สร้างความรู้ผ่านเว็บไซด์ TKC
สิ่งที่โครงการ TKC ยังขาดอยู่ คือ หลักสูตรการเรียนรายวิชาต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือ อี-เลิร์นนิ่ง ซึ่งจะช่วยให้ นักเรียนในท้องถิ่นห่างไกลที่ขาดครู และเขตพื้นที่ ที่มีการก่อการร้าย เช่น ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถเรียนรละเข้าใจบทเรียนต่าง ๆ ได้ นางอัญชลาภรณ์ กล่าว
สำหรับการพัฒนาต่อยอดโครงการฯ ในระยะที่ 4 เน้นการสร้างหลักสูตรเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ในรูปแบบของ อี-เลิร์นนิ่ง นอกเหนือจากการสร้างองค์ความรู้ในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งแม้จะสามารถนำมาใช้ในการเรียนการสอนได้ แต่ก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการนำไปบูรณาการจึงจะใช้งานได้ นอกจากนี้ควรต้องมีการปรับปรุงด้านซอฟต์แวร์ เพื่อรองรับการทำงานที่ขยายตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้าน อี-เลิร์นนิ่ง หรือการสร้างกิจกรรมชุมชนนักปฏิบัติของส่วนราชการ ซึ่งต้องสนับสนุนให้มีการจัดทำและใช้งานอย่าง กว้างขวาง
นางทรงพร โกมลสุรเดช ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ TKC กล่าวว่า ในการพัฒนาโครง การฯ ระยะที่ 4 จะเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อถ่ายทอดองค์ความไปสู่นักเรียนและประชาชนทั่วไป ให้สามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยใช้เว็บไซต์ www.tkc.go.th เป็นเครื่องมือในการสร้างองค์ความรู้
อย่างไรก็ดี การเผยแพร่โครงการ TKC ให้เป็นที่รู้จัก และมีการใช้งานอย่างเต็มที่ รวมถึงเสาะหาผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่าง ๆ มา ช่วยกลั่นกรององค์ความรู้ในแต่ละสาขาวิชานั้น ทาง TKC ได้จัดกิจกรรมสัมมนาขึ้นทั้งหมด 4 ครั้ง โดยให้ผู้นำและตัวแทนกลุ่มชุมชน นักปฏิบัติ ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากโรงเรียน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังการสัมมนาเพื่อเสนอแนะและนำไปหาข้อสรุปต่อไป.