เด็กไทยพฤติกรรมเบี่ยงเบน-ฮิตหนีจากบ้าน

เด็กไทยพฤติกรรมเบี่ยงเบน-ฮิตหนีจากบ้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เด็กส่วนใหญ่นิยมทำสีผมเป็นสีทอง ทั้งแบบแฟชั่นเกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป หน้าตาเหมือนหมีพูห์ ผมทรงเกาหลีไปหมดแล้ว ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ต้องเตือนเด็กเอกลักษณ์คนไทยคือ ผมสีดำ และสถาบันการศึกษาต้องดูแล เช่น มหาวิทยาลัยชื่อดังใช้วิธีห้ามเด็กผมทองเข้าห้องสอบ และพิธีกร นักแสดง คนอ่านข่าวหลายช่อง มักจะทำผมทอง ควรคิดว่าเด็กภูมิคุ้มกันน้อยจะเลียนแบบได้ ทั้งนี้ เด็ก ม.ต้น มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนมากที่สุด และเสี่ยงต่อทำสิ่งที่ไม่ดีมากที่สุด จึงต้องเปิดพื้นที่ทางเลือก หาสื่อที่เป็นประโยชน์ เลือกรับสื่อที่ดี สร้างภูมิใจในความเป็นเด็กไทย

น.ส.วรรณพร ศรีวัฒนางกูร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แมนเพาเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าว อย่า...ผลักไสให้หนูออกจากบ้าน ว่า จำนวนผู้สูญหายที่มูลนิธิกระจกเงาได้รับแจ้งตลอดปี 2551 มี 330 คน เป็นหญิง 236 คน ชาย 94 คน ส่วนใหญ่อายุ 11-15 ปี 153 คน จากเดิมปี 2550 มีผู้สูญหาย 214 คน เพิ่มขึ้น 65% โดยมีสาเหตุ 1.ถูกล่อลวงทางเพศ 39% 2.ออกจากบ้านด้วยความสมัครใจ 23% และ 3.โรคสมองเสื่อม 8% ที่น่าห่วงมาก คือ การสมัครใจหนีออกจากบ้าน โดยเฉพาะเด็กประถม มัธยม ในปี 2550 มี 27 คน คิดเป็น 13% แต่ปี 2551 มี 75 คน เพิ่มขึ้น 10% ส่วนใหญ่เป็นเด็กในเมืองและกว่าครึ่งเป็นเด็ก กทม.

// //

ทั้งนี้ มูลนิธิระบุแนวโน้มเด็กหนีออกจากบ้านด้วยความสมัครใจในปี 2552 จะมีมากกว่า 100 คน โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม โดยเด็กที่ตามกลับบ้านได้ระบุส่วนใหญ่น้อยใจพ่อแม่ ซึ่งพ่อแม่ไม่มีเวลาคุยกับลูก เด็กไทยอารมณ์เปราะบาง เพราะถูกเลี้ยงแบบโอ๋เกินไป ปัญหานี้กลายเป็นแฟชั่นที่เด็กไทยแนะนำเพื่อนให้เลียนแบบเพื่อใช้ต่อรองสิ่งที่ต้องการกับพ่อแม่ จึงควร 1.ผู้ปกครองควรหากิจกรรมที่ทำร่วมกันกับบุตรหลานได้ 2.ให้เด็กมีส่วนร่วมตัดสินใจ 3.กระทรวงศึกษาธิการบรรจุหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน 4.สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำฐานข้อมูลคนหายให้เป็นระบบเดียวกัน และ 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรผลักดันให้เกิดกฎหมายวิธีพิจารณาความคน

เสียงเล็กๆ นวันเด็กขอนายกฯช่วยคนไทยรักกัน

วันเด็กแห่งชาติปีนี้...ผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานไปเที่ยวชมตามสถานที่ต่างๆ ที่เปิดเป็นพื้นที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ ทำเนียบรัฐบาล ที่เคยโอ่อ่ากว้างใหญ่ กลับแคบลงไปถนัดตา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook