รวมเรื่องช็อกฮอลลีวู้ด 2008

สารพัดเรื่องฉาว

เริ่มกันตั้งแต่ บริทนีย์ สเปียร์ส ที่รายนี้ออกอาการเป๋มาตั้งแต่ปลายปี จนกระทั่งต้นเดือนมกราคม นักร้องสาวคนดังก็เกิดอาการสติแตกขังลูกตัวเองไว้ในบ้านไม่ยอมคืนให้แก่ เควิน เฟเดอร์ไลน์ เมื่อพังประตูเข้าไปได้ก็พบ บริทนีย์ มีอาการเหมือนคนคลุ้มคลั่งเมายา จนเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวขึ้นรถพยาบาลไปรักษาตัวดูอาการที่โรงพยาบาลโรคจิต จนครอบครัวทนสภาพลูกสาวไม่ไหว ต้องยื่นมือเข้ามาจัดระเบียบชีวิตใหม่ให้ บริทนีย์ ซึ่งบัดนี้กลับมาเป็นผู้เป็นคนออกอัลบั้มใหม่เรียบร้อยแล้ว

// //

ต่อมาเป็นความซวยของ แอน แฮทธาเวย์ ที่อุตส่าห์ประคบประหงมทูนหัว รัฟฟาเอลโล โฟลลิเอรี แฟนหนุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์มานานหลายปี สุดท้ายต้องมาอกอีแป้นแตก เมื่อรู้เบื้องหลังแฟนหนุ่มแสนดีแท้จริงแล้วเป็นนักตุ๋นตัวยง ทั้งโกงเงิก เช็คเด้ง เปิดกองทุนฟอกเงิน สุดท้ายถูกจับเข้าคุก นอนกินข้าวแดง ปล่อยให้ แอน เดินเอาปี๊บคลุมหัวไปหลายเดือน

เป็นถึงไอดอลวัยรุ่น คิดจะกระแดะ เอ๊ย กระดิกตัวจะทำอะไรก็เป็นข่าวไปซะหมด ไมลีย์ ไซรัส เปลื้องเฟิร์สบราเปลือยหลังให้ช่างภาพถ่ายไว้ลงนิตยสาร Vanity Fair จนถูกสับเละเรื่องความไม่เหมาะสมที่เด็กวัย 15 ปีจะถ่ายหวิวอะไรเยี่ยงนี้ (ทั้งๆ ที่เจ้าตัวภาพหลุดออกจะบ่อย) ขณะที่ ไมลีย์ เองก็เล่นตามน้ำ บีบน้ำตาด่าช่างภาพชื่อดังระดับโลกว่า อายเหลือเกิน ที่ถูกถ่ายรูปนี้

เซียนนา มิลเลอร์ คืออีกคนที่ยอมผ้าหลุดเพื่อได้คั่วกับ บัลธาซาร์ เก็ตตี้ มหาเศรษฐีสามีชาวบ้าน คุณเธอเลิกกับแฟนเก่าได้ไม่ทันครบเดือนดีก็มีรูปเปลือยอกนั่งดูดปากกับ บัลธาซาร์ ความเลยแตกว่าแย่งสามีชาวบ้านเขาอยู่ แถมยังมีภูมิต้านทานสูง แม้เมียไม่หย่าให้ก็ยังอยากควงอยู่ดี ขณะที่ ลินด์ซีย์ โลแฮน หลังออกจากสถานบำบัด เลยเปลี่ยนพฤติกรรมจากเคยล่าผู้ชาย มาชอบดนตรีไทย คบหากับ ซาแมนธา รอนสัน เป็นคู่รักหนุงหนิง ไม่นับรวมที่พ่อ ลินด์ซีย์ ถูกแฉว่ามีลูกโผล่มาอีกคนจากการนอกใจแม่ ลินด์ซีย์

ส่วนที่เลิกกันบันลือโลกเห็นจะหนีไม่พ้นการจบชีวิตคู่อายุ 7 ปีระหว่าง กาย ริชชี กับ มาดอนนา เจ้าแม่เพลงป๊อป ที่รายหลังนี้ถูกข่าวลือรุมเร้าว่าเป็นมือที่สาม ทำให้ครอบครัว อเล็กซ์ โรดริเกซ ต้องบ้านแตกสาแหรกขาด เพราะ เอร็อด ดันหลงเสน่ห์ป้าจนถอนตัวไม่ขึ้น แต่ทั้งคู่ก็ยังแถไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรคืบหน้า โดยที่ล่าสุดมีคนเห็นเจ๊แกไปดูดปากกับนายแบบหนุ่มชาวบราซิลแล้ว

มวยเอกคู่นี้ นึกว่าชกกันจบไปนานแล้ว ล่าสุดความแค้นปุดขึ้นมาอีกรอบ เมื่อ แองเจลินา โจลี ดันออกมาให้สัมภาษณ์ว่ารักกับ แบรด พิตต์ ตั้งแต่ยังแต่งงานกับ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน อยู่ ร้อนถึงสาว อนิสตัน ต้องออกมาจวกว่าให้ระวังปากหน่อยที่พูดอะไรแบบนี้ แต่ แบรด ดันออกมาสำทับอีกรอบว่านอกใจ อนิสตัน ไปรัก โจลี จริงๆ

ดาราลาโลก

เริ่มกันที่ข่าวตั้งแต่ช่วงปีใหม่ เมื่อ ฮีธ เล็ดเจอร์ นักแสดงหนุ่มฝีมือดีอนาคตไกลต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า เพียงเพราะกินยามากเกิน หลังจากที่ข่าวแพร่ออกไป แฟนๆ ทั่วโลกต่างตกใจกับการจากไปก่อนวัยอันควร ไม่นับรวมครอบครัวที่หัวใจแตกสลาย โดยเฉพาะ มิเชล วิลเลียมส์ อดีตแฟนสาวที่แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่ก็ยังอดใจหายไม่ได้ว่า พ่อของลูกสาวตัวน้อยของเธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว

คนที่โดนร่างแหกับเรื่องนี้ไปด้วยคือ แมรี-เคท โอลเซน แฝดสาวคนดังของวงการ เพราะหมอนวดที่พบศพของ ฮีธ แทนที่จะโทรศัพท์หาตำรวจ เธอกลับใช้เวลาถึง 10 นาทีโทรคุยกับ แมรี-เคท ก่อนจะโทรหาตำรวจ ทำให้หลายคนสงสัยว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ ฮีธ แต่สุดท้ายตำรวจก็ไม่ออกหมายศาลเรียกเธอมาสอบปากคำเพิ่มเติม ท่ามกลางข่าวลือว่า แมรี-เคท อาจคบกับ ฮีธ แบบลับๆ

ส่วนดาราคนอื่นที่ลาโลกไปในปีนี้ได้แก่ เบอร์นีย์ แมค ดาราตลกผิวหมึกชื่อดัง ที่รายนี้เกิดล้มป่วยกะทันหันด้วยโรคปอดบวม เมื่อใกล้ปลายปี ชาวฮอลลีวู้ดต้องเสียใจอีกรอบเมื่อต้องสูญเสีย พอล นิวแมน ดาราดังระดับตำนานไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยโรคมะเร็ง ตามมาด้วยข่าวสุดช็อกเมื่อ แม่ น้องชาย และ หลาน ของ เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน ถูกฆ่ายกครัวด้วยฝีมือพี่เขยที่สารภาพฆ่าเพราะระแวงพี่สาวจะตีจากไปมีคนอื่น

นอกจากนี้ยังมีชาวฮอลลีวู้ดหวิดเดี้ยงอย่าง ไชอา ลาบัฟ ที่ขับรถไปคว่ำกลางสี่แยก ซึ่งตอนแรกเชื่อว่าเพราะเมาแล้วขับ แต่สุดท้ายก็รอดตัวไป ส่วนกลุ่มนี้รอดตายปาฏิหาริย์ หลังเครื่องบินที่นั่งเกิดประสบอุบัติเหตุตก แต่ เทรวิส บาร์เกอร์ อดีตกิ๊ก ปารีส ฮิลตัน กับ ดีเจ เอเอ็ม กับอดีตแฟน แมนดี้ มัวร์ กลับรอดชีวิตเพียงแค่ 2 คน ส่วนคนอื่นๆ บนเครื่องตายเรียบ

...หมดเนื้อที่ข่าวฉาวแล้ว พรุ่งนี้มาติดตามต่อดาวรุ่งดวงใหม่ของฮอลลีวู้ดกัน

ตะลุยข่าว - 388 ศพสึนามิ...ยังไม่ได้กลับบ้าน

แม้พิบัติภัยสึนามิจะผ่านพ้นไปแล้ว 4 ปี ทว่าภาพความเสียหาย การล้มตาย และสูญหายไปของคนอันเป็นที่รัก ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเหมือนภาพฝันร้ายในคืนที่แสนยุ่งเหยิง หลายครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับมหันตภัยที่เกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว และธุรกิจ เสียงหวีดร้องโหยหวนและร่ำไห้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ยังคงก้องอยู่ในมโนสำนึก