ดินเขาหาดนครศรีฯถล่มทับพระมรณะ

ดินเขาหาดนครศรีฯถล่มทับพระมรณะ

ดินเขาหาดนครศรีฯถล่มทับพระมรณะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุ ภูเขาถล่ม ดินสไลด์ลงมาทับกุฏิสำนักสงฆ์ พังเสียหาย และพระที่สำนักสงฆ์ ได้สูญหายไป เหตุเกิดที่เขาในเพลา หมู่ที่ 8 ตำบลขนอม หลังรับแจ้ง จึงเดินทางออกไปตรวจสอบ พบ สำนักสงฆ์ดังกล่าว ถูกดินภูเขา ถล่มลงมาพังพินาศ ส่วน พระสงฆ์ที่พำนักอยู่ 2 รูป ได้หายไป จึงได้ออกค้นหา ปรากฏว่า ค้นหาอยู่หลายชั่วโมงจนกระทั่ง พบเป็นศพไปแล้ว 1 รูป เสียชีวิตอยู่ในลำคลองขนอม โดยมีซากไม้ที่ถูกน้ำพัดพามาทับถม ร่าง อยู่ห่างจากสำนักสงฆ์ ประมาณ 5 กิโลเมตร ส่วนพระอีกรูปอายุ 36 ปี ที่หายไป ขณะนี้ยังหาไม่พบ ทั้งนี้คาดว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ฝนได้ตกลงมาไม่หยุด ทำให้ดินและก้อนหินภูเขา ถล่มไหลลงมาพระทั้ง 2 รูป เกรงว่าอยู่ในที่พักไม่ปลอดภัย จึงได้หนีออกมา จนประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตและสูญหาย ดังกล่าว


ขณะที่ มีรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา มีน้ำจากเทือกเขาได้ทะลักเข้าท่วมในหลายอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายหลังที่มีปริมาณน้ำฝนตกลงมาตลอดหลายวัน ส่งผลให้ น้ำจากเทือกเขา ไหลเข้าเมือง ถนนหนทางบางเส้นถูกตัดขาด ถนนเลียบตลิ่ง ก็ไม่สามารถสัญจรได้ โดยระดับน้ำมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ถนนสายหลักในเขตเทศบาลหลายสาย รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากมีระดับน้ำสูง ประมาณ 30-50 เซนติเมตร การสัญจรไปมา กลายเป็นอัมพาตเกือบทั้งเมือง ส่วนสถานการณ์ในหลายอำเภอนั้น ที่ อำเภอหัวไทร อำเภอสิชล อำเภอท่าศาลา อำเภอพระพรหม ได้มีการเรงอพยพชาวบ้านมาอยู่ที่ปลอดภัย ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด และยังมีชาวบ้านอีกจำนวนมาก ที่ติดอยู่ในบ้านไม่สามารถออกมาได้ ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง



ด้าน นายโส เหมกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง สรุปสถานการณ์น้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง , อ.นาโยง ,อ.ห้วยยอด และ อ.วังวิเศษ รวม 10 ตำบลกว่า 30 หมู่บ้าน เนื่องจาก หลายอำเภอ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในลำคลองสายต่าง ๆ เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่ ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง หลายหมู่บ้าน ยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน สวนยางพารา และพื้นที่ทางการเกษตร เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ส่วนที่หมู่ 1 ถึงหมู่ที่ 8 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ถนนเข้าหมู่บ้านหลายสาย รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ ส่วนที่ อ.ห้วยยอด กับ อ.วังวิเศษ ระดับน้ำสูงประมาณ 20-50 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่รับน้ำตอนล่างหลายตำบล ได้แก่ ต.บ้านโพธิ์ ต.นาพละ ต.นาบินหลา ต.ควนปริง และ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำตรัง ได้ขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว



ส่วน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ระดับน้ำยังคงท่วมสูงใน 10 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอควนขนุน อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสน อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอศรีบรรพต อำเภอป่าพะยอม อำเภอตะโหมด อำเภอกงหรา อำเภอป่าบอน ระดับน้ำเฉลี่ยสูงกว่า 1.20 เซ็นติเมตร ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 18,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรสวนยางพารา นาข้าว สวนผัก สวนปาล์ม ถูกน้ำท่วม นับแสนไร่ ถนนสายรองและสายหลักมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้าน 40 ครัวเรือน ต้องอพยพไปอาศัยบ้านญาติที่ปลอดภัย หลังบ้านเรือนมีน้ำท่วมสูงและน้ำป่าไหลเชี่ยวกราด โดยเฉพาะที่ตำบลเขาเจียก ตำบลพญาขัน ต.ปรางหมู่ ต.ชัยบุรี อ.เมือง ต.จองถนน อ.เขาชัยสน


ขณะที่ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 47 จังหวัด 354 อำเภอ 2,433 ตำบล 23,981 หมู่บ้าน ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ภาคใต้ 3 จังหวัด ส่วนสถานการณ์อุทกภัย ในช่วงระหว่างวันที่ 23-24 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้ ทำให้เกิด น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ในพื้นที่ 9 อำเภอ 60 ตำบล 330 หมู่บ้าน ขณะที่ จังหวัดพัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ 204 หมู่บ้าน 45 ชุมชน

สำหรับ สถานการณ์แผ่นดินไหว ที่เกิดในประเทศพม่า ขนาด 6.7 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เวลา 20.55 น. ศูนย์กลางห่างจาก อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 10 กิโลเมตร ประชาชนในพื้นที่ สามารถรับความรู้สึกได้ และมีแผ่นดินไหวตามมา (after shock) จำนวน 40 ครั้ง ขนาดตั้งแต่ 3-6.2 ริกเตอร์ ซึ่งจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ทำให้มีหลายพื้นที่ในไทยได้รับผลกระทบทั้งที่จังหวัดเชียงราย , จังหวัดเชียงใหม่ , จังหวัดพะเยา

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีโทรสาร ด่วนที่สุด แจ้งเตือน เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาวาตภัย อันเกิดจากสภาวะอากาศแปรปรวน เป็นลักษณะของฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนพืชผลทางการเกษตรของประชาชน ในช่วงระหว่าง วันที่ 22-26 มีนาคมนี้แล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook