คาดไทยปี52ป่วยวัณโรคถึง9หมื่นคน-สธ.เร่งสกัด

องคมนตรี แนะสธ.เร่งคุมวัณโรค "ฮู"คาดปี52 ไทยป่วยกว่า 9หมื่น ตาย13,900 ด้านสธ.แนะกินยาต่อเนื่อง ป่วยกว่า3หมื่นไม่เข้ารักษา หวั่นแพร่เชื้อลาม

ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานพิธีมอบรางวัลให้กับนักบริหารโรงพยาบาลดีเด่นและนักเวชศาสตร์ป้องกันดีเด่นระดับชาติ พร้อมเปิดสัมมนาการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข หัวข้อเรื่อง "เร่งรัด หยุดยั้ง วัณโรค" พร้อมกล่าวว่า การแพร่ของโรควัณโรคขณะนี้พบว่า ไทยเป็นประเทศที่มีวัณโรคชุกโดยจัดอยู่ในอันดับที่ 18 จาก 22 ประเทศที่พบผู้ป่วยมากที่สุด ซึ่งองค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่า ในปี 2552 ประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อวัณโรคสูงถึง 91,000 ราย

และพบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ 39,000 ราย ซึ่งหากไม่มีการควบคุมจะทำให้มีผู้เสียชีวิต 13,900 ราย ถือว่าเป็นสถิติที่สูง เพราะก่อนหน้านี้ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตไม่ถึง 10,000 รายต่อปี ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือกระทรวงสาธารณสุขต้องตื่นตัวและเน้นการบริการเข้าถึงยาให้กับผู้ป่วยมากที่สุด รวมทั้งให้จับตาในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้สูงอายุ แรงงานต่างด้าว และนักโทษในเรือนจำ โดยให้ทำการประเมินผลกเป็นรายสัปดาห์เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อวัณโรค

น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยวัณโรคทั่วโลก 18 ล้านราย ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ระยะการแพร่เชื้อ และมีผู้เสียชีวิตปีละ 1,900,000 ราย และมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 8,800,000 คน ร้อยละ 95 ของผู้ป่วยจะอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่พบผู้ป่วยวัณโรคมาก โดยจัดอยู่ในอันดับที่ 18 และในปี 2552 กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าหมายลดอัตราการป่วยตายจากวัณโรคภายใน 5 ปี โดยใช้ระบบการติดตามผู้ป่วยให้ได้ร้อยละ 90 รวมทั้งจะเร่งหาผู้ป่วยวันโรคให้เข้ารับการรักษาโดยเร็ว

ด้าน น.พ.ยุทธิชัย เกษตรเจริญ ผู้อำนวยการสำนักวัณโรค กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยด้วยโรควัณโรคขึ้นทะเบียนยังสถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 58,000 ราย ซึ่งองค์การอนามัยโลกประมาณการณ์ว่าจะมีคนที่ติดเชื้อวัณโรค 90,000 ราย ดังนั้นยังมีอีก 30,000 รายที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษา จึงต้องเร่งจับตากลุ่มคนเหล่านี้ เพราะมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ ซึ่งสามารถสังเกตผู้ป่วยวัณโรคได้จากการไอเรื้อรังต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ น้ำหนักตัวลดลง และมีอาการไข้ในช่วงเย็น รวมทั้งมีเหงื่อออกมาก และหากพบผู้ใดมีการอาการเหล่านี้ ต้องแนะนำไปให้พบแพทย์โดยเร็ว ซึ่งการักษาวัณโรคสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการกินยาต่อเนื่อง 6 เดือน และสามารถหายขาดได้

นอกจากนี้ทางกระทรวงยังมีวิธีการรักษาผู้ป่วยด้วยการติดตามให้ผู้ป่วยกินอย่างต่อเนื่อง โดยมีพยานรู้เห็น คือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม. (DOT.) และจากรายงานพบว่า หากผู้ป่วยกินอย่างเคร่งครัด ร้อยละ 95 จะหายขาดและไม่กลับมาเป็นวัณโรคอีก ทั้งนี้วัณโรคที่พบมากที่สุด คือ วัณโรคปอด แต่กลุ่มที่ทางกระทรวงเป็นห่วงมากที่สุด คือ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และรับเชื้อวัณโรคเพิ่ม เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดอาการโรคที่รุนแรงมาก และจากรายงานพบว่า ในจะจำนวนผู้ป่วยวัณโรค 100 คน จะมีผู้ป่วยเอชไอเวชถึง 17 ราย