ครม.ขยายพรบ.มั่นคง30วัน26มีค.-24เมย.

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมได้มีมติขยายเวลาการใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักรในเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ประกอบไปด้วย เขตปทุมวัน ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย พระนคร วังทองหลาง วัฒนา และราชเทวี ที่จะหมดอายุการประกาศใช้ในวันที่ 24 มี.ค. นี้ ออกไปอีก โดยให้ประกาศใช้ในวันที่ 26 มี.ค. ถึง วันที่ 24 เม.ย. นี้ ตามที่กองอำนวยการการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เสนอ นอกจากนี้ มีมติรับทราบที่ กระทรวงการต่างประเทศ เสนอเรื่องการดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC เรื่องคว่ำบาตรลิเบีย คลังอาวุธ ยึดทรัพย์ และอายัดทรัพย์สิน ห้ามเดินทางขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รายงานเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่ประเทศญี่ปุ่น ให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย

ด้าน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ในการคว่ำบาตรลิเบียแล้ว โดยทางกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมที่จะออกแถลงการณ์ ถึงท่าทีของไทย พร้อมปฏิบัติการตามมติของ UNSC ซึ่งมีสาระสำคัญในการห้ามโอนย้ายถ่ายเท หรือ ซื้อขายอาวุธไปยังประเทศลิเบีย พร้อมทั้ง อายัดทรัพย์สินของครอบครัวกัดดาฟี่ และข้าราชการระดับสูงในกระทรวงกลาโหม พร้อมทั้งให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทั้งนี้ นายกษิต ยืนยันว่า ยังไม่มีการส่งกองกำลังใด ๆ เพื่อให้สนับสนุนกองกำลังพันธมิตรฯ เพื่อดำเนินการต่อลิเบีย

ส่วนความคืบหน้า ในการให้ความช่วยเหลือคนไทย ในประเทศลิเบียนั้น นายเจษฎา กตเวคิน รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ขณะนี้มีแรงงานไทย อยู่ในประเทศจำนวน 86 คน โดยมีแรงงานที่ต้องการขอเดินทางกลับแล้ว จำนวน 5 คน ส่วนอีก 15 คน ที่อยู่ในเมืองเบงกาซีนั้นทางกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ นายจ้าง ประสานออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ระบุว่า สถานการณ์ในขณะนี้ ยังไม่มีการประเมินต่อการปิดสถานทูต