ปชป.เผยเลือกตั้งใหม่ คัดผู้สมัคร คืบหน้า

ปชป.เผยเลือกตั้งใหม่ คัดผู้สมัคร คืบหน้า

ปชป.เผยเลือกตั้งใหม่ คัดผู้สมัคร คืบหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งของพรรคว่า ขณะนี้ได้เตรียมการคัดเลือกผู้สมัครไปกว่า ร้อยละ 80 แล้ว โดยเฉพาะภาคกลาง ซึ่งร้อยละ 90 เป็นผู้สมัครเดิม ทั้งนี้ จะมีผู้สมัครจากโครงการติวเตอร์ไทยแลนด์ลีดเดอร์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นการเมืองหน้าใหม่ลงสมัครในสมัยหน้าด้วย ทั้งนี้คาดว่า จะได้ที่นั่งในภาคกลาง เพิ่มเติมใน 5 จังหวัด คือ จ.สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา โดยส่วนของที่นั่งเดิม ก็จะพยายามรักษาไว้ให้ได้มากที่สุด ขณะที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรค จะทำการในวันที่ 16 เม.ย. ซึ่งได้มีการกำหนดโครงสร้างและผู้ได้รับผิดชอบไว้หมดแล้ว

นอกจากนี้ นายสาธิต ยังกล่าวถึงกรณีที่สัปดาห์ที่ผ่านมา สภาล่มติดกันถึง 3 ครั้ง เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ โดยเชิญชวนให้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ร่วมกันทำสิ่งที่สร้างสรรค์ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการทำหน้าที่ในสภา ที่เหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือน โดยการร่วมกันผ่านกฎหมายที่สำคัญ อาทิ กฎหมายของประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ และพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะ ส่วนการลงโทษ ส.ส. ที่ขาดการประชุมนั้น ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะพิจารณาเป็นกรณี

นายสาธิต ยังกล่าวเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ทำสัตยาบันร่วมกันในการยอมรับผลการเลือกตั้ง ไม่ว่าพรรคไหนจะเป็นรัฐบาล เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และห้ามทุกฝ่ายจัดคนไปก่อความวุ่นวายในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้าราชการ และสื่อมวลชนที่ต้องวางตัวเป็นกลาง ซึ่งหากทำได้ ก็จะเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนกลับมาได้

ส่วนกรณีที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า สาเหตุที่นักลงทุนต่างประเทศเชื่อมั่นเศรษฐกิจของไทย จนส่งผลให้หุ้นปรับตัวขึ้น เป็นเพราะเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งนั้น นายสาธิต มองว่า เป็นแนวคิดที่น่าไม่อาย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นักลงทุนจะให้ความเชื่อมั่นพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งไม่ได้บริหารประเทศ อีกทั้งบริหารตลาดหลักทรัพย์ได้ออกมาระบุว่า ขณะนี้ นักลงทุนสอบถามเรื่องการเมืองในประเทศน้อยลง เพราะเหตุการณ์เมื่อปี 2553 เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า แม้จะมีเหตุการณ์ความรุนแรงก็ไม่ส่งผลกระทบ แต่กลับมีกำไรเพิ่มขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook