"Dragon 5 (ดราก้อน ไฟว์) เป็นเหมือนนามสกุลของผมไปแล้ว" ประโยคนี้ถูกพูดขึ้นเมื่อทีมข่าว Sanook News ถามถึงความผูกพันที่ "เต้ เตวิช เต้พันธ์" มีให้กับ "Dragon 5" บอยแบนด์สัญชาติไทย ซึ่งประกอบไปด้วย 5 หนุ่มหล่อ แอนดี้, เต๋า, หยวน, โอ๊ค และแน่นอนมีเจ้าตัวรวมอยู่ในนั้นด้วย

หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2543 วงการเพลงบ้านเราได้มีโอกาสรู้จักกับ Dragon 5 อย่างเป็นทางการ ผ่านผลงานอัลบั้มชุดแรกภายใต้ชื่อเดียวกัน ซึ่งมีเพลงฮิตติดหูมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "มันมาของมันเอง", "หยุดหลอกตัวเองสักที" รวมถึงเพลง "ผิดคนแล้ว" และในระยะเวลาเพียงไม่นาน Dragon 5 ก็สามารถทะยานขึ้นสู่การเป็นบอยแบนด์อันดับหนึ่งของประเทศ พร้อมกับสร้างสถิติให้ตัวเองด้วยการ โกอินเตอร์ ซึ่งถือว่าเป็นบอยแบนด์วงแรกของเมืองไทยเลยก็ว่าได้

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ภาระหน้าที่ในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของทั้ง 5 หนุ่มก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เช่นเดียวกับ "เต้ เตวิช เต้พันธ์" ที่ทุกวันนี้งานในวงการบันเทิงก็ยังคงเป็นงานหลักของเจ้าตัว เพียงแค่สลับบทบาทจากคนเบื้องหน้าสู่คนเบื้องหลัง เพื่อผลิตรายการโทรทัศน์และคอนเท้นต์ออนไลน์น้ำดีสู่สังคมไทย...

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในบทบาทคนเบื้องหลัง สู่การสร้างคอนเท้นต์สีขาวบนโลกออนไลน์ ด้วยใจรักในอาชีพคนทำสื่อ
“สำหรับชีวิตของผมตอนนี้ ผมเป็นผู้จัดรายอยู่เด็กอยู่ทางช่อง 3 แฟมิลีครับ คือจริงๆ ตัวผมเองตอนนี้ก็ไม่ได้ผันตัวเองมาเป็นคนเบื้องหลังเต็มตัวนะครับ เพราะงานเบื้องหน้าก็ยังมีอยู่ แต่บังเอิญว่าช่วงที่ผ่านมามันมีโอกาสเข้ามาให้ผมก็เลยได้ต่อยอดโอกาสตรงนั้นมาเรื่อยๆ ซึ่งถามว่าชอบไหม ผมชอบมากครับ (ยิ้ม)”

“จริงๆ ผมทำเว็บไซต์ทีวีออนไลน์ด้วยนะ เป็นโปรเจคที่เริ่มมา 1 ปีแล้ว ซึ่งรายการที่ผมทำมันจะไม่ใช่รายการสีเทา ไม่ใช่รายการที่มีคำหยาบ หรือมีเนื้อหาแรงๆ แต่จะเป็นรายการสีขาว เป็นคอนเทนต์ที่สามารถอยู่ได้นานๆ เช่น รายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการวิ่ง หรือรายการสอนเด็กๆ วาดรูป ซึ่งถามว่าการทำรายการแนวนี้แล้วต้องไปต่อสู้กับรายการอื่นๆ ที่มีเนื้อหาแรงๆ มันยากไหม ยากครับ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมว่าสิ่งที่ผมทำมันจะอยู่ไปได้เรื่อยๆ ถึงแม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็ตั้งใจว่าจะทำมันไปเรื่อยๆ สามารถไปติดตามได้ครับทางแฟนเพจ Take on Channel”

แม้จะไม่ได้กลับมาจับไมค์อีก แต่ทุกวันนี้ก็ยังคงคิดถึงงานเพลง "Dragon 5" เปรียบเหมือนนามสกุลของผมไปแล้ว
“งานเพลงผมก็ยังคิดถึงนะครับ สำหรับวง Dragon 5 แต่ว่าอย่างที่ทราบกันดีตอนนี้ทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ของตัวเอง บวกกับเศรษฐกิจบ้านเราตอนนี้มันก็บอกอยู่แล้วว่าถ้าหากคุณคิดจะทำเพลงออกมาสักเพลงหนึ่ง คุณจะต้องมีใจรักมากๆ รวมถึงวงของเราเป็นวงบอยแบนด์แบบนี้ด้วยแล้ว เรื่องเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะมันต้องนัดมารวมตัว ดังนั้นมันก็เลยทำให้ไม่สามารถกลับมารวมกันได้ง่ายๆ แต่เราก็ยังคงพูดคุยกันปรึกษากันอยู่ครับ”

“จริงๆ ล่าสุดที่เรารวมตัวกันบนคอนเสิร์ต ตอนนั้นหัวใจจะวายเลยนะ (หัวเราะ) หายใจไม่ทัน คือ คือผมรู้สึกได้เลยว่าทุกคนมีไฟจริงๆ ทุกคนยังมีความเป็น Dragon 5 อยู่ อย่างตัวผมเองทุกวันนี้เวลาแนะนำตัวผมกับใครๆ ผมก็จะบอกว่าผมเป็น “เต้ Dragon 5” เพราะว่าทุกคนจำเราจากภาพนั้นได้ มันเป็นเหมือนนามสกุลของเราไปแล้ว”

คำว่า โกอินเตอร์ ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อย Dragon 5 เต็มที่กับทุกโปรเจค และนั่นคือความทรงจำเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิต
“ทุกวันนี้ผมก็ยังภาคภูมิใจกับความเป็น Dragon 5 เสมอนะครับ เพราะตอนนั้นเราทุกคนต่างก็เต็มที่กับงานที่เราทำ อย่างตอนที่เราต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ ผมบอกเลยนะครับว่าเหนื่อยมาก คือผมต้องบอกก่อนว่า Dragon 5 เรามีอายุการทำงาน 4 ปี แต่ว่าใน 4 ปีนั้น เรามีอัลบั้มถึง 7 อัลบั้ม แถมยังต้องทำงานทั้งที่ไทยและที่ไต้หวัน ซึ่ง ณ เวลานั้นทุกคนก็ยังเรียนหนังสืออยู่ คือมันต้องจัดการกับเวลาเยอะมากจริงๆ เราทุกคนเต็มที่มากครับ”

“กระแสตอบรับตอนนั้นก็ดีนะครับในมุมของศิลปินไทยที่ไปสู่เวทีต่างชาติ ซึ่งผมบอกเลยนะว่าการไปทำเพลงภาษาจีนในสมัยก่อนมันจะมีอยู่ 5 ประเทศ คือ สิงคโปร์ ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และก็ไทย ซึ่งช่วงนั้นกระแสไต้หวันแรงมาก ไม่เหมือนกับเดี๋ยวนี้ที่เป็นเกาหลี ถามว่าผมรู้สึกยังไงบ้างกับสิ่งต่างๆ ที่มีเข้ามาในชีวิตการทำงานเพลง เอ่อ…ผมถือว่าทุกอย่างเป็นประสบการณ์ที่ดีหมดเลยครับ เป็นความทรงจำ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมครับ”

อัลบั้มภาพ เจาะลึกชีวิต เต้ Dragon 5 ผู้ชายคนนี้ ไม่เคยย่ำอยู่กับที่ ภาพที่ 16 / 19

เจาะลึกชีวิต เต้ Dragon 5 ผู้ชายคนนี้ ไม่เคยย่ำอยู่กับที่