รวบพนักงานบัญชียักยอกเงินกว่าล้านบาท รพ.ค่ายสุรนารี

รวบพนักงานบัญชียักยอกเงินกว่าล้านบาท รพ.ค่ายสุรนารี

รวบพนักงานบัญชียักยอกเงินกว่าล้านบาท รพ.ค่ายสุรนารี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจโคราชจับกุมพนักงานการเงินและบัญชีของโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ฐานยักยอกเงินของโรงพยาบาล โดยใช้กลอุบายปลอมลายเซ็น ผอ. และนำบัตรประชาชนของคนอื่นไปเปิดบัญชีรอก่อนโอนเงินเข้า 1.6 ล้านบาท

พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อม พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมือง นครราชสีมา ร่วมสอบปากคำ น.ส.หนูเอื้อม ดิษฐ์เจริญ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ ซึ่งจับกุมได้พร้อมของกลางเงินสด 149,900 บาท หลังจากวานนี้ (26 ก.พ.) พ.ท.เกษม สุขประเสริฐ หัวห้านายทหารการเงิน โรงพยาบาลค่ายสุรนารี เข้าแจ้งความกับตำรวจ เนื่องจากตรวจพบความไม่ชอบมาพากลมีเงินถูกเบิกออกจากบัญชีธนาคาร จำนวน 1.6 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าเงินในบัญชีดังกล่าวถูกโอนไปบัญชีเข้าบัญชี น.ส.สุภาริณี โพธิ์นอก อายุ 23 ปี เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาจำนวน 1.6 ล้านบาท และถูกถอนออกไปเหลือยอดอยู่ 90 บาท ในวันที่ 26 ก.พ.

น.ส.หนูเอื้อม ให้การว่า เป็นพนักงานการเงินและบัญชีของโรงพยาบาล โดยขโมยเช็คธนาคารของบัญชีโรงพยาบาลจากห้อง พ.ท.เกษม แล้วนำไปปลอมลายเซ็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล จากนั้นนำไปเบิกเงินโดยวิธีโอนเงินเข้าบัญชี น.ส.สุภาริณี ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เก็บบัตรประจำตัวประชาชนของ น.ส. สุภาริณี ได้แล้วนำมาสวมรอยก่อนไปเปิดบัญชีธนาคารไว้เมื่อวันที่ 23 ก.พ. จำนวน 500 บาท พร้อมทำบัตรเอทีเอ็ม จากนั้นได้โอนเงิน 1.6 ล้านบาท เข้าบัญชีดังกล่าวและถอนออกด้วยบัตรเอทีเอ็ม นำเงินไปใช้จ่ายเกือบหมด เหลือแค่ 149,900 บาทเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่นขอให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อขยายผลเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน น.ส.สุภาริณี โพธิ์นอก พนักงานขายรองเท้า ซึ่งเป็นผู้เสียหาย กล่าวว่า เคยพบกับ น.ส.หนูเอื้อม 2 ครั้ง ขณะมาซื้อรองเท้าที่ร้าน โดยแต่งเครื่องแบบเข้ามา เมื่อรู้ว่าตนมีแฟนเป็นทหาร จึงบอกว่าทางกองทัพมีสวัสดิการให้กับครอบครัวทหารคนละ 1,000 บาท และขอบัตรประชาชนเพื่อนำไปดำเนินการ แต่หลังจากหายไป 2 วัน น.ส.หนูเอื้อม ไม่นำบัตรฯ มาคืน เมื่อโทรศัพท์สอบถามไปก็รับสายบ้างไม่รับสายบ้างพยายามพูดบ่ายเบี่ยง กระทั่งวันนี้มาทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า น.ส.หนูเอื้อมได้นำบัตรประชาชนของตนไปปลอมแปลงแล้วเปิดบัญชีกับธนาคาร และยักยอกเงินของโรงพยาบาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook