ลูกตาล อาริษา-โจอี้ หวิดดับ!! ยธ.ตั้งกก.สอบเหตุไฟไหม้ซานติก้า

ลูกตาล อาริษา-โจอี้ หวิดดับ!! ยธ.ตั้งกก.สอบเหตุไฟไหม้ซานติก้า

ลูกตาล อาริษา-โจอี้ หวิดดับ!! ยธ.ตั้งกก.สอบเหตุไฟไหม้ซานติก้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
รมว.ยธ.ตั้ง กก.สอบเหตุไฟไหม้ซานติก้า ผับดังย่านเอกมัย เผาทั้งเป็น 58 ชีวิต เจ็บอีกกว่าร้อย 2 ดีเจดังเผยวินาทีเฉียดตาย เชื่อสาเหตุไม่ได้เกิดจากไฟเย็น ลูกตาล อาริษา วิลล์ ช็อกหวิดดับ โชคดีออกไปฉลองปีใหม่กับแม่ก่อนไฟลุก โจอี้ บอย รอดด้วยมีคิวขึ้นแสดงตอนตีสอง อภิสิทธิ์ สั่งกวดขันนำพลุและดอกไม้ไฟเข้าไปจุด กลายเป็นโศกนาฏกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่น่าเศร้าสลดอย่างยิ่ง หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงชื่อ ซานติก้าผับ เอกมัยซอย 9 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ในช่วงเคานท์ดาวน์เพื่อก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ โดยมีการจุดพลุเอฟเฟกท์ที่ด้านหน้าเวที เป็นตัวอักษร HAPPY NEW YEAR แต่พลุเกิดระเบิดรุนแรงจนลุกลามไปติดฝ้าเพดานที่หุ้มด้วยฟองน้ำเก็บเสียง ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวที่อยู่ภายในต้องวิ่งหนีหาทางออกอย่างทุลักทุเล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากไฟคลอกและขาดออกซิเจนถึง 58 ราย ทราบชื่อแล้ว 28 ราย ไม่ทราบชื่อ 30 ราย ผู้บาดเจ็บ 129 ราย หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นอาคารเดี่ยว 3 ชั้น เพลิงได้ลุกไหม้ท่วมอาคารอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างเร่งช่วยเหลือนักเที่ยวที่ประตูทางออกด้านหน้า แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากประตูแคบ ดึงออกมาได้เพียงครั้งละคนเท่านั้น ขณะที่นักเที่ยวที่อยู่ภายในผับต่างก็วิ่งมาออกมาออกันจนแน่นที่หน้าประตูทางออกพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือจนชุลมุน ขณะเดียวกันไฟที่ลุกไหม้ภายในผับก็โหมขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทำให้นักเที่ยวที่ยังหนีออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่กำลังให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม นักเที่ยวที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิออกมาทางหน้าต่างแต่ก็ถูกไฟไหม้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ถูกนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ได้แก่ รพ.กรุงเทพ รพ.กล้วยน้ำไท 2 รพ.รามคำแหง รพ.วิภาราม และ รพ.คามิลเลียน เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ระดมฉีดน้ำสกัดจนควบคุมเพลิงไว้ได้ เมื่อเข้าตรวจสอบภายในพบมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากลักษณะนอนทับกันอยู่ จึงลำเลียงออกมาได้จำนวน 54 ศพ จากนั้นได้นำส่งนิติเวช รพ.จุฬาฯ นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 4 ราย โดยจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักเที่ยวต่างชาติอยู่ด้วย ทั้งนี้ สถานบันเทิงดังกล่าวได้จัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และจัดงานอำลาผับ ในชื่อ กู๊ดบาย ซานติก้า ปาร์ตี้ เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะหมดสัญญาเช่าในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ซึ่งนักเที่ยวจะได้รับซีดีบันทึกภาพสรุปคอนเสิร์ตครั้งที่ผ่านๆ มาเป็นของที่ระลึก โดยก่อนเกิดเหตุ มีภาพของนักเที่ยวในซานติก้าผับถือไฟเย็นเพื่อร่วมนับถอยหลังเข้าสู่วันใหม่กันอย่างสนุกสนานด้วย ขณะที่ นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือ ดีเจภูมิ และนายวิเชียร กุศลมโนมัย หรือ ดีเจเพชรจ้า ซึ่งทำหน้าที่พิธีกร เพิ่งลงจากเวทีไป และโจอี้ บอย นักร้องชื่อดังจะมาแสดงในคิวถัดไป แต่ยังมาไม่ถึงร้านก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นก่อน เผยวินาทีดีเจดังรอดตายหวุดหวิด ดีเจภูมิ เล่าถึงวินาทีเฉียดตายหลังจากที่ทำหน้าที่พิธีกรบนเวทีพร้อมกับดีเจเพชรจ้าว่า หลังจากการนับถอยหลังเคานท์ดาวน์บนเวทีเสร็จ ตนและเพชรจ้าได้ลงจากเวทีและไปอยู่ในห้องส่วนสำนักงาน จากนั้นสักพักได้ยินเสียงคนตะโกนว่าไฟไหม้และได้ยินเสียงคนสั่งให้เอาที่ดับเพลิงไปฉีด "ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นอะไรเยอะ แต่พอเดินออกจากห้องในส่วนสำนักงานแค่ 30 วินาทีเท่านั้น ก็เห็นควันเยอะมาก ชนิดที่ยื่นมือออกไปไม่สามารถเห็นแขนตัวเองได้ ยังดีที่ดีเจเพชรจ้าบอกให้ผมรีบขึ้นรถของเขาเพื่อจะได้ออกมา ซึ่งตอนที่ผมขึ้นรถเพชรไปกับแฟนผมนั้นก็ไม่คิดหรอกว่าจะไหม้เยอะ พอขับรถผ่านซานติก้าไปเห็นไฟลุกท่วมเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จากนั้นเมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดีก็เป็นห่วงรถตัวเองที่จอดไว้ที่ลานจอดรถ จึงลงไปเอารถดีกว่า เนื่องจากกลัวรถจะระเบิดเพราะเป็นรถติดแก๊สอยู่ด้วย ตอนนั้นทุกอย่างชุลมุนวุ่นวายมาก มีคนร้องไห้เต็มไปหมด ถือว่าโชคดีที่ออกมาทัน" ดีเจภูมิ กล่าว ดีเจภูมิ กล่าวว่า สันนิษฐานว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเกิดจากการยิงเปเปอร์ ชู้ต แล้วกระดาษก็ไปติดตามสปอตไลท์ ทำให้ไฟค่อยๆ ติดโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเพราะสปอตไลท์อยู่สูง อีกสาเหตุหนึ่งคิดว่ามาจากมือกลองจุดพลุ ซึ่งหลังจากผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้มาได้ตนและเพชรกำลังจะไปทำบุญกันในวันปีใหม่ปีนี้ที่เฉียดตายมาได้ ดีเจภูมิยังเล่าว่า น.ส.อาริษา วิลล์ หรือ ลูกตาล กับ นายพีรวัชร์ เหราบัตย์ หรือ เอเอ ได้ไปที่ผับซานติก้าด้วยเหมือนกัน แต่ทั้งคู่กลับออกไปก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น เชื่อสาเหตุไม่ได้เกิดจากไฟเย็น ขณะที่ ดีเจเพชรจ้า ตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่ตัวเองออกมานอกพื้นที่แล้ว เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าขณะวงเบิร์นกำลังเล่นดนตรีอยู่นั้น ฉากหลังของวงซึ่งเขียนไว้ว่า Burn ซึ่งแปลว่า ไหม้ ก็เห็นไฟลุกไหม้ขึ้นจริงๆ แต่นักเที่ยวคิดว่าเป็นไฟจากเอฟเฟกท์ อย่างไรก็ตามจังหวะเดียวนั้นเห็นมือคีย์บอร์ดของวงดนตรี ที่เล่นบนเวทีช่วงนั้นวิ่งอุ้มคีย์บอร์ดออกมาเพื่อไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านหลัง แต่ก็ยังไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้น "สาเหตุของไฟไหม้ครั้งนี้ผมคิดว่าเอฟเฟกท์ไม่น่ามีผลร้ายแรงขนาดนั้น น่าจะมีสาเหตุมาจากอย่างอื่นมากกว่า และที่มีข่าวออกมาว่ามีการแจกไฟเย็นให้แก่ลูกค้านั้น ทางร้านได้แจกให้จริง แต่เราก็ได้ประกาศให้ออกไปจุดข้างนอกร้าน แต่ก็มีลูกค้าบางคนเท่านั้นที่จุดในร้าน ซึ่งก็ไม่น่าใช่สาเหตุที่ทำให้ไฟไหม้ได้มากขนาดนี้" ดีเจเพชรจ้ากล่าว ด้าน นายอภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต หรือ โจอี้ บอย นักร้องชื่อดังที่มีคิวแสดงคอนเสิร์ตในร้านซานติก้า ในช่วงเวลา 02.00 น. กล่าวว่า หลังจบการแสดงคอนเสิร์ตที่งานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างที่ตนนั่งรถเดินทางไปที่ผับซานติก้า ได้รับโทรศัพท์จากนายนที เอกวิจิตร์ หรือ อุ๋ย หนึ่งในสมาชิกวงบุดดาเบลส ซึ่งเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวตรงข้ามกับผับดังกล่าว แจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้ "พอผมทราบเรื่องตอนช่วงตีหนึ่ง รู้สึกอย่างเดียวคือตกใจมาก เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคนที่ไปอยู่ที่ซานติก้าในวันนั้น พวกเขาก็อยากไปสนุกสนานกัน แล้วอีกส่วนหนึ่งก็คงเป็นแฟนเพลงผม ดังนั้นพอรู้เรื่องพวกผมก็ตีรถไปทำบุญที่วัดหัวลำโพงตอน 03.00 น.ทันที ก่อนหน้านี้แผนเดิมผมและสมาชิกในรถตั้งใจว่าเสร็จงานแล้วแต่ละคนก็จะไปฉลองกัน ส่วนผมก็จะตีรถขึ้นเชียงใหม่ พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นก็เปลี่ยนแผนทันที" โจอี้ บอย กล่าว ด้านผู้จัดการส่วนตัว น.ส.อาริษา วิลล์ หรือ ลูกตาล กล่าวว่า ขณะนี้ลูกตาลยังรู้สึกช็อกกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะเป็นอะไรที่หวุดหวิดมากจริงๆ โดยในคืนดังกล่าว นักแสดงสาวไปที่ซานติก้าผับเนื่องจากพาเพื่อนชายคนสนิท นายพีรวัชร์ เหราบัตย์ ไปหาดีเจภูมิ ก่อนที่จะรีบออกมาเพื่อกลับบ้านไปฉลองปีใหม่ที่บ้านกับคุณแม่ ขณะที่นายพงษ์ศิริ วงษ์เต็ง หนึ่งในนักเที่ยวที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้นำคลิปโทรศัพท์มือถือความยาว 1 นาที ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ก่อนเกิดเพลิงไหม้ไม่ถึง 10 นาที มาโชว์ต่อสื่อมวลชน ซึ่งเป็นภาพนักเที่ยวกำลังโบกดอกไม้ไฟที่ผับแจกให้อย่างสนุกสนาน จากนั้นทางผับยังสร้างความตื่นเต้นด้วยการปล่อยเอฟเฟกท์ที่เป็นประกายไฟจากพื้นเวทีคอนเสิร์ต ในช่วงนับถอยหลังปีใหม่ จึงคาดว่าลูกไฟที่ออกจากเอฟเฟกท์ไปถูกโดมบนเพดาน ประกอบกับมีช่องระบายอากาศอยู่ใกล้ ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็ว พร้อมยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีพนักงานมาช่วยแนะนำทางออกและไม่มีอุปกรณ์ดับเพลิง เผยสปริงเกลอร์8ตัวไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของซานติก้าผับรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีแขกอยู่ในร้านประมาณ 1,000 คน ตนกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ในห้องทางด้านขวาของผับ จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปที่บริเวณชั้น 2 ระหว่างที่ยืนอยู่ด้านบนก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ตามด้วยประกายไฟลุกติดที่แผ่นฟอยล์บนหลังคาเหนือเวที เพียงประมาณ 10 วินาที แสงเพลิงก็ลุกลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงกรีดร้องของแขก และเสียงโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด ช่วงนั้นไฟฟ้าดับสนิท ไฟฉุกเฉิน และสปริงเกลอร์ 8 ตัว ที่ติดอยู่ในร้านก็ไม่ทำงาน ทั้งๆ ที่เวลาถึงกำหนดเช็กตามรอบปี อุปกรณ์เหล่านี้จะทำงานอยู่เสมอ เจ้าหน้าที่ รปภ.รายนี้ กล่าวอีกว่า ช่วงนั้นควันไฟเริ่มกระจายไปทั่วร้านแล้ว แขกที่มาเที่ยวต่างก็เหยียบและดึงรั้งกันเพื่อหาทางออกหนีตาย แม้ตนจะพยายามหยิบไฟฉายขึ้นมาส่อง แต่ก็ไม่เห็นอะไรมีแต่ควันไฟเต็มไปหมด จนกระทั่งมีน้องผู้หญิงที่เป็นแคชเชียร์อยู่บนชั้น 2 ถูกผลักกลิ้งตกลงมาทับร่างตน ซึ่งกำลังตะเกียกตะกายลงมาที่ทางขึ้นบันได น้องแคชเชียร์พยายามจับมือตนไว้ และขอร้องให้ช่วย แต่ตนไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร เพราะสถานการณ์มันวุ่นวายไปหมด สักพักเสียงของน้องแคชเชียร์ก็เงียบไป กระทั่งมีคนตัดสินใจทุบกระจกหน้าร้าน จึงคลานต่ำตามแสงไฟหนีตายออกมาได้ จากนั้นก็หมดสติไป มาฟื้นอีกครั้งก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ผับแห่งนี้เปิดให้บริการมาได้ 6 ปีแล้ว วันนี้จะเป็นวันปิดกิจการ เพราะมีปัญหาเจ้าของที่ไม่ยอมให้ต่อสัญญา ทางร้านจึงจัดแคมเปญพิเศษให้มีคอนเสิร์ตโจอี้ บอย และเชิญดีเจดังๆ มาเปิดแผ่น เพื่อเป็นการฉลองเทศกาลปีใหม่ และสั่งลาลูกค้าในวันสุดท้าย โดยช่วงเที่ยงคืนก่อนเข้าสู่วันที่ 1 มกราคม 2552 ทางร้านมีการจุดพลุฉลองด้วย แต่ก็ไม่มีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้น จนกระทั่ง 30 นาทีต่อมา คาดว่าจะมีลูกค้าบางรายที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าเวทีเกิดอุตรินำพลุมาจุดในร้านจนเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่รปภ.กล่าว ตร.เตรียมแจ้งข้อหาหนัก พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 กล่าวว่า คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เบื้องต้นเท่าที่สอบปากคำพยานบางรายที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าไฟได้ลุกไหม้บริเวณโดมที่แขวนอยู่ติดเพดานก่อนที่จะตกลงมาบริเวณเวที แต่ยังสันนิษฐานไม่ได้ว่าเกิดจากเอฟเฟกท์ที่ประกอบการแสดงหรืออุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งในส่วนนี้กองพิสูจน์หลักฐานที่ชำนาญกำลังตรวจอยู่ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหากับผู้ใด และยังไม่สามารถติดต่อ นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ เจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ได้ ส่วนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการสำลักควัน ไฟคลอกและเหยียบกันเสียชีวิต ซึ่งจะส่งศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดส่งนิติเวช รพ.จุฬาฯ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป ด้าน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทยอยสอบปากคำพยานไปแล้ว ซึ่งมีประมาณ 100 ปาก ส่วนใหญ่ยังรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ 17 แห่ง จากการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์หลายปากทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทางร้านแจกไฟเย็นให้ลูกค้าที่เข้าไปในเที่ยวภายในร้าน ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ทราบว่าเพลิงไหม้เกิดจากอุปกรณ์ที่ทางร้านทำขึ้นมาหรือเกิดจากไฟเย็นที่ทางร้านแจกให้ลูกค้าที่เข้ามาเที่ยว หากไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากทางร้านเป็นคนทำ พนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อหากับทางร้านในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้มีผู้ถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส มีโทษจำคุกถึง 10 ปี ปรับเป็นเงินจำนวน 1 แสนบาท ส่วนจะแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมด้วยหรือไม่ ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเข้าข่ายข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญอีกที คาด 1 สัปดาห์สรุปสาเหตุได้ เวลา 05.30 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งเดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ กล่าวว่า การตรวจสอบว่าผับดังกล่าวมีสัญญาณเตือนไฟหรือไม่เป็นหน้าที่ของ กทม.ที่จะเข้าไปตรวจสอบ เท่าที่ทราบจากการพบปลัด กทม.ทราบว่า ผับแห่งนี้มีการก่อสร้างที่ถูกต้อง ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้เบื้องต้นทราบว่ามีคนเห็นไฟไหม้จากเพดานตกลงมาและกระจายไปอย่างรวดเร็ว เพราะมีวัสดุที่ติดไฟง่าย ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ในการป้องกันเสียงสะท้อน แต่ก็เป็นเชื้อไฟอย่างดี ส่วนสาเหตุให้ พฐ.ตรวจสอบอย่างละเอียด คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะสรุปผลได้ "จะทำการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด รวมถึงผู้ที่อยู่บนเวที ทั้งนักดนตรี นักร้อง และมือกลอง ซึ่งมีคนให้การว่าผู้ที่อยู่บนเวทีเป็นคนจุดพลุจนทำให้เกิดไฟไหม้ แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกทั้งว่าเกิดจากสาเหตุใดแน่ และเกิดจากความประมาทหรือไม่" พล.ต.อ.จงรัก กล่าว พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ที่จอดอยู่ที่ผับดังกล่าวจำนวน 27 คัน คาดว่าอาจจะเป็นของผู้ที่เสียชีวิต จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ตรวจสอบยี่ห้อ ทะเบียน เพื่อให้ญาติมาติดต่อที่ สน.ทองหล่อ หรือญาติใครหาย ก็ให้นำรูปถ่ายรูปพรรณมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ สน.ทองหล่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหน้าซานติก้าผับ นอกจากจะมีรถของผู้ที่มาใช้บริการจอดอยู่ที่ลานจอดกว่า 20 คันแล้ว ในส่วนของอาคารได้รับความเสียหายทั้งหมด เหลือเพียงโครงสร้างเท่านั้น แต่ก็มีรอยแตกร้าวอย่างเห็นได้ชัด โดยมีประชาชน และญาติของผู้ที่คาดว่ามาเที่ยวและติดต่อไม่ได้ ต่างเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ และไปติดต่อที่ สน.ทองหล่อ เผยประตูทางออกเล็กและแคบ พล.ต.อ.จงรัก กล่าวถึงการดำเนินคดีว่า ยังไม่ได้เรียกเจ้าของร้านและผู้ประกอบการมาสอบปากคำ เนื่องจากมีบางส่วนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งพยานต่างๆ ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ซึ่งต้องรอตามขั้นตอน แต่หากพบว่าเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากความประมาทของทางร้านที่นำพลุไปจุดภายในแล้วทำให้เกิดเพลิงไหม้ ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบ และหากพบว่านักท่องเที่ยวเป็นคนนำพลุเข้าไปจุดภายในสถานบันเทิงจนเกิดเพลิงไหม้ ก็ต้องดำเนินคดีกับผู้นั้น รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ร่วม 1,000 คน และประตูทางออกเล็ก ทำให้ทุกคนต่างวิ่งกรูมาออกที่ประตูจุดเดียว และเกิดการขาดอากาศหายใจ จนหมดสติ ทำให้ไฟคลอกเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าประตูทางเข้าออกสถานบันเทิงดังกล่าวมีขนาดเล็ก และมีจุดเดียวที่ลูกค้ารู้จักทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น นายกฯสั่งกวดขันนำพลุเข้าสถานบันเทิง ช่วงเช้าวันที่ 1 มกราคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยัง รพ.คามิลเลียน เพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ที่ห้องพักหมายเลข 406 และ 415 โดยนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาที่ รพ.คามิลเลียน มีทั้งสิ้น 33 คน แต่กลับบ้าน และย้ายออกไปบ้างแล้ว คงเหลือเพียง 10 คน ที่รอรับการรักษาอยู่ นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการป้องกันเกี่ยวกับสถานประกอบการหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ว่า เท่าที่ตรวจสอบดูปัญหาคือ มีการนำดอกไม้ไฟและพลุเข้าไปเล่นกันข้างใน ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น ส่วนการช่วยเหลือ กรุงเทพมหานครได้ตั้งศูนย์ประสานงานอยู่ที่สำนักงานเขตวัฒนา และในกรณีที่มีความจำเป็นจะให้ผู้บาดเจ็บกลับบ้าน ก็จะมีรถคอยรับส่งให้ "ปัญหามีอยู่ว่าทำไมถึงปล่อยให้มีการนำพลุและดอกไม้ไฟเข้าไปด้านใน ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องเข้มงวดกวดขัน เท่าที่ทราบการเข้าไปดับไฟและควบคุมเพลิงก็ทำได้รวดเร็วพอสมควร" นายกรัฐมนตรี กล่าว ผบ.ตร.ยันไม่น่าเป็นการวางเพลิง จากนั้นเวลา 08.25น. นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุที่ซานติก้าผับ โดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.รายงานความคืบหน้า พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรีตอนหนึ่งว่า ในแง่ของตัวอาคารและทางออกไม่มีปัญหา เรื่องการดับไฟก็ทำได้รวดเร็ว แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบภายในอาคารของซานติก้าผับ ด้านในมีเชื้อไฟ ซึ่งเป็นโฟมที่เป็นวัสดุติดไฟได้ง่าย และเท่าที่ดูสภาพศพเบื้องต้น ส่วนหนึ่งมากองอยู่ที่ประตูทางออก อีกส่วนหนึ่งประมาณ 5-6 ศพ มีลักษณะไหม้ดำเป็นตอตะโก ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นใคร ลักษณะไฟน่าจะคลอกลงมาจากด้านบน ส่วนศพที่เหลือมีลักษณะของการสำลักควันและถูกไฟคลอก พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานแล้ว แต่สาเหตุยังไม่แน่ชัด ต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนประเด็นการลอบวางเพลิง เพราะมีข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนเจ้าของในวันขึ้นปีใหม่นั้นไม่น่าจะใช่ เพราะคงไม่มีใครคิดร้าย ที่จะทำให้มีคนเสียชีวิตได้มากขนาดนี้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ตำรวจจะดูในเรื่องของคดี ว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีในส่วนใดได้หรือไม่ และจะต้องเร่งดำเนินการในการพิสูจน์เอกลักษณ์ส่วนบุคคลของผู้เสียชีวิต เพราะบางคนไม่มีเอกสารหลักฐานในตัว ส่วนการดูแลสถานบันเทิงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น ตำรวจมีหน้าที่ดูเรื่องใบอนุญาตเท่านั้น ตัวอาคารเป็นหน้าที่ของกทม. พ.ต.อ.นิธิ บรรฑุวงศ์ ผกก.กลุ่มงานพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล และการส่งกลับ สำนักนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ซึ่งมาตั้งศูนย์ตรวจพิสูจน์ที่ สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาตรวจพิสูจน์ผู้เสียชีวิตที่พบ โดยจะมีการดูรายละเอียดเบื้องต้น 3 อย่าง คือ ดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และข้อมูลทางทันตกรรม นอกจากนี้ดูรายละเอียดรูปพรรณ เช่น รอยสัก บาดแผลต่างๆ รวมถึงเครื่องประดับที่ใส่ ศพที่ต้องทำการพิสูจน์ เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นใคร รมว.ยธ.สั่งตั้งกก.ตรวจสอบ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ได้มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า จะเข้าไปดูแลเรื่องของกฎหมายต่างๆ ทั้งเรื่องใบอนุญาตให้เปิดสถานประกอบการและอื่นๆ หากพบว่าไม่ได้มาตรฐาน เจ้าหน้าที่ที่ออกใบอนุญาตต้องรับผิดชอบด้วย และหากออกใบอนุญาตแล้วเคยกลับมาตรวจสอบหรือไม่ว่ามีการดัดแปลงหรือไม่ หากพบว่ามีการละเลยจะมีความผิดทั้งทางอาญาและละเมิดทั้ง 2 เรื่อง ซึ่งถือว่าผิดทั้งเจ้าของและเจ้าหน้าที่ หากมีการละเมิดผู้เสียหายสามารถเรียกค่าเสียหายได้ ส่วนชาวต่างชาติจะติดต่อกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือต่อไป "วันที่ 5 มกราคมนี้ จะมอบหมายให้นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อความสบายใจของบรรดาญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นอกจากนี้จะนำข้อมูลที่ได้ในวันนี้ไปตรวจสอบการก่อสร้าง หรือการขออนุญาตใช้อาคารด้วยว่าได้ทำตามกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นรู้สึกแปลกใจที่เห็นว่าสถานบันเทิงขนาดใหญ่ แต่กลับมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว ขณะที่หน้าต่างก็มีเหล็กดัดด้วย" รมว.ยุติธรรมกล่าว นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่าจากการคุยกับนางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเช่นกัน พบว่าจากนี้ไปจะต้องมีการไปตรวจสอบกฎหมายประกันอัคคีภัย ให้มีหน้าที่ตรวจสอบร่วมกับภาครัฐด้วย ว่าอาคารที่จะทำประกันมีการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และรายงานให้ภาครัฐทราบ ไม่ใช่แค่ขายประกันเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคิดเป็นวงจร ทั้งระบบ ซึ่งจากนี้ไปต้องทำงานเชิงรุก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก ขณะที่ นางจันทรา กล่าวว่า กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับว่า อาคารที่เกิดเหตุดังกล่าวทำประกันภัยไว้กับ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) และมีการตรวจเช็กข้อมูลกับผู้บริหารของบริษัท แอกซ่าประกันภัยแล้ว โดยผู้บริหารแอกซ่าประกันภัยยืนยันว่า อาคารดังกล่าวไม่ได้ทำประกันภัยกับบริษัทแต่อย่างใด ดังนั้น คปภ.จะเร่งตรวจสอบข้อมูลกับเจ้าของอาคารดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งว่าทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัยรายใด และมีวงเงินคุ้มครองจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหนต่อไป ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงเหตุอัคคีภัยในสถานบริการซานติก้า ผับ ว่า ในการประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน มีการรายงานสถานการณ์ดังกล่าวต่อที่ประชุม และในช่วงเช้าวันที่ 1 มกราคม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ก็ได้โทรศัพท์มาสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งเรื่องนี้กรุงเทพมหานครและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการต่อไป เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะประสาน กทม.ว่าต้องการการสนับสนุนอย่างไรที่เกี่ยวกับภารกิจของ ปภ.ซึ่งเรื่องนี้กระทบต่อประชาชนจำนวนมาก และหลายฝ่ายก็ต้องมานั่งพิจารณาว่า อุบัติเหตุร้ายแรงเพราะเหตุใด ทั้งจำนวนคนที่มากเกินขีดความสามารถของสถานบริการหรือไม่ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ นายอนุชาประกาศให้พื้นที่ซานติก้า ผับเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง โดยด่วนต่อไป นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมาตรวจสถานที่เกิดเหตุ กล่าวว่า จะเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติสถานบริการ เพื่อให้มีการจำกัดนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะหนาแน่น และเป็นปัญหาหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ชี้สถานบันเทิงส่วนใหญ่ใช้วัสดุติดไฟง่าย แหล่งข่าวจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.กล่าวว่า จากการตรวจสภาพโครงสร้างซานติก้าผับ เบื้องต้นพบว่ามีปัญหาเรื่องกายภาพ เนื่องจากทางเข้าด้านหน้ามีผนังปูน และหน้าต่างลูกกรงอยู่ทางขวามือ ทำให้นักท่องเที่ยวต้องเดินอ้อมเข้าออก นอกจากนี้วัสดุกันเสียงที่ใช้ก็เป็นวัสดุที่ติดไฟง่าย มีลักษณะเป็นโฟม ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว สถานบันเทิงที่สร้างขึ้นใหม่ในช่วงนี้ล้วนใช้วัสดุแบบเดียวกันนี้ทั้งสิ้น เนื่องจากมีต้นทุนน้อย ส่วนสถานบันเทิงที่เกิดขึ้นมานานแล้วจะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะใช้ผนังยิปซัม หรือใยสังเคราะห์ เป็นต้น ซึ่งสถานบันเทิงต่างๆ ควรเลิกใช้วัสดุที่ติดไฟง่าย ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมากกว่าคิดถึงกำไรเป็นสำคัญ แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สถานบันเทิงในพื้นที่ กทม.ที่มีคนเข้าไปมากกว่า 200 คน และมีวงดนตรีแสดง ทั้งผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด คาดว่าจะมีประมาณ 4,000-5,000 แห่ง ซึ่งตำรวจเป็นผู้ออกใบอนุญาตสถานบริการ แต่ที่ผ่านมาข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบพบว่ามีสถานบันเทิงกว่าครึ่งที่เป็นสถานบันเทิงเถื่อนไม่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เมื่อ กทม.เข้าไปตรวจ หากพบว่าไม่ปลอดภัยก็ไม่สามารถสั่งปิดได้ อีกทั้งยังสามารถเปิดบริการได้โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ดังนั้นควรมีการทบทวนให้ท้องถิ่นเป็นผู้ออกใบอนุญาตแทน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าสถานบริการที่ไม่มีความปลอดภัยส่วนใหญ่อยู่ในย่านถนนข้าวสาร ซอยพัฒนพงษ์ ถนนสีลม ดังนั้นสิ่งสำคัญอยากย้ำเตือนไปยังนักเที่ยว และอยากปลุกสังคมให้ตื่นตัวว่า อย่าเที่ยวในสถานบันเทิงที่ไม่ปลอดภัย กทม.ตั้งศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อซานติก้าผับ ต่อมา เวลา 08.30 น. นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องประชุมซักซ้อมการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ ได้แก่ นางวรรณวิไล พรมลักขโณ นายไกรจักร แก้วนิล รองปลัด กทม. สำนักงานเขตวัฒนา สำนักเทศกิจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการโยธา สำนักผังเมือง สำนักการแพทย์ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กองการต่างประเทศ ปลัด กทม.กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักป้องกันฯ สำนักผังเมือง สำนักเทศกิจ สำนักการโยธา และสำนักงานเขตวัฒนา ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยให้รายงานกลับมาให้ทราบภายใน 3 วัน ขณะเดียวกันให้ตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ที่สำนักงานเขตวัฒนา มีนางวรรณวิไล พรมลักขโณ เป็นผู้ดูแล และอีกจุดหนึ่งคือศูนย์ประสานงานส่วนหน้า ที่บริเวณหน้าซานติก้า ผับ มีเจ้าหน้าที่จากกองการต่างประเทศที่สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศได้ คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ด้วย ส่วนการติดตามข้อมูลผู้สูญหาย เป็นความรับผิดชอบของ สน.ทองหล่อ ปลัด กทม.กล่าวต่อว่า เรื่องโครงสร้างซานติก้า ผับต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปผลการตรวจสอบออกมา แต่ในส่วนของ กทม.จะต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ว่าโครงสร้างเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีการต่อเติมผิดแบบหรือไม่ เนื่องจากประตูทางเข้าออกผับดังกล่าวมีมากกว่า 1 ประตู มีทั้งสิ้น 4 ประตู ด้านหน้า 3 ประตู และด้านหลัง 1 ประตู แต่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เสียชีวิตตรงประตูหน้ามากที่สุด ซึ่งคงต้องตรวจสอบว่าเป็นเพราะประชาชนไม่ทราบว่ามีทางออกอื่นอีก หรือทางเจ้าของผับล็อกประตูทางออกอื่น สั่งเขตวัฒนาตรวจเข้มป้องกันเหตุซ้ำรอย นายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กล่าวว่า ได้รับคำสั่งการจากปลัด กทม.ให้เขต และฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกตรวจสถานบริการ เพื่อป้องกันเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยไฟไหม้ที่ซานติก้า ผับอีก ขณะเดียวกันทางเขตจะให้คำแนะนำแก่สถานประกอบการต่างๆ ตรวจสอบความปลอดภัยในสถานประกอบการของตัวเอง โดยเฉพาะการเข้มงวดเรื่องการนำพลุ ดอกไม้ไฟ เข้าไปในสถานบริการ และนำวัสดุที่ติดไฟง่ายมาใช้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจจะต้องกลับมาหารือกันอีกครั้งเกี่ยวกับการนำวัสดุติดไฟง่ายมาใช้บุผนังและหลังคาเพื่อกันเสียง แม้ว่ากฎหมายไม่ได้ระบุว่าห้ามใช้วัสดุชนิดนี้ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรนำมาใช้ นายวรพจน์กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้เขตวัฒนา สำนักการโยธา และสำนักป้องกันฯ ได้ออกตรวจสอบโครงสร้าง รวมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานบันเทิงต่างๆ ตามนโยบายของ กทม. การตรวจสอบทั้งโครงสร้าง สุขอนามัย และสารเสพติด พบว่าสถานบันเทิงดังกล่าวไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย แต่เรื่องการใช้วัสดุติดไฟง่ายในสถานบันเทิงคงต้องมาดูรายละเอียดกันอีกครั้ง นักเที่ยวญี่ปุ่นอาการโคม่า รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาฯ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย รศ.นพ.รัฐพลี ภาคอรรถ ผู้ช่วย ผอ.ด้านผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลจุฬาฯ ผศ.พญ.นันทนา ศิริทรัพย์ อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมกันแถลงข่าวอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ รศ.นพ.อดิศร กล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาฯ รับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ซานติก้า ผับมารักษารวมทั้งสิ้น 13 คน เป็นชาย 5 คน และหญิง 8 คน ในจำนวนนี้กลับบ้านได้แล้ว 1 คน โดยมี 5 คน ที่อาการหนัก ร่างกายถูกความร้อนมากกว่า 40% ของร่างกาย และในจำนวนนี้อาการหนักที่สุดต้องเข้ารับการรักษาที่ห้องไอซียูศัลยกรรม 2 คน คือ นายไคอิชิ วาดะ ชาวญี่ปุ่น และนายสุทธิลักษณ์ สำเร็จประสงค์ รศ.นพ.รัฐพลีกล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาฯ รับผู้ป่วยรายแรกเป็นชาวญี่ปุ่นเข้ามารักษา เวลากว่า 02.00 น. วันที่ 1 มกราคม อาการหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียู ร่างกายมีบาดแผลไฟไหม้ 50-60% ของร่างกาย ปอด ไต และทางเดินหายใจมีปัญหา มีแผลฟกช้ำตามร่างกาย เข้าใจว่าตอนเกิดเหตุไฟไหม้คนที่ออกมาต้องกระทบกระทั่งกัน ส่วนอีก 4 คน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเช่นกัน ผศ.พญ.นันทนา กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตหลายศพไม่สามารถพิสูจน์หลักฐานบุคคลได้ เนื่องจากไฟไหม้เกรียม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯไดัประสานกับสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ แบ่งศพมาชันสูตรที่รพ.จุฬาฯ 30 ศพ อีก 28 ศพอยู่ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ผลชันสูตรเบื้องต้นพบว่าเสียชีวิตเนื่องจากสำลักควันไฟ นายสุชาติ และ นางศิริขวัญ สุวรรณวิเศษกุล บิดาและมารดาของ นายสุรศักดิ์ สุวรรณวิเศษกุล ซึ่งเดินทางมารับศพลูกชาย เปิดเผยว่า พวกตนมาตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook