ไทยหนาวจัด เผยทำ พระกรุงเก่า มรณภาพแล้ว กทม.ลดเหลือแค่16องศา

กรมอุตุฯออกประกาศเตือนภัยฉบับ 15 หนาวลงอีก 1-3 องศา ยอดดอยภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือหนาวสุด 2-8 องศา ผู้เชี่ยวชาญชี้ยังปกติ ไม่ถึงขั้นหนาวที่สุดในรอบ 10-20 ปี นักท่องเที่ยวอุทยานน้ำหนาวตื่นน้ำค้างแข็งหลังอุณหภูมิลดเหลือ 2 องศา ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ยอมรับยังไม่ได้รับงบฯสู้ภัยหนาวหลังรัฐเจอวิกฤตเศรษฐกิจ ขอพึ่งผ้าห่มพระราชทาน ยอดดอยอินทนนท์คาดเหลือแค่ 1 องศา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสภาพอากาศในกรุงเทพและปริมณฑลเมื่อวันที่ 11 มกราคม ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาว่า จากการที่อุณหภูมิลดลงต่อเนื่องส่งผลให้อากาศหนาวเย็นลงอย่างมากจากช่วงที่ผ่านๆ มา โดยอุณหภูมิในช่วงเช้าวันที่ 11 มกราคม ในบางพื้นที่เหลือเพียง 16 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้เฒ่าผู้แก่หลายรายต้องขวนขวายหาเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวมานุ่งห่มบรรเทาความหนาวเย็น ขณะที่บรรดาร้านขายเสื้อผ้าทั้งปลีกและส่งก็นำเสื้อกันหนาวในสต๊อคมาวางขายอีกครั้ง โดยต่างยอมรับว่า นานมากแล้วที่กรุงเทพฯไม่เคยมีอากาศหนาวเย็นขนาดนี้มาก่อน จึงน่าห่วงว่าคนจนและคนร่อนเร่ในเมืองอาจได้รับผลกระทบและเจ็บป่วยได้ง่ายเพราะไม่มีเครื่องนุ่งห่มที่อุ่นพอ วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 15 ระบุว่า ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นลงและคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยต่อไปอีก ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไปต่อเนื่องกันไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2552 อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง โดยในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศหนาวจัดในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 7-14 องศาเซลเซียส รวมทั้งบริเวณยอดดอย ยอดภู และบริเวณเทือกเขาสูงจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 2-8 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปถึงนราธิวาสมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และบริเวณชายฝั่งของภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง ขอให้ชาวเรือและชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 11-15 มกราคม ด้าน ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์ วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ลักษณะอากาศหนาวเย็นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเหตุการณ์ปกติตาดูหนาว ที่จะมีระลอกความเย็นพัดเข้าประเทศไทยเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดฤดูหนาว ซึ่งแต่ละครั้งจะหนาวเย็นนานไม่เกิน 7 วัน ดังนั้น จึงถือว่าขณะนี้อากาศยังไม่หนาวที่สุด อุณหภูมิหนาวลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล้วเมื่อ 4-5 ปีก่อน อากาศหนาวช่วงนี้จึงยังไม่ใช่หนาวที่สุดในรอบ 10 หรือ 20 ปีแต่อย่างใด ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ศิวะ ริมฝาย พนักงานสอบสวน สภ.ผักไห่ ได้รับแจ้งมีพระภิกษุมรณภาพภายในกุฎิวัดตาลานใต้ หมู่ที่ 4 ต.บ้านใหญ่ อ.ผักไห่ จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ผักไห่ รุดไปตรวจสอบพบศพพระประเสริฐ์ ละม้ายอินทร์ พระลูกวัด อายุ 71 ปี เสียชีวิตในสภาพมือเท้าเกร็งมาก่อนหน้าประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุพระประเสริฐ์ลุกมาเดินออกกำลังกายที่ลานวัดก่อนออกบิณฑบาต แต่พอถึงช่วงเช้าไม่เห็นออกมาจากกุฏิ เมื่อเปิดประตูเข้าไปจึงพบว่ามรณภาพแล้ว แพทย์ลงความเห็นว่า สาเหตุเกิดจากอากาศที่หนาวเย็นมาก เครื่องนุ่งห่มของพระไม่เพียงพอที่จะป้องกันความหนาวเย็น จึงเป็นตะคริวจนช็อคเสียชีวิต ผู้สื่อข่าว จ.เพชรบูรณ์ รายงานว่า อากาศที่กลับมาหนาวเย็นและอุณหภูมิยังลดลงอย่างต่อเนื่องอีกครั้งทำให้ขณะนี้อุณหภูมิลดต่ำสุดในรอบ 8 ปี โดยเฉพาะพื้นที่สูงบนภูเขา อาทิ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว วัดอุณหภูมิในช่วงเช้ามืดได้ราว 2 องศาเซลเซียส ส่งผลให้น้ำค้างกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งเกาะขาวโพลนตามเต็นท์ที่พักและรถยนต์ของนักท่องเที่ยว สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้มีช้างโทนป่าชื่อ ด้วนได้ออกมาป้วนเปี้ยนกินใบไม้บริเวณข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่อุทยานฯ คาดว่าอาจหลบความหนาวเย็นและมาหาอาหารกินแต่ไม่ได้ทำร้ายนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันที่อุทยานแห่งชาติตาดหมอก อ.เมืองเพชรบูรณ์ มีการจัดแข่งขันเดิน-วิ่งมะขามหวานมินิฮาล์ฟ มาราธอนสัญจร ปรากฏว่า นักวิ่งและครอบครัวเกือบ 1,000 คน ต้องอยู่ในสภาพหนาวเหน็บ นักวิ่งส่วนใหญ่ต้องใส่เสื้อกันหนาวลงแข่งขัน ขณะที่ราษฎรทั่วไปต้องก่อกองไฟผิงเพื่อคลายหนาว นายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวผ่านทางรายการวิทยุในท้องถิ่น "ผู้ว่าฯพบประชาชน" ว่า ต้องขออภัยที่ปีนี้รัฐบาลต้องเผชิญภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้การใช้เงินช่วยเหลือประชาชนหลายเรื่อง รัฐบาลขอพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ ปีนี้จังหวัดเพชรบูรณ์จึงยังไม่ได้รับอนุมัติการจัดหาผ้าห่มช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว คาดว่าอยู่ในระหว่างการพิจารณา ทั้งนี้ได้รับการประสานจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะนำผ้าห่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้แก่ราษฎร 1,000 ครอบครัว ที่อ.เขาค้อและอ.ชนแดน ในวันที่ 19-20 มกราคมนี้ ส่วนที่ จ.กาฬสินธุ์ สภาพอากาศมีความหนาวเย็นมาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดกับแนวเขตเทือกเขาภูพาน อุณหภูมิต่ำสุดเพียง 4 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิตามที่ราบทั่วไปอยู่ที่ 9-11 องศาเซลเซียส โดยความหนาวเย็นที่ปกคลุมพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ระลอกสองทำให้ประชาชนในถิ่นทุรกันดารหลายหมู่บ้านต้องออกมาผิงไฟเพื่อคลายความหนาวตลอดทั้งวัน นายวิทยา มากปาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ แจ้งว่า สภาพอากาศในช่วงนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังหลายด้าน ทั้งสุขภาพและการเดินทาง เนื่องจากเส้นทางหลายสายมีหมอกลงจัดในช่วงเช้าและค่ำ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ ขณะนี้ได้ประสานไปยังพื้นที่ให้ทำเครื่องหมายจราจร และป้ายเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนตามเส้นทางเสี่ยงอันตรายไว้แล้ว โดยเฉพาะเส้นทางที่จะผ่านเทือกเขาภูพานจะเข้มงวดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ได้ประสานไปยังหอกระจายข่าวตามหมู่บ้าน 1,620 แห่ง แจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังการผิงไฟเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการถูกไฟลวก ไฟไหม้ตามร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนขาดเครื่องห่มกันหนาวอีกกว่า 1 แสนราย จึงเปิดศูนย์ 24 ชั่วโมงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ว่าสภาพอากาศโดยทั่วไปยังคงหนาวจัด โดยเฉพาะตามยอดดอยต่างๆ อุณหภูมิลดต่ำลงมาก ล่าสุดเช้านี้ ที่ยอดดอยอินทนนท์วัดได้ 3 องศาเซลเซียส จนเกิดเกล็ดน้ำค้างแข็งสีขาวส่องประกายแข่งกับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า สร้างความประทับแก่นักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัยกับความหนาวเย็นและไปตั้งเต๊นท์พักแรมเป็นอย่างมาก นางเพ็ญศิริ ตรีสัตย์ ฝ่ายพยากรณ์อากาศศุนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ระบุว่า อุณหภุมิจะลดต่ำลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคมนี้ ซึ่งจะทำให้ยอดดอยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 1-7 องศาเซลเซียส ขณะที่บริเวณพื้นราบอยู่ในเกณฑ์ 8-14 องศาเซลเซียส