''กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง'' สไตล์ดาวรุ่ง ปริญดา หัศฎางค์กุล

''กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง'' สไตล์ดาวรุ่ง ปริญดา หัศฎางค์กุล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นับเป็นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งที่สำคัญ และท้าทายการทำงานของ ปริญดา หัศฎางค์กุล อดีตกรรมการผู้จัดการ พี แอนด์ จี ประเทศไทย ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด พี แอนด์ จี อาเซียน ตำแหน่งที่เพิ่งตั้งขึ้นมาเป็นครั้งแรก เมื่อพฤศจิกายน 2551 รับผิดชอบดูแลการตลาดในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของพี แอนด์ จี ทั้งหมดที่จำหน่ายในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม

ปริญดา หรือ ปู ถือเป็นคนไทยคนแรกในวัยเพียง 40 ปี ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูง ของ พี แอนด์ จี ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลและเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มียอดขายระดับ 2.9 ล้านล้านบาท จากความโดดเด่นในการเป็น นักการตลาดดาวรุ่ง ตั้งแต่สมัยประจำอยู่ฝ่ายการตลาด พี แอนด์ จี ประเทศไทยและก้าวไปสู่ระดับภูมิภาคด้วยวัย 30 ปีเศษ ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและเครื่องสำอาง และเพื่อความงาม ภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลีย และอินเดีย ประจำที่สิงคโปร์

โอเลย์ เป็นแบรนด์ที่ปูรักมากเพราะโตมากับตัวนี้ และปูเป็นคนทำให้โอเลย์กลับมาเป็นที่หนึ่งในเมืองไทย มีมาร์เก็ตแชร์ 27%

ปูเผยกลยุทธ์ที่ใช้สร้างความสำเร็จและเป็นโมเดลที่ใช้ได้ตลอดกาล สิ่งแรก ต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อหาความเหมือนและเข้าใจความแตกต่าง หลังจากนั้นหานวัตกรรม หรือความคิดใหม่ๆ ที่แปรมาเพิ่มยอดขายได้ทั้งด้านการตลาดและผลิตภัณฑ์

เส้นทางชีวิตของเธอเหมือนพรหมลิขิต ปูเกิดที่เมืองไทยแต่ไปอยู่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ 8 ขวบ แม้จะอยู่นานถึง 14 ปีแต่ยังอ่าน เขียนและพูดภาษาไทยได้ดี เพราะคุณน้าบังคับให้คัดไทย เขียนจดหมายเป็นภาษาไทย ตอนหลังคุณป้าไปอยู่ด้วยให้พูดแต่ภาษาไทยและให้สวดมนต์ทุกวัน

ปูเลือกเรียนรัฐศาสตร์การเมือง ที่ยูซีแอลเอ แต่มาพบว่าตัวเองชอบจิตวิทยาจึงได้ปริญญาเพิ่มมาอีกใบและตั้งใจเรียนต่อถึงปริญญาโทและเอก แต่ขอกลับมาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่เมืองไทยพักหนึ่งพร้อมหางานทำเอาประสบการณ์ เห็นโฆษณาของพี แอนด์ จี ในหนังสือพิมพ์ รับผู้ช่วยฝ่ายวิจัยตลาด เห็นว่าเป็นบริษัทอเมริกันที่รู้จักวัฒนธรรม และเป็นแบรนด์ที่เคยใช้ จึงเข้ามาทำอยู่ปีเศษรู้สึกชอบการตลาด และอยากอยู่เมืองไทยต่อ จึงตัดสินใจอยู่ต่อ แต่ย้ายไปทำการตลาด

มีคนถามปูว่าอยู่มาได้ยังไง 18 ปี ก็เพราะทำงานแล้วรู้สึกสนุก ที่สำคัญที่สุด คือ บริษัทให้โอกาสได้เติบโต ทำสิ่งที่ท้าทาย รู้สึกว่าเราได้มีส่วนร่วมในการสร้างบริษัท สร้างองค์กรด้วย และภูมิใจที่ได้ทำงานในองค์กรที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ไม่ได้ขายเหล้า ไม่ขายบุหรี่

จากผลงานที่โดดเด่น ทำให้ World Economic Forum เลือกให้เธอเป็น ผู้นำโลกรุ่นใหม่(Young Global Leader) โดยเป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่อายุต่ำกว่า 40 ปีที่ได้รับเลือกจากทั่วโลก

ความสำเร็จในวันนี้เธอให้เหตุผลว่า เพราะบริษัทให้โอกาส และตัวเองมีความมุ่งมั่น แต่ถ้าจะถามว่าถึงจุดสูงสุดของการทำงาน สำหรับเธอไม่มีจุดสูงสุด ที่พี แอนด์ จี สอนให้คนทำสิ่งที่ถูกต้อง สอนให้รู้จักค่านิยมของตัวเอง สอนให้ไว้วางใจกัน และสอนให้คนพึ่งความรู้ไม่ใช่ที่ตำแหน่ง

และทำให้เธอเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำให้ พีแอนด์จี เมืองไทยเป็นแม่เหล็ก ดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นผู้สร้างแบรนด์ที่เก่ง เป็นแหล่งผลิตผู้นำในอนาคตเพื่อไปเป็นผู้นำในบริษัทใหญ่ในเมืองไทย ปูเล่าผ่านประสบการณ์ที่เคยได้รับจากการฝึกอบรมที่สุดคุ้ม จากบทเรียนฝึกให้เขียน vision และ value ที่หล่อหลอมเป็นตัวเธอในวันนี้

5 value ที่ปูเขียนและกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว คือ หนึ่งทำในสิ่งที่ถูกต้อง(Do the right thing)กับบริโภค บริษัท ตัวเรา ชุมชน และพนักงาน สองเชื่อในผลงาน(Result oriented) สามผู้นำต้องมีความรู้(Knowledge base leadership) สี่ ค้นหาพรสวรรค์และความชอบในตัวเอง(Talent & passion) และห้า มองบวกไว้ก่อนปูขยายความว่า เพราะตัวเราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเราได้ แต่เราควบคุมปฏิกิริยาในการตอบสนองกลับไปเป็นด้านบวกได้และด้วยบุคลิกเป็นคนใจเย็นช่วยทำให้ปูมีสติในการทำงาน

นอกจากนี้เธอบอกว่ายังได้เรียนรู้จากหลายคนที่เป็นต้นแบบ มีนายต่างชาติ ทุกคนสอนเราทุกอย่าง

แต่สอนไม่เหมือนกัน มีทั้งที่ดีและไม่ดี ส่วนคนไทยก็มีรุ่นพี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้เรียนรู้หลายอย่างและสนิทกันมากด้วย

สำหรับปรัชญาในการทำงาน ปูเผยว่า ต้องพยายามทำสิ่งที่แตกต่าง เพิ่มมูลค่า และต้องสนุกกับมันจะทำให้เราไม่อยู่นิ่ง ในขณะเดียวกันก็ช่วยมองหาพรสวรรค์ให้ลูกน้อง ได้ทำสิ่งที่เหมาะกับตัว ได้ค้นพบความชอบของตัวเอง ถ้าทำได้จะเห็นแต่คนมีความสุข

เช่นเดียวกับตัวเธอเองที่วันนี้ เริ่มคืนให้สังคม จากที่ได้เรียนจิตวิทยามา ปูบอกว่าพื้นฐานพฤติกรรมมนุษย์ มี 3 ชั้น อันดับแรก ความต้องการที่เหมือนกันหมด อันดับสองค่านิยมของวัฒนธรรมที่เราเติบโตมา และสุดท้าย ลักษณะนิสัยของแต่ละคนที่ดีเอ็นเอให้มาอย่างนั้น ถ้าสามารถศึกษาแต่ละคนให้เข้าใจว่าอยู่ตรงไหนใน 3 จุดนี้จะทำให้ทำงานได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น

สุดท้ายปูมีข้อแนะนำถึงคนรุ่นใหม่และคนไทยถึงคนไทย คือ ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้นำต้อง มีความกล้าหาญพอที่จะยึดปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของคนไทย คือ วัฒนธรรมไทยสอนให้ต้องเกรงใจ เคารพผู้ใหญ่ จึงไม่กล้าพูดแทรก หรือแสดงความคิดเห็นทั้งที่มีความรู้ ทำให้เหมือนเป็นการคอยตามคนอื่น สิ่งเหล่านี้ทำให้เราขาดภาวะผู้นำ(Leadership) จึงให้ยึดทำในสิ่งที่ถูก

เมื่อถามถึงภารกิจในวันนี้ ปูบอกว่า การเปลี่ยนหน้าที่เป็นเรื่องที่สนุก สิ่งที่ท้าทายเป็นเรื่องการเดินทางและเรียนรู้ความแตกต่างของแต่ละประเทศมากกว่า รวมถึงการ balance ชีวิต ทั้งเรื่องการทำงานสนุกและมีความสุขกับการทำงาน

ยกมือ บ๊ายบาย...เพื่อนยอมขึ้นเครื่องไปอเมริกาตั้งแต่อยู่ ป. 2 เพราะคุณพ่อบอกว่าจะพาไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ แล้วก็หายไป 14 ปี เรียนจบกลับมาเมืองไทยบอกว่าจะมาอยู่กับพ่อ-แม่แค่หายคิดถึง วันนี้ก็ 18 ปีแล้ว เรื่องดิสนีย์แลนด์ยังไม่ได้เล่าอวดให้เพื่อนฟังเลยนะ ปูจ๋า!!!!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook