หนุ่มข่มขืนสาวใหญ่ถูกเหยื่อกัดลิ้นทนอักเสบไม่ไหวมอบตัว
ล่าสุด นายพีระเดช ผู้ต้องหาพ ได้เข้ามอบตัวกับทางพ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ขุราษี รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรีแล้ว หลังจากที่หลบหนีกบดานอยู่ในป่า หลายวันจนทำให้บาดแผลที่ลิ้นที่ถูกกัดขาดเกิดอักเสบและ เป็นแผลขนาดใหญ่และเกิดหนองขึ้นมาที่บริเวณลิ้น ประกอบกับได้ถูกกดดันทางทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหนักจึงยอมเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้เข้ามารักษาบาดแผลที่ลิ้น เพื่อไม่ให้แผลลุกลามไปมากกว่านี้
// //
นายพีระเดช เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุนั้นตนเองนั่งดื่มสุรากับเพื่อนๆกใกล้กับจุดเกิดเหตุและได้เห็นนางนารอนเดินเข้าไปในสวนขนุน ซึ่งนางนารอน เป็นคนหน้าตาดี จึงได้เกิดอารมณ์ทางเพศและเดินตามหลังนางนารอนเข้าไปในสวนขนุน พอได้จังหวะจึงได้เข้าล็อกคอและกดตัวนางนารอนลงกับพื้นพร้อมกับได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายก่อนที่จะถอดกางเกงตัวนอกและตัวในออกจนหมดเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะจูบปากผู้เสียหายและไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะกัดลิ้นของตนเอง ซึ่งหลังถูกกัดลิ้นแล้วจึงได้วิ่งหลบหนีไปด้วยความเจ็บปวด
หลังจากที่วิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว ได้ไปหลบอยู่ในป่าอ้อยบริเวณซอย 26 อ.พัฒนานิคม โดยหลบอยู่ในป่าอ้อยตลอดหลายวันที่ผ่าน โดยอาศัยขอข้าวจากคนงานตัดอ้อยในบริเวณดังกล่าวกิน โดยไม่กล้าไปรับจ้างทำงานเพราะเกรงว่าจะมีคนเห็นลิ้นตนเองขาด และจะทราบว่าตนเองไปก่อเหตุมาจึงต้องหลบอยู่อย่างนั้นไม่สามารถติดต่อใครได้ ร่วมถึงลิ้นที่เป็นแผลก็ไม่มียารักษาจึงทำให้ลิ้นเกิดอักเสบและเป็นหนองประกอบกับเกิดอาการเครียดจากการกดดันของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลัวแผลที่อักเสบจะติดเชื้อมากกว่านี้อาจจะทำให้ตนเองเสียชีวิตได้จึงเข้ามอบตัวในวันนี้ พร้อมยอมรับผิดทุกอย่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านพ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ขุราศี รองผกก.สส.สภ.พัฒนานิคม ได้นำตัวของนายพีระเดช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที่โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 20 นาย ไปดูแลความเรียบร้อย โดยหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ก็จะนำตัวข้ารักษาตัวต่อไป
ตะลุยข่าว - 388 ศพสึนามิ...ยังไม่ได้กลับบ้าน
แม้พิบัติภัยสึนามิจะผ่านพ้นไปแล้ว 4 ปี ทว่าภาพความเสียหาย การล้มตาย และสูญหายไปของคนอันเป็นที่รัก ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเหมือนภาพฝันร้ายในคืนที่แสนยุ่งเหยิง หลายครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับมหันตภัยที่เกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว และธุรกิจ เสียงหวีดร้องโหยหวนและร่ำไห้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ยังคงก้องอยู่ในมโนสำนึก