นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงฐานะการคลังของรัฐบาลไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2553 ว่า รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้ 352,392 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552 ที่จัดเก็บรายได้ได้ 278,018 ล้านบาท จำนวน 74,374 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 26.8นายสาธิต กล่าวว่า รายได้ที่จัดเก็บได้สูงขึ้น เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ภาษีสุรา เบียร์ และภาษียาสูบ ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้นโยบายงบ ประมาณขาดดุล โดยไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2553 มีการเบิกจ่ายงบประมาณ 451,175 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2552 จำนวน 46,835 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.6 ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ 98,783 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลส่งผลให้ขาดดุลเงินสดรวม 175,093 ล้านบาททั้งนี้ รัฐบาลได้ออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุล 51,572 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 123,521 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 170,313 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับที่ยังมีความมั่นคงต่อฐานะการคลัง และจากผลการจัดเก็บรายได้ที่มีทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฐานะการคลังของรัฐบาลมีความเข้มแข็ง ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลสามารถอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างต่อ เนื่องและเป็นไปตามเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล