ครูกราบแม่น้องเอยทั้งน้ำตา ก่อนรับทราบข้อหาประมาท

น.ส.ดาวรอง ศรีสมุ้ง ครูพี่เลี้ยงของโรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก้มลงกราบเท้า นางรัตนา นครโสภา มารดาของด.ญ.นัสนันท์ ทองภู่ หรือ น้องเอย วัย 3 ขวบ ที่ถูกทิ้งไว้ในรถตู้ของโรงเรียนเมื่อสัปดาห์ก่อน จนเป็นเหตุให้เกิดอาการช็อคหมดสติ ต้องพักรักษาตัวในห้องผู้ป่วยวิกฤติ รพ.กรุงเทพ มาจนถึงขณะนี้

ขณะ นายสันติภาพ หวานใจ คนขับรถตู้โรงเรียน ยกมือไหว้ขอโทษ ส่วน นางอนงค์ คีรีวงค์ ผู้ได้รับใบอุญาตตั้งโรงเรียนอนุบาล และ น.ส.ยุวเรศ ลูกสาวนางอนงค์ ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียน เข้าสวมกอด แสดงความเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

วานนี้ (8 เม.ย.) นางอนงค์ น.ส.ดาวรอง และ นายสันติภาพ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางปู เพื่อให้ปากคำตามหมายเรียก โดยทั้งหมดถูกตั้งข้อกล่าวหา กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส

ด้าน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท กล่าวว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอโทษครอบครัวของน้องเอย เพราะไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนพยายามให้การช่วยเหลือ ตั้งแต่รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล และประสานครอบครัวเด็กเพื่ออำนวยความสะดวก ยืนยันไม่ได้เพิกเฉย แต่ช่วงแรกตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และเพิ่งเปิดได้ไม่นาน

ขณะที่ แม่น้องเอย กล่าวว่า ไม่สามารถพูดอะไรได้ คิดถึงแต่ความปลอดภัยของลูก อยากให้ฟื้นคืนสติกลับมาโดยเร็ว ในส่วนของโรงเรียนที่แสดงความรับผิดชอบต่อหน้าสาธารณะชน ก็ขอบคุณเพราะเชื่อเช่นกันว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ส่วนอาการของน้องเอย แพทย์ระบุว่า ยังทรงตัว โดยแพทย์ยังให้การดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่สามารถประเมินอาการคืบหน้าได้ว่าจะเป็นอย่างไร

ในเวลาต่อมาทั้ง 2 ฝ่าย ได้ทำบันทึกข้อตกลงกันต่อหน้าตำรวจ และ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี รวมทั้งสื่อมวลชน เพื่อเป็นพยานว่า ทางโรงเรียนจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของน้องเอย จนกว่าจะหายเป็นปกติ หรือจนกว่าผู้ปกครองจะพอใจ

ด้านพนักงานสอบสวนนำตัวนายสันติภาพ ไปชี้จุดจอดรถตู้ที่เด็กไว้ในรถ พร้อมตรวจวัดอุณหภูมิในรถ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ก่อนปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 หลังรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนนางอนงค์ ผู้ได้รับใบอุญาตตั้งโรงเรียน ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ หากพบหลักฐานก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มทันที