืนยันว่า แกนนำทุกคนยังอยู่ในประเทศ ส่วนศพที่พบในวัดปทุมวนาราม 6 ศพ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน และเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน โดยยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากการกระทำจากเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างแน่นอน ส่วนภาพที่โฆษกพรรคเพื่อไทย หลังออกมาเปิดเผย เป็นภาพเหตุการณ์ที่ศาลาแดง จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสารข้อมูลด้วย

CYBERได้ฤกษ์ใหม่เข้าเทรดmai 27 พ.ค.นี้

CYBERได้ฤกษ์ใหม่เข้าเทรดmai 27 พ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ได้แจ้งการกำหนดให้รับหุ้นสามัญของบริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) (CYBER) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและให้เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นไปนั้น เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ปิดทำการซื้อขายในวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2553 ด้วยปรากฏเหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงเห็นควรกำหนดให้ CYBER เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและกำหนดเริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ของ CYBER ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันที่ 27 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป ดังนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขอแจ้งว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งให้รับหุ้นสามัญของบริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงเห็นควรกำหนดให้หุ้นสามัญของบริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) จำนวน 280,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวม 140,000,000 บาท ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า  CYBER  และ กำหนดให้เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป

ค่าบาทเปิดเช้านี้ที่ 32.39 บาท/ดอลล์

ค่าบาทเปิดเช้านี้ที่ 32.39 บาท/ดอลล์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นักค้าเงินจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) กล่าวว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 32.39 บาท/ดอลลาร์ คาดระหว่างวันค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.42 บาท/ดอลลาร์  โดยแนวโน้มค่าเงินบาทจะอ่อนค่า ตามทิศทางค่าเงินสกุลหลักอื่นๆในภูมิภาค เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการเมืองในประเทศว่าจะสงบอย่างยั่งยืนหรือไม่                

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24/05/53

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24/05/53

คาดเห็นการรีบาวด์และปรับฐานวันเดียวกัน จากสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลายลงแม้จะจบลงอย่างเกือบจะดีแต่ Negative Surprise ในที่สุด โดยเฉพาะภาคธุรกิจเข้ามารับเคราะห์แทนภาคการเมือง เป็นเหยื่อของการถูกเผาวางเพลิง กระทบ 3 หุ้นหลักโดยตรงในตลาดฯ คือ CPN-BIGC-BEC รวมถึงอาคารที่ทำการตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งขอแสดงความเสียใจและเห็นใจ แต่ด้วยความที่สถานการณ์คลายตัวและการสู้รบบนพื้นดินจบไป คงเหลือแต่การต่อสู้ทางการเมืองและการต่อสู้ใต้ดิน ทำให้เราเชื่อว่าวันนี้ตลาดหุ้นน่าจะเกิดการรีบาวด์ขึ้นก่อน อย่างไรก็ตามตลาดต่างประเทศเป็นอีกปัจจัยที่มีการเคลื่อนไหวทางลงตลอดหลายวันที่เราหยุดไปจนเราเปิดทำการขึ้นมาก็ถึงจุดวกกลับแล้ว จะเห็นได้ว่า 3 วันทำการที่ผ่านไป ตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวลง 3.46% ญี่ปุ่น 5.24% จีน 0.46% (จีนลงต่อเนื่องมาตลอดนับจาก 15 เม.ย.53) ซึ่งต่อให้ตลาดไทยฟื้นยืนกลับขึ้นได้ เราก็คาดว่าในที่สุดจะรับผลกระทบจากความอ่อนแอของตลาดต่างประเทศในที่สุด กรอบดัชนีวันนี้แนวต้าน 772 จุด แนวรับ 757 จุด ที่สุดเราเชื่อว่าจะเห็นการเคลื่อนไหวในระดับ 735-785 จุด ซึ่งต้องยอมรับว่านับจากวันนี้ไปรีบาวด์ได้ก็น ่าขายทำกำไรไปก่อน กรอบวันนี้ แนวรับ 758 แนวต้าน 775ปัจจัยวันนี้: รับผลในประเทศแล้วตามต่างประเทศเป็นหลัก ( - ) เศรษฐกิจ: วันนี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 1/53 คาดสูงระดับ 9%จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เห็นได้ชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/53 ประกอบการฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมที่ผ่านมา ซึ่งมีการประเมินกันว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจหลายแสนล้านบาท ซึ่งอาจจะทำให้ GDP ทั้งปี 2553 เติบโตเพียง 3.5-4.0% จากเดิมที่เราคาดเติบโต 4.4% สำหรับไตรมาส 2/53 คาด GDP น่าจะติดลบระดับ 8-10%QoQ แต่หากเปรียบเทียบ YoY เชื่อว่า GDP อาจจะยังไม่ติดลบเนื่องจากฐานปีที่แล้วต่ำ ( + ) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: หุ้นกลุ่มธนาคารพากันพุ่งขึ้นขานรับร่างกฎหมายของวุฒิสภาหลังถูกนักลงทุนเทขายก่อนหน้านี้ จากความวิตกที่ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะส่งผลกระทบต่อกำไรของภาคธนาคาร ข่าวที่ว่ารัฐสภาเยอรมันผ่านร่างกฎหมายอนุมัติมาตรการช่วยเหลือกรีซและประเทศอื่นในยูโรโซนที่มีปัญหาหนี้สินสูง ก็ได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนต่อวิกฤติหนี้ของยุโรป ( - ) อุตสาหกรรมเหล็ก: ราคาเหล็กในตลาดโลกลดความร้อนแรงลง โดยเหล็กรีดร้อน (HRC) เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 53 ที่ผ่านมาลดลงถึง 25 เหรียญฯ ต่อตันหรือประมาณ -4%WoW ในขณะที่เหล็กเส้น (Rebar) ลดลง 10 เหรียญฯ ต่อตันหรือประมาณ -1%WoW แม้ราคาวัตถุดิบจะลดลงตาม แต่เนื่องจากกระบวนการผลิตเหล็กจะมีความล่าช้าอย่างน้อย 1 เดือน (สั่งวัตถุดิบวันนี้ ได้รับวัตถุดิบสำหรับผลิตเร็วที่สุดคืออีก 1 เดือนข้างหน้า) ทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ในช่วงขาลงจะแคบกว่าช่วงขาขึ้น จึงแนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไรหุ้นในอุตสากรรมเหล็กและรอซื้อเมื่อราคาเหล็กกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ( + ) ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์: ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าไนเม็กซ์ ปรับตัวร่วงสู่ระดับต่ำสุดที่ 64.48 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ปัจจุบันดีดกลับขึ้นมาได้ที่ 70 เหรียญฯ ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX มีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันที่ 72.22 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล และ 20 วันที่ 77.22 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล คาดว่าจะรีบาวด์ได้ในกรอบ 68-72 เหรียญสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ แต่คาดว่าดีดตัวกลับไปยืนได้ 74 เหรียญฯ ได้ ช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบรูดลง 16.11 เหรียญฯ หรือ 18.7 % ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ อาจล้นตลาดสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันตามสัญญาในตลาด NYMEX โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิงเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สู่สถิติสูงสุดที่ 37.9 ล้านบาร์เรล ณ สิ้นสุดวันที่ 14 พ.ค.53 อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันดิบ ณ ปลายเดือน มิ.ย.53 ไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนระดับ 80 เหรียญฯ ได้ จะเป็นผลลบกับธุรกิจโรงกลั่นมากกว่าธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม                

บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24/05/53

บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24/05/53

แกว่งลง KGI ประเมินดัชนีฯ ในวันจันทร์หลังกลียุคการเมือง จะแกว่งตัวลง มองว่าตลาดจะมีปรับขึ้นในช่วงต้นรับความชัดเจนทางการเมืองแต่จะถูกแรงขายต่างชาติกดดันในที่สุด สาเหตุหลักที่แรงขายต่างชาติจะต่อเนื่องคือ i) จิตวิทยาเชิงลบจากเหตุเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงที่ไทยจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชือถือ และ ii) ดัชนีหุ้นไทยยังอยู่ที่ระดับค่อนข้างสูง ขณะที่ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง 4%, เยอรมัน 3.8%, ฝรั่งเศส 3.6%, ญี่ปุ่น 6.5% และ ฮ่องกง 3% สอดคล้องกับราคาน้ำมันสหรัฐฯ ที่ร่วง 5% แถว 68 เหรียญ/บาร์เรล คาดว่าจิตวิทยาเชิงลบจะอยู่ในหุ้นที่รับผลกระทบจากเพลิงไหม้ เช่น CPN และ BEC อย่างไรก็ดี CPN มีประกันความเสี่ยงจากการก่อการร้าย รวมถึงสัญญาชดเชยรายได้ที่สูญหายด้วย หากราคา CPN ลงแรงก็จะเป็นโอกาสซื้อลงทุน กลยุทธ์: ระยะสั้น - หากดัชนีฯ มีเด้งได้ไม่ควรตามซื้อ ให้รอดูจังหวะตลาดปรับลง ซื้อลุ้นรีบาวด์ตามแนวรับที่ 757 และ 748 จุด ระยะยาว – KGI ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้น เนื่องจากวิกฤตการเมืองที่ผ่านพ้นไปจะทำให้รัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นในประเทศนั้นคงอยู่ในช่วงที่แย่ที่สุดแล้ว และครึ่งปีหลังจะดีขึ้น นักลงทุนจึงควรเก็บหุ้นเศรษฐกิจในประเทศอย่างธนาคาร และก่อสร้าง เช่น KBANK, SCB, KTB และ SCC เป็นต้น ส่วนหุ้นกลุ่มที่ประเด็นการลงทุนแข็งแกร่งสุดช่วงนี้คือกลุ่มอาหารและค้าปลีกที่เกี่ยวกับอาหาร แนะซื้อ CPF และ MAKRO หลังพายุผ่านพ้นไป... ขอให้ความสามัคคีจงบังเกิดแก่ชาวไทยทุกคนความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ CPALL บ่ยั่นจลาจลยันเดินหน้าลงทุน ปีนี้เปิด 450 สาขา รายได้โตเข้าเป้า 10-15% คาดเสียหายเล็กน้อยฟื้นฟูเร็ว บริษัทเบื้องต้นคาดว่าร้าน 7-11 จะรับความเสียหายประมาณไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาฟื้นฟูไม่เกิน 1 สัปดาห์ต่อสาขา เนื่องร้านสะดวกมีพื้นที่ขายขนาดเล็ก เราจึงคาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไม่มีนัยสำศัญและจะฟื้นตัวได้เร็ว คงคำแนะนำ ถือ ด้วยราคาเป้าหมาย 29.60 บาท                

ทองรูปพรรณวันนี้ขายออกบาทละ18,600 บ.

ทองรูปพรรณวันนี้ขายออกบาทละ18,600 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมค้าทองรายงานราคาทองคำในประเทศ วันที่ 24 พฤษภาคม 2553 ดังนั้น ทองคำ 96.5%                    รับซื้อ                       ขายออก           ทองคำแท่ง                         18,100      บาท       18,200      บาท ทองรูปพรรณ                      17,843.32  บาท       18,600      บาท

บล.เกียรตินาคิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24/05/53

บล.เกียรตินาคิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24/05/53

SET วันพุธปิดบวก หลังแรงซื้อหุ้นกลับเข้ามาในการเก็งกำไรเกี่ยวกับความหวังทางด้านการเมืองที่คลี่คลายลง ด้วยมูลค่าการซื้อขายปานกลาง SET ปิดบวกหลังเปิดทำการเพียงครึ่งวัน โดยดัชนีเปิดตลาดเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบจากปัจจัยการเมืองที่ยังกดดันตลาด แต่อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเข้ามาจากการเก็งกำไรเกี่ยวกับทางด้านการเมืองที่คาดว่าจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน แบงก์วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ทำให้ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 765.54 จุด เพิ่มขึ้น 5.43 จุด (+0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 14,315.87 ล้านบาทการลงทุนของนักลงทุนประเภทต่าง ๆ วันพุธนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิจำนวน –4,715.46 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิจำนวน +667.94 ล้านบาท ส่วนบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิจำนวน +22.11 ล้านบาทตารางแสดงยอดการลงทุนของนักลงทุนประเภทต่าง ๆ ปี 2552 และปี 2553 Total -52 Jan -53 Feb -53 Mar -53 Apr -53 May -53 Total -53นักลงทุนต่างประเทศ 38 ,499 -7,485 5,422 44 ,600 -4,097 -38 ,660 -220นักลงทุนสถาบัน -3,590 -8,210 5,858 -9,342 -4,322 9,011 -7,006บริษัทหลักทรัพย์ 1,850 -2,068 -398 3,103 -1,273 768 133ที่มา : รวบรวมโดย KKSแนวโน้มตลาดวันนี้ เราคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวในช่วง 760-775 จุด เป็นแนวโน้มแกว่งตัวตามดาวโจนส์ที่ปิด +125 จุดและยังแกว่งตัวต่อภายหลังจากที่การชุมนุมยุติลงโดยมีความเสียหายอยู่ในวงจำกัดได้ตามที่นายกฯ แถลงไว้ ด้านสถาบันซื้อสุทธิ +667 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ –4,715 ล้านบาท แสดงถึงตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนต่อ โดยนักลงทุนยังจับตาดูสถานการณ์การการเมืองไทยหลังจากที่การชุมนุมยุติลง โดยความเสียหายถือว่ายังอยู่ในวงจำกัดทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งมีการคาดหวังว่าการมีนโยบายฟื้นฟูความเสียหายและสร้างภาพลักษณ์กลับมาจะส่งผลบวกสามารถประคองเศรษฐกิจไม่ให้ย่ำแย่ได้ นอกจากนี้ถ้ารัฐบาลสามารถอยู่ต่อได้ โดยไม่ยุบสภา จะเป็นผลบวกในการสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนได้กลยุทธ์การลงทุน คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวผันผวนในช่วงสั้นนี้ ยืนเหนือ 760 จุดน่าซื้อเก็งกำไร ต่ำกว่า752 จุด แนะนำขาย สำหรับสัดส่วนการลงทุนในช่วงนี้ให้เป็นถือหุ้น 25% ถือเงินสด 75%

สศช.ชี้ จีดีพี Q1/53 โตสูงสุดในรอบ 15 ปี

สศช.ชี้ จีดีพี Q1/53 โตสูงสุดในรอบ 15 ปี

นายอำพน  กิตติอำพน  เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ ไตรมาส 1/53 ขยายตัว 12%  จาก Q1/52 ที่ติดลบ 7.1% สูงสุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2538  การขยายตัว Q4/52 เนื่องจากได้รับปัจจัยบวก จากการส่งออกดี และภาคการเงิน การผลิตและการค้าระหว่างประเทศดีขึ้น ขณะที่การเมืองคลี่คลายทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย ถึง4.7 ล้านคน ส่วนอุปสงค์ภายในประเทศดีขึ้นทำให้การผลิตภาคอุตสหากรรมฟื้นตัวในทิศทางเดียวกัน  ต่อเนื่องจาก Q4/52 ที่ โต 5.8%