รายการ แจ๊คฆ่ายักษ์ ในรอบดิวิชั่นเพลย์ ออฟ อ ีกา & นกน้อยหัวแดง บุกเชือดว่าที่เต็งตกรอบ

รายการ แจ๊คฆ่ายักษ์ ในรอบดิวิชั่นเพลย์ ออฟ อ ีกา & นกน้อยหัวแดง บุกเชือดว่าที่เต็งตกรอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บัลติมอร์ 7 0 0 6 13 ไททานส์ 7 0 0 3 10 ที่ แนชวิลล์,เทนเนสซี : แมตต์ สโตเวอร์ ตัวเตะประสบการณ์ 19 ปี ที่ถูกยักษ์ใหญ่ ไจแอนต์ส ดราฟต์เข้ามาเป็นคนที่ 25 ของรอบ 12 ปี 1990 ก็กลายเป็นฮีโร่มัยซินช่วยพาอีกาผยอง บัลติมอร์ เรเวนส์ เดินหน้าเข้าสู่รอบชิงแชมป์สายฝั่ง AFC เป็นทีมแรกและของลีกปีนี้หลังบุกไป จัดการเชือดว่าที่ทีมเต็งแชมป์ฝั่งตนดาบกายสิทธิ์ เทนเนสซี ไททานส์ ถึงรัง 13-10 หลังเจ้าตัวเตะฟิลด์โกล์ระยะ 43 หลาขณะเหลือ 53 วินาทีสุดท้ายเข้าไป ถึงตรงนี้ อีกาผยอง ซึ่งคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งสุดท้ายปี 2000 เตรียมบินกลับรังไปนอนรอพบผู้ชนะคู่ระหว่าง สตีลเลอร์ส กับซานดีเอโก ต่อไป งานนี้ทีมรับ เรเวนส์ ยังเล่นเป็นพระเอกต่อไปหลังทำให้เจ้าบ้าน ไททานส์ เสีย turnover ถึง 3 ครั้งขณะเดียวกัน โจ ฟลัคโก้ ก็สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นควอเตอร์แบ็กรุกกี้คนแรก ที่พาทีมเก็บชัยชนะในการเล่นเพลย์ ออฟ 2 เกมติดได้เป็นครั้งแรกด้วย แต่ไฮไลต์ของเกมนี้คงไม่หนีที่ไลน์แบ็กเกอร์โปรโบว์ล เรย์ ลูอิส ของ เรเวนส์ พุ่งเข้าแท็กฟูลแบ็กของ ไททานส์ อาห์เม็ด ฮอลล์ จนหมวกทั้ง 2 คนหลุดออกมาก่อนคางของทั้งคู่จะชนกันเองเข้า อย่างจังส่งผลให้ต้องถูกหามออกนอกสนามทั้ง 2 ฝ่ายหลังทั้ง 2 ทีมคะแนนเสมอกันมาตลอดและเป็นตัวเตะวัย 40 ปี สโตเวอร์ ที่ลงมาเตะฟิลด์โกล์ระยะ 21 หลาในต้นควอเตอร์สุดท้ายช่วยให้ทีมเยือน เรเวนส์ ขึ้นนำเจ้าบ้านเป็นครั้งแรก 10-7 ก่อนที่ ร็อบ ไบโรน่า จะมาเตะฟิลด์โกล์ระยะ 27 หลาในช่วง 4:23 นาทีที่เหลือช่วยให้ ไททานส์ ไล่ตีเสมอ เรเวนส์ เป็น 10 เท่ากัน จากนั้นก็เป็น ฟลัคโก้ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกเมื่อ ไม่มีใครหยุดพวกเขาได้รวมถึงที่ขว้างลูกสำคัญ 23 หลาให้ไทเอ็นด์ ทอดด์ ฮีพ รับในการบุกครั้งที่ 3 และต้องการระยะกว่า 10 หลาอย่างไรก็ตามในการบุกครั้งนี้ของ ฟลัคโก้ และ เรเวนส์ ก็จบลงด้วยการเตะฟิลด์โกล์ของ สโตเลอร์ อย่างไรก็ตาม ไททานส์ มีโอกาสจะกลับมาทำคะแนนคืนได้ในการบุกครั้งต่อมาเมื่อ คอลลิ้นส์ พาทีมบุกเข้ามาถึงเส้น 30 หลาในแดน เรเวนส์ แต่ในการขว้างลูกให้ อัลจี้ ครูมเลอร์ รับปรากฏว่าเจ้าตัวกลับทำฟัมเบิลทำให้ ไททานส์ พลาดโอกาสทำคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย ฟลัคโก้ ขว้างลูกให้ปีกรับได้ 11 จาก 22 ครั้งกับระยะ 161 หลาและ 1 ทัชดาวน์ขณะที่ คอลลิ้นส์ ของ ไททานส์ ทำได้ 26 จาก 42 ครั้งกับ 281 หลาและ 1 อินเตอร์เซ็ปต์ จัสติน เกจ รับลูกไปอีก 10 ครั้งทำระยะได้ 135 หลาให้เจ้าบ้าน Key stat : ไททานส์ ทำสถิติเหนือกว่าคู่แข่งทุกอย่างรวมถึง turnovers ที่เสียไป 3 ครั้งเมื่อบุกเข้าสู่แดน เรเวนส์ 1 อินเตอร์เซ็ปต์ 2 ฟัมเบิล รวมถึงการครองบอล (25:53 ต่อ 34:07) และทำดาวน์ที่ 1 (21ต่อ 9) แต่กลับเสีย turnovers เมื่อบุกขึ้นมา 13,8 และ 10 ครั้ง Noteworthy : รันนิ่งแบ็ก เลอรอน แม็คเคลน ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าในควอเตอร์แรกก่อนกลับ มาลงเล่นในควอเตอร์ 3......ไลน์แบ็กเกอร์ เธอร์เรลล์ ซุคส์ ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ขณะเข้าไปแซ็ก คอลลินส์ ในควอเตอร์ 2 ......ตัวคุมปีก ซามารี โรลล์ ของ เรเวนส์ ได้รับบาดเจ็บในควอเตอร์ 3.......2 ทีมรวมกับถูกกรรมการเป่าโทษไป 20 ครั้งเสียระยะ 129 หลา.....5 จาก 6 ครั้งหลังที่เจอกันระหว่าง ไททานส์ กับ เรเวนส์ ผลแพ้ชนะอยู่ที่ 3 คะแนนหรือน้อยกว่าตลอด แอริโซนา 14 13 3 3 33 แพนเธอร์ส 7 0 0 6 13 ที่ ชาร์ลอตต์,นอร์ธแคโรไลนา : นกน้อยหัวแดง แอริโซนา คาร์ดินัลส์ ประกาศศักดากลายเป็น แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์และซินเดอเรลล่า ทีมเมื่อบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้เจ้าบ้าน แคโรไลนา แพนเธอร์ส เป็นเกมแรกของฤดูกาลพร้อมเขี่ยตกรอบด้วยสกอร์ 33-13 งานนี้สิงห์เฒ่า เคิร์ธ วอร์เนอร์ ที่ขว้างลูกให้ปีกรับได้ 21 จาก 32 ครั้งกับระยะ 220 หลากลายเป็นพระเอกเมื่อขว้างทำไป 2 ทัชดาวน์กลับพลาดถูกอินเตอร์เซ็ปต์แค่หนเดียว ขณะที่เพื่อนร่วมตำแหน่ง แจ๊ค เดอโฮม คงลืมฝันร้ายวันนี้ไม่ลงแน่เมื่อขว้างพลาดถูกอินเตอร์เซ็ปต์ไป 5 ครั้ง กับตนเองยังทำอีก 1 ฟัมเบิลด้วยทำให้ คาร์ดินัลส์ เขยิบใกล้สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นหมูตัวที่ 2 ในประวัติศาสตร์ NFL นับตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมากับการเขยิบใกล้การคว้าแชมป์เข้าไปเรื่อยๆ หลังสลัด แทมป้าเบย์ บัคคาร์เนียร์ส เคยทำไว้ แพนเธอร์ส ออกสตาร์ตเหมือนกับทีมที่ไม่แพ้ใครในบ้านเมื่อ ดิแอนเจโล วิลเลี่ยมส์ วิ่ง 31 หลาจากนั้นก็เป็นคู่หู โจนาธาน สจ๊วร์ต ลงมาปิดบัญชีด้วยการวิ่ง 9 หลาทำทัชดาวน์ แต่จากนั้นหนังก็กลายเป็นคนละม้วน คาร์ดินัลส์ ที่ก่อนเกมเริ่มเป็นรองถึง 10 คะแนนและมีสถิติ 0-5 กับการยกพลมาเล่นในช่วงเวลาของฝั่งตะวันออก ก็ไล่ทุบอยู่ข้างเดียวโดยจบครึ่งแรกนำเจ้าบ้านไปห่าง 27-7 สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากควอเตอร์แบ็กวัย 34 ปี เดอโฮม ที่กลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ขว้างลูกพลาดถูกอินเตอร์ 5 หนในเกมเดียว หลัง ริค แกนน่อน ของ เรดเดอร์ส ทำไว้ในเกมแพ้ แทมป้าเบย์ กับเกมซูเปอร์โบว์ลปี 2003 แม้เจ้าตัวจะมาขว้างลูกให้ปีกรับได้ 17 จาก 34 ครั้ง กับระยะ 205 หลารวมถึงที่ขว้างลูก 8 หลาให้ปีก สตีฟ สมิธ รับได้ในช่วงท้ายแต่นั่นไม่อาจพาทีมพลิกกลับมาชนะได้ จากชัยชนะครั้งนี้ก็ทำให้ คาร์ดินัลส์ ถอนแค้นที่เคยบุกมาแพ้ แพนเธอร์ส 27-23 เมื่อเดือน ต.ค.ลงได้ด้วย และถึงแม้วันนี้ คาร์ดินัลส์ จะไม่มีปีก อันฆวน โบลดิน ที่นั่งดูเพื่อนเล่นอยู่ข้างสนามแต่ก็ได้ ลาร์รี่ย์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ที่รับลูกทำระยะในเพลย์ ออฟ ได้มากสุดกับการเล่นเพลย์ ออฟ 166 หลาไล่ฉีกแนว secondary ของเจ้าบ้าน ขณะเดียวกันทีมรับของ คาร์ดินัลส์ ยังเล่นได้ดีอย่างเหลือเชื่อเมื่อหยุดการวิ่งของ 2 รันนิ่งแบ็กเจ้าบ้านรวมถึง วิลเลี่ยมส์ ให้วิ่งทำระยะได้แค่ 63 หลาเท่านั้นทำให้ แพนเธอร์ส ที่หวังเข้าสู่รอบชิงแชมป์สายเป็นหนที่ 3 ในรอบ 6 ปีต้องผิดหวังกลับไป Key stat : 6 ครั้งที่เสีย เดอโฮม เสีย turnover คือ 5 อินเตอร์เซ็ปต์กับ 1 ฟัมเบิลกลายเป็น 23 จาก 33 คะแนนทั้งหมดให้ทีมเยือน คาร์ดินัลส์ Noteworthy : หลัง แคโรไลนา ทำทัชดาวน์ได้ในการบุกครั้งแรกจากนั้นมา ก็ทำคะแนนไม่ได้อีกเลยจนถึงการบุกครั้งสุดท้าย ......รุกกี้ โดมินิก ร็อจเจอร์ส-โครมาที ของ คาร์ดินัลส์ ทำอินเตอร์เซ็ปต์ได้เป็นนัดที่ 2 ติดในเพลย์ ออฟ......ไทเอ็นด์ สตีเฟ็น สแปช ของ คาร์ดินัลส์ ต้องออกจากเกมไปเนื่องจากขาเจ็บและไม่กลับมาลงเล่นอีกเลย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook