แม่พาลูกสาวป่วยเป็นออทิสติก ร้องเรียนสื่อ ถูกครูข่มขืน แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ

แม่พาลูกสาวป่วยเป็นออทิสติก ร้องเรียนสื่อ ถูกครูข่มขืน แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ

แม่พาลูกสาวป่วยเป็นออทิสติก ร้องเรียนสื่อ ถูกครูข่มขืน แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 9 มกราคม ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก ผู้ปกครองของน.ส.แก้ว (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เศษ บุตรสาวป่วยเป็นโรคออทิสติก และเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองระยอง ถูกครูชายในโรงเรียน 2 คน ข่มขืนมานานนับปี ซึ่งได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง แต่จนถึงบัดนี้คดียังไม่คืบหน้า

ผู้ปกครองของน.ส.แก้ว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวของตนถูกครูสอนวิชาสามัญคนหนึ่งข่มขืนครั้งแรกช่วงเปิดเทอมตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2552 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะนั้นลูกสาวของตนเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 2 อายุประมาณ 14 ปี โดยครูคนดังกล่าว ได้เรียกลูกสาวของตนเข้าไปพบที่ห้องเรียนก่อนจะลงมือข่มขืนกระทำชำเรา หลังจากเสร็จกิจแล้วก็ข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกกับใคร

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา 17.00 น. บุตรสาวของตนปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก็ถูกครูสอนคอมพิวเตอร์ เรียกให้ไปพบที่ห้องคอมพิวเตอร์หลังเลิกเรียน จากนั้นได้ลงมือข่มขืนกระทำชำเราข้างเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกผู้อื่น โดยปัจจุบันได้ทำเรื่องขอย้ายกลับภูมิลำเนาไปแล้ว

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุสังเกตเห็นอาการลูกสาวซึมเศร้า บ่นอยากฆ่าตัวตายไม่อยากไปโรงเรียน จึงพยายามเค้นเพื่อสอบถามในที่สุดลูกสาวก็ยอมเปิดปากเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง และลูกสาวเกิดความอับอายไม่อยากไปโรงเรียนและคิดฆ่าตัวตายตนจึงเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.มิตรชัย สิงห์กาล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และศิษย์อยู่ในความดูแล

"ขณะนี้เวลาผ่านไป 2 เดือนกว่า แล้วคดียังไม่มีความคืบหน้าและไม่มีการจับกุมผู้ก่อเหตุ อีกทั้งยังไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัยของตนเองกับลูกสาวที่อาจจะโดนข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายได้ทุกเมื่อ จึงได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดูแลจัดการ ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่า จะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เนื่องจากปัจจุบันลูกสาวยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่มั่นใจในความปลอดภัยจึงยังไม่ให้ลูกสาวไปโรงเรียนอีกด้วย"ผู้ปกครองของน.ส.แก้วระบุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook