พนักงาน-นักเที่ยวกลางคืน เผยนาทีเฉียดตายเพลิงไหม้ ซานติก้า ผับ

พนักงาน-นักเที่ยวกลางคืน เผยนาทีเฉียดตายเพลิงไหม้ ซานติก้า ผับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นักเที่ยวกลางคืนและพนักงานประจำร้าน เล่าถึงนาทีชีวิตเหตุไฟไหม้ ซานติก้า ผับ เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 1 มกราคม มีผู้เสียชีวิต 59 รายและบาดเจ็บกว่า 200 คน น.ส.ชรินรัตน์ บัวหลวง อายุ 23 ปี(นักศึกษา)

เข้ามาตั้งแต่เวลา 23.00 น. มาเที่ยวกับเพื่อนรวม 3 คน นั่งอยู่ชั้นล่าง เมื่อถึงเที่ยงคืน มีการเคานท์ดาวน์โดยจุดพลุ และไฟเย็น วงดนตรีเล่นจบไป 2 เพลง เห็นไฟลุกไหม้ที่ฝ้าเพดานหน้าเวที คิดว่าเป็นไฟที่ทำสำหรับเปิดคอนเสิร์ต แต่หลังจากนั้นเป็นประกายไฟหล่นลงมาใกล้กับที่นั่ง จึงรีบวิ่งหนีทางประตูเล็กๆ ซึ่งเป็นทางไปสูบบุหรี่ และยังได้ยินเสียงนักเที่ยวตะโกนไล่ตามหลัง แตกตื่นหนีตาย วิ่งเบียดกันออกมาจนตนได้รับบาดเจ็บที่แขนและลำตัว ซึ่งไม่คิดว่าจะมีคนเสียชีวิตมากขนาดนี้ ต่อไปนี้ไม่กล้าไปเที่ยวผับอีกแล้ว กลัวผับไปเลย

น.ส.ณัษฐภัทร์ รัตนภิญโญพิทักษ์ อายุ 41 ปี

มากับเพื่อนและน้องรวม 3 คน เพิ่งมาครั้งแรก รู้ว่าร้านจะเปิดเป็นวันสุดท้ายแล้วปิด นั่งติดประตูทางออกด้านหน้า ขณะนั้นในผับมีนักเที่ยวจำนวนมากแต่ไม่แออัดมากนัก มีการดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน จนเวลาประมาณเที่ยงคืนมีการเคานท์ดาวน์ จุดพลุและไฟเย็น หลังจากนั้นมีวงดนตรีเล่นจบไปได้ 1 เพลง และจุดพลุเพื่อขึ้นต่อเพลงที่ 2 จังหวะนั้นเองมีไฟไหม้ที่ฝ้าเพดานผับหน้าเวที และลุกลามไป จึงรีบดึงมือน้องสาวและเพื่อนวิ่งหนีออกมาเป็นคนแรกๆ ในระหว่างที่วิ่งออกมาก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ไล่ตามหลังมา และมีควันไฟเข้าจมูก แต่หนีรอดออกมาได้ อยากให้ทางผับมีประตูทางออกเยอะๆ ให้มีความปลอดภัยมากกว่านี้

น.ส.เฉลิมพร บุญเพชร อายุ 26 ปี

เที่ยวที่ซานติก้าผับเป็นประจำ คืนที่เกิดเหตุเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อน 2 คน เวลาประมาณ 00.10 น. ได้ยินคล้ายเสียงพลุดังขึ้นบริเวณหน้าเวทีต่อมามีประกายไฟลามขึ้นมา ตอนแรกนึกว่าเป็นเอฟเฟคต์ของร้าน แต่เมื่อไฟลุกขึ้นและมีคนตะโกนว่าไฟไหม้ ฉันกับเพื่อนจึงรีบวิ่งลงมาจากบันไดที่ห่างจากทางออกประมาณ 7 เมตร แต่มีคนขวางล้มอยู่เป็นจำนวนมาก ก็พยายามเบียดจนออกมาได้ ซึ่งระหว่างนั้นไฟฟ้าภายในร้านดับลงทำให้ภายในมืดมากและควันไฟหนาทึบ และไฟฟ้าสำรองหรือสปริงเกลอร์น้ำดับเพลิงไม่ทำงาน แต่เพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันหายไปชื่อ น.ส.จันทร์เจ้า แสนสมบูรณ์ อายุ 27 ปี จึงมาดูที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีรายชื่อของเพื่อนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่เจอ

น.ส.ทิพรัตน์ อาจรอด อายุ 28 ปี

มาเที่ยวที่ผับดังกล่าวกับเพื่อน ประมาณ 5-6 คน เพื่อมาฉลองวันเกิดเพื่อน ขณะเกิดเหตุฉันและเพื่อนๆ อยู่บริเวณกลางลานของผับ เข้าไปเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้นก็เกิดไฟไหม้ ฉันและเพื่อนๆ จึงพยายามวิ่งเอาตัวรอด แต่คนจำนวนมากก็เบียดกันหาทางออกเพื่อหนาย ฉันนึกถึงหน้าแม่พยายามกัดฟันเบียดออกมา ถูกเหยียบแต่ลุกขึ้นมาต่อ โดยได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเข่าทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากถูกเศษกระจกบาด ฉันและเพื่ออีก 5 คน หนีออกมาได้แต่มีเพื่อนหายไป 1 คน

นายพงษ์ศิริ วงษ์เซ็ง อายุ 28 ปี

ขณะเกิดเหตุมีแขกที่ไปเที่ยวหลายร้อยคน ช่วงใกล้เคานท์ดาวน์ทางร้านได้แจกไฟเย็นให้แขกจุดประกอบ เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน ช่วงนั้นบนเวทีมีการแสดงดนตรี แต่ไม่ได้มีศิลปินดังขึ้นเวที มีดีเจดำเนินรายการ หลังจากเคานท์ดาวน์เสร็จประมาณ 10 นาที บนเวทีมีการจุดเอฟเฟคต์ประกอบการแสดงดนตรี ลักษณะคล้ายโอ่งไฟที่จุดเล่น ออกเป็นประกายไฟพวยพุ่งขึ้นไป ซึ่งจุดที่จุดอยู่ตรงกลางเวทีและสะเก็ดไปติดบนโดมที่คาดว่าน่าจะเป็นพลาสติค และลามเร็วมาก พอเห็นไฟลามก็ตะโกนว่าไฟไหม้ จากนั้นแขกก็อลหม่านวิ่งหนีเอาตัวรอดและทางร้านก็ไม่มีใครช่วย

ผมถูกเบียดและพลัดกับแฟนสาวที่ไปด้วย ชื่อ น.ส.เบญจรัตน์ อินทยากร อายุ 25 ปี ผมพยายามหนีเอาตัวรอด แต่แฟนติดอยู่ในผับประมาณ 40 นาที เจ้าหน้าที่จึงสามารถช่วยออกมาได้ มีแผลถูกเพลิงไหม้บริเวณหลังและถูกเหยียบ ตอนนี้เพิ่งรู้สึกตัวและยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท 3

น.ส.เกษราภรณ์ แจ้งนคร อายุ 31 ปี(พนักงานแคชเชียร์)

ขณะเกิดเหตุภายในร้านมีนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาร่วมงานเคานท์ดาวน์ และงานสั่งลาร้านซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายประมาณ 300 คน ฉันนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ ขณะนั้นมีดีเจเพชรจ้า และดีเจภูมิ แสดงอยู่บนเวที โดยจะมีโจอี้ บอย มาร่วมแสดงในเวลาประมาณ 01.00 น. แต่ยังไม่ได้เดินทางมาที่ร้าน ปรากฏว่ามีเสียงระเบิดขึ้นบริเวณด้านหน้าเวที แล้วพบเห็นประกายแสงเพลิงพวยพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับภายในอาคารมีการนำวัสดุโฟมมาประดับตกแต่งเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เพลิงจึงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวพยายามช่วยกันดับไฟก็ไม่สามารถสกัดเพลิงได้ จึงต่างวิ่งหนีกันอย่างอลหม่าน โดยคาดว่าดีเจเพชรจ้า และดีเจภูมิ น่าจะหนีออกทางประตูหลัง ซึ่งเป็นประตูที่ศิลปินเข้าออกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนฉันหนีออกมาได้อย่างเฉียดฉิว

นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือดีเจภูมิ(พิธีกรบนเวทีในร้าน)

ช่วงที่เกิดเหตุไฟไหม้เวลาประมาณ 00.05 น. ผมและดีเจเพชรจ้า (นายวิเชียร กุศลมโนมัย) ลงมาซ้อมคิวด้านหลังเวที เพื่อที่จะขึ้นไปอีกครั้ง แต่คาดว่าไฟที่ลุกไหม้นั้นอาจเกิดจากสะเก็ดพลุที่จุดอยู่นอกร้าน ตกลงมาใส่บนหลังคาหรือไม่ อีกสาเหตุหนึ่งก็อาจจะเป็นเอฟเฟคต์ของทางร้าน ที่มีการยิงเปเปอร์ชู้ตภายในร้าน ซึ่งมีแรงดันสูง อาจจะไปถูกไฟสปอตไลท์ที่ฟ้าเพดานแล้วเกิดเป็นประกายไฟก็ได้

ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่น่าจะเป็น คนที่อยู่บนชั้นสองของร้าน เพราะบันไดทางลงมาั้นล่างนั้นแคบมาก ทำให้คนติดข้างอยู่ข้างบนเป็นจำนวนมาก อีกอย่างทางออกด้านหน้าร้าน นอกประตูใหญ่แล้ว ก็มีประตูเล็กอีก 3 ประตู แต่ประตูออกได้ที่ละหนึ่งคนทำให้นักเที่ยวหนีออกมาค่อนข้างลำบาก และเชื่อว่าเพลิงไหม้ไม่น่าจะเกิดจากไฟเย็นที่นักเที่ยวจุดกันในร้าน เพราะไฟเย็นจุดเสร็จก็ยังไม่ได้เกิดเหตุไฟไหม้

นายวิเชียร กุศลมโนมัย หรือ ดีเจเพชรจ้า(พิธีกรบนเวทีในร้าน)

ช่วงที่เกิดเหตุมีวงดนตรี วงเบิร์น กำลังเล่นคอนเสิร์ตอยู่ และมีการยิงเอฟเฟคต์บนเวทีด้วย หลังจากนั้นก็เห็นประกายไฟติดบริเวณฉากด้านหลังเวที ก่อนที่นักดนตรีจะรีบเก็บกีตาร์แล้วตะโกนบอกว่า ไฟไหม้ มีควันดำเป็นจำนวนมาก ก่อนที่ไฟจะลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นนักดนตรีจะรีบวิ่งหนีออกทางหลังร้าน ผมและดีเจภูมิอยู่ด้านหลังร้านพอดีจึงหนีออกมาได้

นายสุทธิรักส์ คุ้มสม(เจ้าหน้าที่กู้ชีพร่วมกตัญญู)

เวลาประมาณ 00.10 น. ได้รับแจ้งเหตุว่าเกิดเพลิงไหม้ที่ซานติก้า ผับ ผมพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงเวลา 00.30 น. พบกลุ่มควันไฟออกมาจากบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าหน้าร้าน ขณะนั้นคนที่อยู่ภายในได้เบียดเสียดออกมาจากนอกร้านซึ่งทางออกมีเพียงทางเดียว เมื่อผมกับเจ้าหน้าที่เข้าไปที่บริเวณด้านใน พบเห็นคนนอนร้องขอความช่วยเหลือ

แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ เนื่องจากมีกลุ่ม ควันหนาแน่น และมีคนตายอยู่บริเวณด้านหน้าอยู่เป็นจำนวนมากทุกคนพยามยามดิ้นรนเอาตัวรอด บางคนก็หนีออกมาได้และมาล้มลงด้านหน้า บางคนวิ่งออกมาโดยไม่มีเสื้อผ้าเพราะไฟไหม้หมด เหลือแต่ผิวหนัง บางคนตัวออกมาได้แต่ก็เป็นห่วงเพื่อนอยู่ร้องไห้เสียงดังระงม และช่วงนั้นมีรถดับเพลงมาแค่ 2-3 คัน ทำให้ดับไม่ทัน ต้องรอให้รถดับเพลิงมาก่อนเพื่อทำการสลายกลุ่มควันที่มีอยู่หนาแน่น และทางเข้าบริเวณด้านหน้าเป็นทางเข้าทางแคบ ยากแก่การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook