ย่อยข่าวเศรษฐกิจ

ย่อยข่าวเศรษฐกิจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ททท.จุดพลุเที่ยวอีสาน

นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. เตรียมจัดงาน อะเมซิ่ง อีสาน แฟร์ 2009 หรือ Amazing I-San fair 2009 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 15-18 ม.ค.52 ใช้งบประมาณจัดงานราว 14 ล้านบาท โดยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคอีสาน อาทิ บริษัทนำเที่ยว โรงแรม รีสอร์ต สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ มาร่วมออกบูธ ล่าสุดมีผู้จองบูธแล้ว 80 บูธ จากทั้งหมดที่เตรียมไว้ 90 บูธ ตั้งเป้าหมายมีผู้สนใจเข้าชมงานนี้ไม่น้อยกว่า 2 แสนคน เกิดการซื้อขายภายในงานไม่น้อยกว่า 3-5 ล้านบาท ทั้งนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายว่า ในปี52 จะมีนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าภาคอีสานจำนวน 24.40 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี51 ประมาณ 6.55% หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 22.90 ล้านคน ส่วนรายได้ ปี52 ตั้งเป้าเฉพาะภาคอีสานจะมีรายได้ราว 41,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 12.33%

ตั้งเป้าซื้อขายหมื่นสัญญา

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี51 ว่า ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยในปี51 อยู่ที่ 8,837 สัญญา/วัน เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบกับ 5,219 สัญญา/วัน ในปี50 คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายรวมเฉลี่ย 3,810 ล้านบาท/วัน เพิ่มขึ้น 32% จากระดับ 2,883 ล้านบาท ในปี50 สถานะคงค้างรวม ณ วันที่ 31 ธ.ค.51 อยู่ที่ระดับ 22,747 สัญญา ส่วนปี52 จะเน้นการพัฒนาที่สินค้าให้ตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน โดยจะเปิดให้มีการซื้อขาย Gold Futures ขนาดน้ำหนัก 50 บาททองคำ หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำน้ำหนัก 50 บาททองคำ ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ นอกจากนี้ จะเปิดซื้อขาย Stock Futures ที่อ้างอิงกับหุ้นอื่นๆ เพิ่มเติม โดยในปี52 ตลาดอนุพันธ์วางเป้าหมายว่าจะมีปริมาณซื้อขายเฉลี่ย 10,900 สัญญา/วัน

ร้องทบทวนพ.ร.บ.ปุ๋ย

นายพงษ์เทพ อันตะริกานนท์ นายกสมาคมธุรกิจปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพไทย เปิดเผยภายหลังการเข้าพบนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อทบทวนพระราชบัญญัติปุ๋ย (พ.ร.บ.) พ.ศ.2550 เนื่องจากบทบัญญัติตามพ.ร.บ.ดังกล่าว มีระวางโทษรุนแรงเกินไปต่อผู้ประกอบการผู้จำหน่ายและเกษตรกร ถึงขั้นจำคุกสูงสุด 6 ปี ซึ่งมีผลกระทบทางลบต่อการพัฒนาการเกษตรของไทยในวาระเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ นอกจากนี้ ควรทบทวนและปรับปรุงประกาศของกรมวิชาการเกษตรที่กำหนดมาตรฐานของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพเอาไว้สูงเกินไป ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขึ้นทะเบียนและผลิตได้จริงตามมาตรฐานที่กำหนด อีกทั้งพ.ร.บ. ดังกล่าวยังเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกด้วย

นายพงษศักดิ์ ทรัพย์เจริญกุล นายทะเบียนสมาคมธุรกิจปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพไทย กล่าวว่า ในวันที่ 17 ม.ค.นี้ สมาคมร่วมกับผู้ประกอบการทั่วประเทศจะหารือกันอีกครั้งหากไม่ได้รับคำตอบที่ดีจากกระทรวงเกษตรฯ สมาคมจะชุมนุมเรียกร้อง ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีรวมทั้งจะร้องต่อศาลปกครองต่อไป

เสนอแผนรับมือภัยแล้งปี52

นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และสถานการณ์ภัยหนาวในหลายจังหวัดภาคเหนือ ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยรายงาน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มีการเสนอแผนรับมือสถานการณ์ภัยธรรมชาติในหน้าแล้งที่จะมาถึง โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดแผนเป็น 3 ช่วง คือ ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย เช่น การกำหนดเป้าหมายเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง แผนการจัดสรรน้ำ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง 8 ศูนย์ ครอบคลุมพื้นที่ 25 ลุ่มน้ำ

เล็งปรับเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า

นายพานิช พงศ์พิโรดม อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เตรียมพิจารณาปรับเพิ่มค่า Adder Cost (ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า) ของผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนประเภท พลังงานขยะ ไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็ก และชีวมวลขนาดเล็กเพิ่มขึ้น เพื่อจูงใจให้เกิดการผลิต หลังพบว่าต้องใช้การลงทุนสูง รวมทั้งจะพิจารณาขยายระยะเวลาการขอส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า Adder เพิ่มให้กับผู้ผลิตพลังงานทดแทนจากเดิมที่หมดอายุไปเมื่อสิ้นปี51 โดยอาจขยายออกไปถึงปี53 โดยเบื้องต้นคาดว่าพลังงานลมจะปรับเพิ่มจาก 700 เมกะวัตต์ เป็น 800 เมกะวัตต์ หลังมีผู้ผลิตสนใจกว่า 1,000 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งปรับปรุงแผนที่พลังงานลมให้มีศักยภาพมากขึ้น เพื่อดึงภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook