เปลือยชีวิตครูไทย หนี้ท่วมเพื่อครอบครัว-ลูกศิษย์

เปลือยชีวิตครูไทย หนี้ท่วมเพื่อครอบครัว-ลูกศิษย์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
16 มกราคมนี้ วันครู เวียนมาบรรจบอีกปีหนึ่งแต่วิถีชีวิตครูไทยยังเป็นไปเช่นเดิม โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินรุงรัง ถูกสังคมมองว่าครูฟุ้งเฟ้อ แถมทิ้งลูกศิษย์ไปทำผลงานวิชาการเพื่อให้ได้เลื่อนวิทยฐานะทำให้คุณภาพการศึกษาตกต่ำไม่ถึงเกณฑ์นานาชาติ !!

// //

คมชัดลึกถือโอกาสนี้สัมภาษณ์พิเศษเปลือยชีวิตครูดีเด่นของคุรุสภาประจำปี2551เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่าชีวิตครูแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร?

ตอนนี้ผมเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูจ.ลำปางอยู่4แสนบาทเสียดอกเบี้ยร้อยละ6-7บาทต่อปีเพราะพานักเรียนไปประกวดนวัตกรรมทางการศึกษาในงานวันนักประดิษฐ์โลกเมื่อปี2548ที่ประเทศเบลเยียมแม้เป็นหนี้แต่ก็ภาคภูมิใจในความสำเร็จเพราะชิ้นงานฝึกทักษะจากเศษไม้ที่ลูกศิษย์ช่วยกันทำขึ้นได้รับรางวัลเหรียญทองระดับนานาชาติ

ครูเสกสรรกาวินชัย วัย42ปีอาจารย์3ระดับ8สอนวิชาช่างไม้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานพื้นฐานและเทคโนโลยีระดับมัธยมต้นและปวช.โรงเรียนแจ้ห่มวิทยาจ.ลำปางบอกถึงสาเหตุของการเป็นหนี้ลำพังชีวิตหนุ่มโสดเงินเดือนบวกเงินประจำตำแหน่งกว่า3.8หมื่นบาทสามารถใช้ชีวิตอยู่กับแม่และครอบครัวของพี่สาวได้อย่างสบายแต่ทุกเดือนต้องเจียดเงินจ่ายสหกรณ์8,000บาท

เขามองว่าครูมีหนี้ท่วมหัวเพราะต้องดูแลครอบครัวเช่นส่งเสียลูกเรียนรักษาพ่อแม่ที่ป่วยแต่มีครูบางคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยซึ่งการแก้ปัญหานี้ครูต้องรู้จักใช้ชีวิตอย่างสมถะพอเพียงกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ต้องดูเหตุผลที่ครูเป็นหนี้หากเป็นหนี้เพื่อครอบครัวก็ควรช่วยเหลือ

เช่นเดียวกับการประเมินวิทยฐานะที่ครูเสกสรรมองว่าเกณฑ์ปัจจุบันประเมินจากเอกสารแทนการประเมินจากผลการสอนคุณภาพเด็กที่สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งความเป็นครู

อยากให้ศธ.สารผลงานวิชาการเป็นหลักซึ่งจ้างใครเขียนหรือคัดลอกได้แต่ผลการสอนความเอาใจใส่ต่อลูกศิษย์จิตวิญญาณแห่งความเป็นครูจ้างกันไม่ได้อยากให้รัฐบาลดูแลโรงเรียนด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลเป็นพิเศษหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องยืดหยุ่นมากกว่านี้เพื่อนำมาปรับใช้สอนให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละท้องถิ่นได้ง่ายผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาต้องยึดคุณภาพของเด็กเป็นหลักไม่ใช่ดูจากปริมาณเด็กที่จบหรือเลื่อนชั้น ครูเสกสรรแนะ

อีกหนึ่งครูดีเด่น ครูจตุรพัฒน์วิไลรัตน์ หนุ่มโสดวัย53ปีอาจารย์2ระดับ7สอนวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมต้นโรงเรียนวัดสันติธรรมจ.นครสวรรค์ก็มีหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกว่า1.4ล้านบาทเสียดอกเบี้ยร้อยละ7ต่อปีเพราะกู้เงินไปช่วยห้องสมุดโรงเรียนวัดสันติธรรม3แสนบาทส่วนเงินที่เหลือสร้างบ้านให้น้องสาว2คนส่งเสียหลานสาวที่รักดั่งดวงใจเรียนตั้งแต่อนุบาลจนปัจจุบันจบปริญญาโท

ผลจากการเป็นหนี้ทำให้เงินเดือนบวกเงินประจำตำแหน่งของครูจตุรพัฒน์ที่รวมแล้วกว่า3.6หมื่นบาทถูกหักเพื่อใช้เงินต้นและดอกเบี้ยหนี้สหกรณ์เดือนละกว่า2หมื่นบาทจึงมีเงินเหลือใช้แค่เดือนละ9,000บาทแต่เขาก็ยังมีน้ำใจเจียดเงินมาเป็นค่าข้าวค่าอาหารเลี้ยงดูเพื่อนซี้สี่ขา30ตัวที่เร่ร่อนวันละกว่า200บาท

ชีวิตครูได้รับมา47รางวัลภาคภูมิใจที่สุดคือรางวัลครูคณิตศาสตร์ดีเด่นระดับประเทศพ.ศ.2528เข้ารับโล่จากพล.อ.เปรมติณสูลานนท์ขณะนั้นท่านเป็นนายกรัฐมนตรีอยากให้ศธ.พิจารณาการประเมินวิทยฐานะในกลุ่มครูที่ได้รับรางวัลต่างๆเช่นครูดีเด่นนั้นไม่ต้องทำผลงานวิชาการแต่ให้ไปประเมินผลการสอนที่โรงเรียนส่วนหนี้สินครูก็หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและเรียนฟรี15ปีควรเพิ่มอีก25%ดูแลเด็กยากจนเป็นพิเศษโดยให้พ่อแม่ทำสัญญาดูแลลูกให้เรียนจบม.3และเพิ่มจักรยานโรงเละมีทุนการศึกษาให้เด็กยากจนเรียนดีจนจบปริญญาตรีครูจตุรพัฒน์เสนอรัฐบาล

ครูคนสุดท้าย ครูจุรีโก้สกุล วัย51ปีอาจารย์3ระดับ8สอนวิชาภาษาไทยและภาษามือชั้นป.1-ม.3โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูลจ.ภูเก็ตบอกว่ามีลูก2คนคนโตทำงานแล้วส่วนคนเล็กเรียนชั้นม.5เมื่อมีภาระไม่มากและยึดคติเดินทีละก้าวกินข้าวทีละคำทำทีละอย่างดำเนินชีวิตแบบพอเพียงทำให้ไม่มีหนี้สินติดตัวเวลาทั้งหมดจึงทุ่มเทให้แก่ลูกศิษย์ที่เป็นเด็กพิเศษเช่นหูหนวกได้เต็มที่

อยากให้รัฐบาลดูแลครูโดยลดหย่อนภาษีให้ต่ำกว่าอาชีพอื่นเพราะต้องจ่ายภาษีปีละเกือบ3หมื่นบาททำให้ต้องกู้เงินมาจ่ายภาษีและเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่เด็กพิเศษเช่นทางลาดตัวหนังสือวิ่งแจ้งข่าวสารและฝึกอาชีพให้เด็กพิเศษ ครูจุรีบอกทิ้งท้าย

ธรรมรัชกิจฉลอง

ภูมิใจไทย:ก้าวสำคัญของเนวิน

การเมืองแบบไทยๆ อะไรๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ฟัดกันแทบจะตายกันไปข้าง วันหนึ่งก็อ้าขาผวาปีกเข้าหากันได้อย่างไม่เคอะเขิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook