ฮ่องกงมองอนาคตปีใหม่นี้หม่นหมอง

ฮ่องกงมองอนาคตปีใหม่นี้หม่นหมอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บริษัทวิจัยทีเอ็นเอส และแกลลัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วโลกใน 46 ประเทศ รวม 45,700 คน ระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม บนเว็บไซต์เมื่อวันพุธ (31 ธ.ค.) ระบุว่า ชาวฮ่องกงมองอนาคตในปี 2552 นี้ด้วยความหดหู่มากที่สุด โดยชาวฮ่องกงร้อยละ 67 จากจำนวน 1,013 คนที่ตอบคำถามเชื่อว่า ปีนี้จะแย่กว่าปีที่แล้ว ซึ่งมากถึงเกือบสองเท่าของผู้ตอบคำถามทั่วโลกที่ร้อยละ 35 เชื่อว่าปีนี้จะแย่ลง

ชาวฮ่องกงมากถึงร้อยละ 84% คนเชื่อว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้น และมีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่เชื่อว่าฮ่องกงจะมั่งคั่งขึ้นในปีนี้ แม้ว่าพนักงานทั้งแแบบทำงานเต็มเวลาและพนักงานนอกเวลาราวร้อยละ 65 เชื่อว่าหน้าที่การงานของตัวเองยังคงมั่นคงอยู่ ความรู้สึกของชาวฮ่องกงในปีนี้แตกต่างจากการสำรวจเมื่อปีที่แล้ว ที่พบว่าชาวฮ่องกงเป็นผู้มองโลกในแง่ดีมากที่สุดในเอเชีย โดยร้อยละ 71 เชื่อว่า โลกในปี 2551 จะทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้น

นอกจากนี้ ในผลสำรวจล่าสุดยังพบด้วยว่า ประชาชนในไอซ์แลนด์มองอนาคตในปีนี้ในแง่ร้ายพอๆ กับชาวฮ่องกง เพราะว่าประเทศกำลังได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤติการเงินโลก ส่วนประเทศอื่นที่มองโลกในแง่ร้ายได้แก่ สิงคโปร์ ไอร์แลนด์ กรีซ และโครเอเชีย

// //

ด้านนายโธมัส ไอแซค ผู้อำนวยการศูนย์ทีเอ็นเอส ฮ่องกง และสิงคโปร์กล่าวว่า ผลการสำรวจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความคิดเห็นของผู้คนที่อยู่ในดินแดนที่มีกลุ่มธุรกิจน่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งวิกฤติเศรษฐกิจโลกไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบรุนแรงและรวดเร็วกับแวดวงธุรกิจโลกเท่านั้น แต่ยังทำลายการมองโลกในแง่ดีของประชาชนอย่างรวดเร็วด้วย ผลการสำรวจยังคาดการณ์ด้วยว่า อัตราการว่างงานในฮ่องกงจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ภายในกลางปี 2552

ขณะที่ประชาชนในโคโซโว ดินแดนที่ประกาศตัวเป็นเอกราชจากเซอร์เบีย มองโลกในแง่ดีที่สุดในปีนี้ โดยร้อยละ 60 มองว่าอนาคตจะดีขึ้น ส่วนประชาชนในจีนแผ่นดินใหญ่มีความสุขเป็นอันดับสองของโลก โดยร้อยละ 53 คาดหวังว่าปีนี้จะมีอนาคตที่สดใสขึ้นตามด้วยชาวออสเตรเลียร้อยละ 49 ที่เชื่อว่าอนาคตจะดีขึ้นเช่นกัน ส่วนประเทศอื่นๆ ที่มองว่าโลกปีหน้าจะดีขึ้นได้แก่ เลบานอน โคลัมเบีย และนิวซีแลนด์

อาถรรพณ์นรกซานติก้า ที่ดินนี้มีตำนาน...เลือด!!!

จากที่ดินทำเลทองย่านเอกมัย เพียงชั่วข้ามคืนของวันแรกที่ย่างเข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2552 กลับกลายเป็นสุสานของเหยื่อเพลิงนรก นำมาสู่การผูกโยงถึงความเชื่อของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับ สุสานซานติก้าผับ ด้วยความหวาดผวา และบอกเล่าถึงเรื่องราวอาถรรพณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงลางร้ายบอกเหตุที่อาจจะเป็นสาเหตุที่นำมาสู่โศกนาฏกรรมครั้งนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook