กดดันจนเร่าร้อน!!!

กดดันจนเร่าร้อน!!!

กดดันจนเร่าร้อน!!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกมพรีเมียร์ลีก ที่จะคิกออฟกันในสุดสัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาที่นักเตะหลายต่อหลายคน โดยเฉพาะพวกบิ๊กเนมทั้งหลายต้องยืนอยู่บนความกดดันอันใหญ่หลวง ต้องพยายามพิสูจน์คุณค่าของตัวเองครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพค้าแข้ง

แน่นอนว่า คนแรกที่แบกเอาเรื่องราวดังกล่าวไว้เต็มที่คงไม่มีใครเกินหน้าเกินตาแอนดี้ คาร์โรลล์ หัวหอกของลิเวอร์พูลไปได้ ช่วงจังหวะชีวิตที่อยู่กับนิวคาสเซิลเป็นอะไรที่สบายๆ ไม่มีอะไรต้องกังวล เมื่อเข้ามาอยู่ในบ่อใหญ่กลายเป็นปลาที่ต้องแหวกว่ายโชว์ศักยภาพ จะไปแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ คงไม่ได้อีกต่อไป

ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ที่ถือว่าแพงมากๆ แต่ เคนนี่ ดัลกลิช ยอมทุ่มเงินซื้อเข้ามาร่วมทีมด้วยความหวังว่าจะเป็นตัวหลักเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะพาลิเวอร์พูลกลับคืนสู่ความสำเร็จอีกครั้ง

แฟนบอลเองก็ต้องตั้งความหวังเอาไว้เต็มที่แน่นอน ทว่าตั้งแต่ย้ายเข้ามาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ มีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดเวลา จนไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับครึ่งฤดูกาลหลังในซีซั่นที่แล้ว

ฤดูกาลนี้สภาพร่างกายต้องฟิตเต็มที่ และเคนนี่ ดัลกลิช ติดดาบให้เรียบร้อยด้วยการเติม สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง และ ชาร์ลี อดัม เข้ามาเพื่อเกมของ แอนดี้ คาร์โรลล์ โดยเฉพาะ สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือสกอร์และต้องมีจำนวนมากด้วย ไม่ใช่เล่นไป 21 นัด ยิงได้ประตูเดียวเหมือนกับที่เฟร์นานโด ตอร์เรส เจอะเจอมาแล้ว

คาร์โรลล์ ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งเดียวที่ต้องพิสูจน์ตัวเองครั้งใหญ่ เอดิน เซโก้ หัวหอกเรือใบสีฟ้าก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน 27 ล้านปอนด์ โรแบร์โต้ มันชินี่ กล่อมบอร์ดบริหารของสโมสรว่านี่คือศูนย์หน้าที่จะช่วยนำความสำเร็จมาสู่ทีม จนได้รับไฟเขียวซื้อเข้ามาร่วมทีมสำเร็จ

เซโก้อาจจะแตกต่างไปจาก แอนดี้ คาร์โรลล์ นั่นเพราะต้องเจอกับหลายสถานการณ์รุมเร้า และแปลกที่แปลกทาง ทีมใหม่ ลีกใหม่ เพื่อนร่วมทีมใหม่ วัฒนธรรมใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด ต้องเริ่มต้นกันที่ศูนย์เลยทีเดียว

ฤดูกาลแรกจึงพอจะให้อภัยกันได้ แต่ฤดูกาลต่อไปซึ่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว ตั้งแต่ย้ายมาจากโวล์ฟสบวร์ก เซโก้ ไม่สามารถลงหลักปักฐานอย่างมั่นคง

นาทีนี้คงต้องปรับปรุงมาตรฐานของตัวเองเสียใหม่ ยิ่งคาร์ลอส เตเบซ ซึ่งเป็นคนที่แบกรับภาระเรื่องของสกอร์ของทีมเอาไว้เป็นหลักในฤดูกาลที่แล้ว พร้อมจะย้ายออกไปได้ตลอดเวลา

นั่นยิ่งทำให้เซโก้, บาโลเตลลี่ และตัวใหม่อย่าง อาเกโร่ ต้องช่วยกันแบกรับภาระแทนเตเบซให้ได้ เริ่มกันตอนนี้เลยไม่มีเวลาให้ตั้งการ์ดกันอีกต่อไป ปล่อยหมัดเด็ดออกไปได้เลย

ข้ามฝั่งเมืองแมนเชสเตอร์ มาที่ แอชลี่ย์ ยัง ของผีแดง เจอกับฤดูกาลที่สำคัญเช่นกัน หลังจากย้ายออกมาจาก วิลล่า ปาร์ค เพื่อทีมที่ใหญ่กว่า เพื่อโอกาสที่ดีกว่า

ตอนนี้ได้ทุกอย่างสมใจแล้ว ที่เหลืออยู่ที่ตัวเองล้วนๆ ว่าสามารถประสบความสำเร็จได้หรือไม่ในทีมผีแดงที่มีองค์ประกอบสมบูรณ์แบบ

ความสามารถมีแค่ไหนโชว์ออกมาได้เลย เอาแบบชนิดที่ว่าสามารถเบียดไรอัน กิ๊กส์, นานี่, ปาร์ค จี ซอง และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย จนตกขอบ เป็นตัวเลือกแรกของตัวริมเส้น ไม่ว่าจะเป็นฝั่งซ้ายหรือขวาก็ตาม

คนต่อไปที่หนีไม่พ้นก็คือ แจ๊ค วิลเชียร์ ฤดูกาลที่แล้วผลงานดีเยี่ยม อาจจะไม่ค่อยแฟร์สักเท่าไหร่ที่โยนความกดดันใส่ วิลเชียร์ แบบเต็มๆ อายุเพิ่งจะ 19 ปี และผ่านเกมพรีเมียร์ ลีกกับอาร์เซนอลเพียงแค่ 40 นัดเท่านั้น แต่ถ้าพิจารณากันทุกด้านก็เลี่ยงไม่ได้

ทุกคนกำลังจับตามองวิลเชียร์จะพัฒนาตัวเองได้ต่อเนื่องแค่ไหน อีกเหตุผลหนึ่งซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่า เขาคืออนาคตของทีมโดยแท้ จะช้าหรือเร็วทั้ง เชส ฟาเบรกาส และ ซาเมียร์ นาสรี่ ก็ต้องย้ายออกไป

เพราะฉะนั้น ถ้าพิสูจน์ตัวเองได้ว่าสามารถแบกรับความหวังของทีมไว้ได้ นั่นจะทำให้สโมสรและแฟนบอลโล่งใจไปเยอะ

ในขณะที่วิลเชียร์พัฒนาตัวเองขึ้นมาทุกวัน มีผลกระทบต่อตำแหน่งของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ในทีมชาติแบบเต็มๆ แลมพ์ต้องเจอสถานการณ์บีบคั้นในช่วงท้ายของอาชีพค้าแข้ง

เล่นอยู่บนมาตรฐานที่สูงส่งติดต่อกันมาหลายฤดูกาล จนมาแผ่วลงไปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา นั่นคือเหตุผลหลักอย่างหนึ่งนอกจากบรรดากองหน้ายิงประตูไม่เป็น ที่ทำให้เชลซีพลาดแชมป์

กลับไปสุดยอดเหมือนที่ผ่านมาคงลำบาก เอาให้ใกล้เคียงกับฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ถ้าไม่สามารถทำได้ ก็อย่าไปหวังว่าเชลซีจะเบียดผีแดงจนเสียทรงหรือเขี่ยเรือใบจนติดขอบ

สุดท้ายที่ต้องเจอเรื่องราวบีบคั้น นั่นก็คือ แกรี่ เคฮิลล์ ไม่บ่อยที่นักเตะของทีมอย่างโบลตันจะมีความกดดันขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าต้องพาทีมเป็นแชมป์ แต่เคฮิลล์มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับทีมชาติมากกว่า

ปลายปีนี้จะอายุ 26 ปีเต็ม ต้องเป็นส่วนสำคัญของทีมชาติอังกฤษได้แล้ว ทำให้ทุกคนเห็นว่านี่คือกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในประเทศ ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ จอห์น เทอร์รี่ จับจองพื้นที่ในทีมชาติมายาวนาน และใกล้ถึงวาระที่จะต้องวางมือกันแล้ว

ถึงเวลาที่ แกรี่ เคฮิลล์ ต้องเชิดหน้าขึ้นมา ไม่ว่าจะยังคงเล่นกับโบลตันหรือจะต้องโยกย้ายทีมแบบฉับพลันก่อนตลาดวาย

เคฮิลล์เป็นนักเตะที่ไม่ค่อยดึงดูดความสนใจของสื่อสักเท่าไหร่ นั่นอาจจะเพราะว่าไม่ได้เล่นในทีมใหญ่ แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องดีที่ไม่มีใครมาคอยจับผิดจนหงุดหงิดเสียสมาธิ

ถ้าฤดูกาลนี้โชว์ผลงานได้ดีอย่างที่คาดหวัง นั่นจะการันตีตั๋วเครื่องบินไปลุยยูโร 2012 ที่โปแลนด์และยูเครน โดยมีตำแหน่งตัวจริงสิงโตคำรามเป็นเดิมพัน

เรื่องโดย "ดามัน"

ขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์ ทดเจ็บ3นาที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook