อภิสิทธิ์ร่อนจม.ฉ.3จี้สถาบันพระปกเกล้าถอนผลวิจัย

อภิสิทธิ์ร่อนจม.ฉ.3จี้สถาบันพระปกเกล้าถอนผลวิจัย

อภิสิทธิ์ร่อนจม.ฉ.3จี้สถาบันพระปกเกล้าถอนผลวิจัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ส่งจดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 3 ว่าด้วยการปรองดอง โดยมีเนื้อหาสาระ เรียกร้องให้ ผู้วิจัยสถาบันพระปกเกล้า ถอนรายงานวิจัยออกจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการสร้างแนวทางการปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เป็นประธาน ทันที เพื่อดำเนินการยืนยันตามเจตนารมณ์ของคณะผู้วิจัยที่ได้ประกาศไว้ และทบทวนรายงานในประเด็นกรณีข้อเท็จจริง ที่ควรนำเอาข้อสรุปของ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ  หรือ คอป. เกี่ยวกับ ต้นตอของวิกฤติ มาบรรจุไว้ พร้อมให้ ทบทวนข้อเสนอที่สุดโต่ง และนำมาสู่ความขัดแย้ง คือการยกเลิกคดีของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดการเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ทั้งหมด และห้ามไม่ให้มีการนำมาพิจารณาใหม่  และมีใจความส่วนหนึ่งถึงประธาน และเลขานุการ กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า โดยเรียกร้องให้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการสภาฯ โดยด่วน เพื่อพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นจาก ผลวิจัยเรื่องการปรองดอง เพื่อการกำหนดท่าทีที่ชัดเจน จะเป็นการปกป้องชื่อเสียงของสถาบันฯ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องไปถึง คณะผู้วิจัย ให้มีการเรียกประชุมคณะกรรมาธิการฯ โดยด่วน เพราะหากปล่อยไป ประธานคณะกรรมาธิการฯ จะต้องรับผิดชอบกับกระบวนการบิดเบือนข้อเสนอของผู้วิจัยอย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ยังระบุว่า ความสำเร็จเรื่องการปรองดอง แขวนอยู่บนเส้นด้าย รายงานของคณะผู้วิจัย สามารถนำไปใช้เป็นจุดเริ่มต้น ในการหาข้อยุติร่วมกัน เพื่อสร้างความปรองดองได้ ดังนั้น จะเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก หากรายงานชิ้นนี้ ต้องกลายเป็นเพียงเครื่องมือของผู้มีอำนาจ ในการฉกฉวยผลประโยชน์ และสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ส่วน กรณีรายงานวิจัยการสร้างความปรองดองแห่งชาติของสถาบันพระปกเกล้าในข้อเสนอให้มีการยกเลิกคดีของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. และการนิรโทษกรรม อาจจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องรับผิด ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ควรศึกษารายละเอียดของรายงานฉบับดังกล่าวให้ชัดเจน ไม่ควรอ้างเป็นหน้าที่ของรัฐสภา ที่จะดำเนินการเรื่องการสร้างความปรองดอง"อภิสิทธิ์" เผย ส่งจม.ฉบับ 3 เพราะรายงานถูกบิดเบือนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้ส่งจดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 3 เรื่องความปรองดองถึง คณะผู้วิจัยของสถาบันพระปกเกล้า เพื่อให้ถอนรายงานวิจัยออกจาก คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการสร้างแนวทางการปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร  เนื่องจากเห็นว่า รายงานดังกล่าวกำลังถูกบิดเบือนไปใช้เพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม นอกจากนี้ จะส่งจดหมายเปิดผนึกไปยัง ประธานและเลขานุการ กรรมการสถาบันพระปกเกล้า เพื่อให้พิจารณาปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยการเรียกประชุมกำหนดท่าทีที่ชัดเจน รวมถึง จะส่งไปยัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ให้เรียกประชุมคณะกรรมาธิการโดยด่วน  เพื่อให้ทบทวนร่างรายงานของสถาบันพระปกเกล้า ก่อนนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรพท.หนุน "พล.อ.สนธิ" ชงผลศึกษาปรองดองเข้าสภานายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ จะนำผลการศึกษาเข้าหารือในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ในวันอังคาร ที่ 27 มี.ค.นี้ว่า จะสามารถทำให้ประชาชนรับรู้แนวทางสร้างความปรองดองมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้ง เรียกร้องให้ทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายการเมือง นักวิชาการ ข้าราชการ รวมถึง ประชาชน ให้ลืมความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา และมาร่วมกันสร้างความปรองดอง เนื่องจากเห็นว่า ขณะนี้ ประเทศไทย ได้มีความถดถอยทางด้านเศรษฐกิจ และหากความขัดแย้ง ยังไม่หมดไป อาจทำให้ประเทศไทย เสียโอกาส ทั้งนี้เชื่อว่า ทุกฝ่าย ต้องการให้เกิดความปรองดองขึ้น และการให้อภัยกัน จะทำให้เกิดความปรองดองได้จริง พร้อมทั้ง ขอให้ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือในการสร้างความปรองดองเพื่อประเทศ และหากฝ่ายค้านมีความคิดเห็นที่แตกต่าง หรือ ต้องการตรวจสอบรัฐบาลในเรื่องใด ควรนำเข้ามาพูดคุยในรัฐสภา "เทพไท"  จี้ นายกฯ อ่านผลวิจัยพระปกเกล้า ก่อนพูดนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีที่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า แนวทางการสร้างความปรองดองเป็นกระบวนการของรัฐสภานั้น ตนเองเห็นว่า นายกรัฐมนตรี ควรจะศึกษารายละเอียดรายงานการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า ให้เข้าใจอย่างถี่ถ้วน เพราะหาก นายกรัฐมนตรี อ้างว่า เป็นหน้าที่ของรัฐสภา อาจจะทำให้สังคมสับสนได้ ทั้งนี้ หากจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น กลุ่มคนเสื้อแดง ต้องหยุดการเคลื่อนไหวให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และการก่อตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดง   ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินไปยัง จ.สุรินทร์ ระบุว่า ได้มอบหมายให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปเจรจากับผู้พิพากษานั้น เป็นการแทรกแซงศาล และแสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะล้มล้างความผิดที่ได้กระทำไว้ 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook