หมอดูอีที ทำนายไทยจะเจอแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

หมอดูอีที ทำนายไทยจะเจอแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

หมอดูอีที ทำนายไทยจะเจอแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"หมอดูอีที" หมอดูชื่อดังชาวพม่า ทำนายปีหน้าไทยจะเจอเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่  ผอ.กรมธรณีฯ ไทยสวนทันที พม่าน่าห่วงกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ทีมงานป๊าสั่งย่าสอนได้ทำพิธีบวงสรวงละครเรื่อง "คนเหนือมนุษย์" เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ น.ส.ซุย ซุย วิน หรือ "หมอดูอีที" ซึ่งเป็นหมอดูชื่อดังชาวพม่า ขึ้นที่พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยมีหมอดูอีทีและครอบครัว รวมถึงนักแสดงนำในเรื่องร่วมพิธี หลังเสร็จพิธีหมอดูอีทีได้ บอกความรู้สึกผ่านนางมะตี่ตี๊ ซึ่งเป็นน้องสาวว่าดีใจมากที่จะได้ถ่ายทอดชีวิตของตนผ่านละครเรื่องนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทุกวันนี้มีนักการเมืองและนักธุรกิจของไทยมาขอให้ดูดวงอีกหรือ ไม่ หมอดูอีทีบอกว่ามี แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่าเป็นใครและดูเรื่องอะไร และเมื่อถามว่าในปีหน้าประเทศไทยจะเจอภัยพิบัติอะไรหรือไม่ หมอดู อีทีตอบว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แต่จะเป็นที่ไหนไม่สามารถบอกแบบเฉพาะเจาะจงได้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมอดูอีทีอยู่ร่วมพิธีบวงสรวงร่วม 1 ชั่วโมง จากนั้นให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวช่วงสั้นๆ โดยไม่ยอมตอบคำถามอะไรมากนัก และหันไปสื่อสารกับนางมะตี่ตี๊น้องสาว และยุติการให้สัมภาษณ์

ขณะนี้นางมะตี่ตี๊ เล่าถึงความเป็นมาของหมอดูอีที ก่อนที่จะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักการเมือง นักธุรกิจ และนายทหารในเมืองไทยว่า เริ่มเห็นและรู้เรื่องราวต่างๆ ราวกับตาเห็นมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แต่มาชัดเจนเมื่ออายุ 9 ขวบ ครั้งนั้นมีลุงข้างบ้านมาบ่นให้ฟังว่ามีแหวนหาย แต่หมอดูอีทีบอกว่าไม่ได้หายไปไหน อยู่ในลิ้นชักนั่นเองให้ไปค้นดูให้ดี เมื่อไปค้นดูก็พบว่าอยู่ในลิ้นชักจริงๆ

นอกจากนี้ หมอดูอีทียังทำนายลุงคนนี้ ซึ่งเป็นโสด ใช้ชีวิตค่อนข้างเพลย์บอยว่า จะได้แต่งงานกับสาวบ้านนอก แต่ลุงคนนี้ไม่เชื่อ กระทั่งวันหนึ่งไปเมาเหล้าและได้ลูกสาว ชาวบ้าน จนได้แต่งงานอยู่กินกันในที่สุด เรื่องความแม่นของอีทีเป็นที่เล่าลือกันปากต่อปาก กระทั่งโด่งดัง มีผู้มีชื่อเสียง นักธุรกิจ นัก การเมือง นายทหารมาให้ทำนายทายทักดวงชะตาอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมถ่ายทำละครที่ใกล้ชิดกับหมอดูอีที เล่าด้วยว่า หมอดูอีทีตั้งค่าดูครั้งละประมาณ 30,000 บาท โดยผู้ที่จะให้ทำนายต้องจองคิว และรอคิว ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังต้องรอคิวอยู่ เนื่องจากมีผู้ต้องการใช้บริการมาก เงินที่ได้จากค่าบริการดูหมอ อีทีจะนำไปทำบุญ สร้างโรงเรียน โรงพยาบาลช่วยเหลือผู้คน

นายนิรัตติศัย หรือต๊ะ กัลย์จาฤก ประธาน ที่ปรึกษาทีมงานป๊าสั่งย่าสอน ผู้ผลิตละครเรื่องดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมามีสื่อมวลชนหลายแห่งขอสัมภาษณ์หมอดูอีที และมีผู้ผลิตละครจากหลายชาติมาขอทำละครชีวิตหมอดู อีทีเช่นกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับอนุญาต เนื่องจากตนรู้จักกับหมอดูท่านนี้มานานกว่า 12 ปี รับรู้ถึงประวัติที่น่าสนใจ รวมถึงความรู้สึกของพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกพิการมาด้วยความรัก และเมื่อคุยกันหมอดูอีทีคงรู้ว่าตนตั้งใจทำด้วยความศรัทธา

นายนิรัตติศัยกล่าวด้วยว่า ละครเรื่องดังกล่าวจะมี 12 ตอน ถ่ายทำทั้งในไทยและพม่าโดยถ่ายทำไปแล้ว 95% สำหรับละครเรื่องดังกล่าวจะมี น.ส.นิธิตรา เชาว์พยัคฆ์ รับบทเป็นหมอดูอีที, น.ส.ณฐมน ปัญญาวราศัย รับบทเป็น "มะเอ" พี่สาว, น.ส.ทัดดาว ตั้งตรงเจริญ เป็น "มะตี่ตี๊" น้องสาวคนสนิทของหมอดูอีที

โดย น.ส.นิธิตรากล่าวว่า จะพยายามแสดงออกมาให้ดีที่สุด และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะในวันนี้ตนได้ทำพิธีขอขมาหมอดูอีทีแล้ว หลังจากสวมบทบาทเล่นไปก่อนหน้าโดยไม่ได้ขออนุญาต และเชื่อว่าส่งผลให้ตนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ไม่น่าจะเกิด ด้วยก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันกระจกที่ประตูบ้านร่วงใส่จนเป็นแผลที่ขา

ขณะที่นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณี พิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ต้องไตร่ตรองให้ดีว่าควรจะเชื่อหมอดูมากแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้หมอดูก็ทำนายว่าโลกจะแตกในปีนี้ ซึ่งหากโลกแตกในปีนี้จริงๆ แล้ว จะเหลืออะไรไว้สำหรับแผ่นดินไหวในประเทศไทยปีหน้า

นายเลิศสินกล่าวว่า ในเชิงวิชาการแล้วอยากจะอธิบายให้รู้ว่าจุดที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในโลกนี้มี 3 จุดใหญ่ คือ 1.บริเวณรอบมหาสมุทรแปซิฟิก 2.กลางทะเล ระหว่างทะเลแอตแลนติก ที่อยู่ระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและแอฟริกา เป็นแนวยาว และ 3.บริเวณแนวมุดตัวตั้งแต่ประเทศออสเตรเลียมายังเกาะ สุมาตรา ต่อมายังอินเดียโยงไปยังแถบเทือกเขาหิมาลัย ตีโค้งออกตะวันออกกลางเข้าไปในทวีปยุโรปแถบประเทศกรีซ อิตาลี และสเปน ไปสิ้นสุดที่เทือกเขาแอลป์ นอกจากนี้ ยังมีจุดย่อย ที่จะมีความรุนแรงรองลงมาคือ บริเวณตอนเหนือของประเทศจีน

นายเลิศสินกล่าวว่า สำหรับจุดศูนย์กลางที่จะก่อให้เกิดแผ่นดินไหวที่ใกล้กับประเทศไทยนั้น ด้านตะวันตกคือแนวมุดตัวสุมาตรา และแนวรอยเลื่อนที่ผ่านประเทศเวียดนาม ผ่านประเทศจีนตอนใต้ผ่านเทือกเขาหิมาลัย จุดที่ใกล้ที่สุดคือ รอยเลื่อนสะแกง ซึ่งห่างจากเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี ประมาณ 500 กิโลเมตร และที่สุมาตราซึ่งห่างจากเกาะภูเก็ต ประมาณ 700 กิโลเมตร ส่วนด้านเหนือคือรอยเลื่อนแม่น้ำแดง ห่างจากประเทศไทยประมาณ 300 กิโลเมตร

"ที่อธิบายแบบนี้เพื่อต้องการให้เห็นภาพว่า ประเทศไทยเราอยู่ห่างมากจากจุดที่มีโอกาสจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ แม้รอยเลื่อนที่ทำให้แผ่นดินไหวรุนแรงรองลงมาก็ยังอยู่ห่างจากประเทศไทยมากอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยเองก็มีจุดศูนย์กลางของรอยเลื่อนที่ยังมีพลังอยู่ โดยภาคเหนือมีอยู่ 10 จุดคือ รอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนแม่อิง รอยเลื่อนพะเยา รอยเลื่อนแม่ทา รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน รอยเลื่อนเมย รอยเลื่อนเถิน รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ และรอยเลื่อนเพชรบูรณ์ ในภาคตะวันตกคือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ ส่วนภาคใต้คือ รอยเลื่อนระนองและรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย แต่ก็ได้มีการศึกษาตรวจสอบแล้วพบว่า รอยเลื่อนเหล่านี้มีพลังที่จะทำให้แผ่นดินไหวในระดับกลางหรือน้อยกว่า 7 ริกเตอร์ เท่านั้น" นายเลิศสินกล่าว

นายเลิศสินกล่าวว่า ส่วนที่มีรายงานว่ากรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่มีดินอ่อนสามารถขยายคลื่นแผ่นดินไหวได้ แผ่นดินไหวเพียงเล็กน้อยอาจจะทำให้เกิดความเสียหายใหญ่ได้นั้น พื้นที่ที่เป็นจุดศูนย์กลางของพื้นที่ ที่อาจจะเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย จุดที่ใกล้กรุงเทพที่สุดก็ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 150 กิโลเมตร ถ้าแผ่นดินไหวขึ้นมาจริงๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากเหมือนที่หมอดูทำนายเอาไว้แน่

"ที่หมอดูพม่าทำนายว่า ประเทศไทยจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ปีหน้านั้น ถ้ามันจะไหวจริงๆ จุดศูนย์กลางที่ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวคือที่ประเทศพม่านั่นเอง ดังนั้น พม่าจะต้องเจอก่อนประเทศไทย ประเทศไทยเพียงแค่รับผลพวงที่เกิดขึ้นเท่านั้น" นายเลิศสินกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook