มรภ.ลำปางผวานักศึกษาจบใหม่กว่า2,000ชีวิตตกงาน

ผศ.เล็ก แสงมีอานุภาพ อธิการบดีมหาวิทาลัยราชภัฏลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางมีความเป็นห่วงว่านักศึกษาที่จบการศึกษาในปี 2551 จำนวน 2,005 คน โอกาสจะตกงานมีแนวโน้มสูง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจปีหน้า 2552 จะทรุดหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ตนในฐานะอธิการบดีได้ให้นโยบายต่อผู้บริหารและอาจารย์ให้คำแนะนำนักศึกษาเตรียมตั้งรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นว่าควรจะปรับตัวอย่างไร ขณะเดียวกันได้นำหลักสูตรการอบรมอาชีพระยะสั้น เพื่อให้นักศึกษาที่สนใจเข้ารับการอบรมและนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเอง หรือนำไปต่อยอดเพื่อสร้างเป็นธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปีหน้านี้อาจมีนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางตกงาน ซึ่งมหาวิทยาลัยอื่นๆก็วิตกกับประเด็นนี้เช่นกันช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ที่ผ่านมาตนได้ให้โอวาทกับนักศึกษาเสมอว่าในปี 2552 จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนัก เพราะฉะนั้นขอให้นักศึกษาตั้งรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าวิตกหรือเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ขอให้สู้อย่างมีสติ อย่าลืมว่านักศึกษาที่เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางนั้นส่วนใหญ่เป็นเด็กที่หมดโอกาสจากมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ เพราะฉะนั้นอย่าได้เกี่ยงที่จะทำงาน อย่าเกี่ยงเงินเดือน อย่าเกี่ยงสถานที่ อย่างเกี่ยงระยะทางแต่ขอให้เกี่ยงงานที่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญอย่าท้อแท้หมดหวังขอให้ต่อสู้เพื่ออนาคตของตัวเอง รับรองว่าจะไม่อดตายแน่นอน

// //

ผศ.เล็ก กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางได้ประเมินผลนักศึกษาที่จบการศึกษาออกไปแต่ละปีว่ามีจำนวนนักศึกษาจำนวนเท่าไหร่ในแต่ละปีการศึกษามีงานทำเช่นในปี 2549 พบว่ามีนักศึกษาได้ทำงานร้อยละ 80-85 ปี 2550 มีนักศึกษามีงานทำร้อยละ 76-77 ส่วนปี 2551 ขอแค่ร้อยละ 40-50 ก็พอ ซึ่งผู้บริหารมีความเป็นห่วงว่านักศึกษาจะว่างงานกันและเกิดภาวะความเครียดวิตกกังวล

ดังนั้นจึงได้จึงสั่งการให้คณะเกษตรศาสตร์ทำโครงการเกษตรพอเพียงขึ้นมาเพื่อให้นักศึกษาที่ว่างงานต้องการสร้างรายได้ให้กับตัวเองให้สมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยการเกษตรพอเพียงนั้นจะประกอบไปด้วยการปลูกผัก,การรีไซเคิลเศษวัสดุเหลือใช้ หรือเศษขยะ การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากๆ ซึ่งรายละเอียดต่างๆทางอาจารย์ฝ่ายรับผิดชอบกำลังศึกษาความเป็นไปได้ว่าจะทำอะไรบ้าง โดยจะเริ่มดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาและประชาชนที่สนใจ

ตะลุยข่าว - 388 ศพสึนามิ...ยังไม่ได้กลับบ้าน

แม้พิบัติภัยสึนามิจะผ่านพ้นไปแล้ว 4 ปี ทว่าภาพความเสียหาย การล้มตาย และสูญหายไปของคนอันเป็นที่รัก ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเหมือนภาพฝันร้ายในคืนที่แสนยุ่งเหยิง หลายครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับมหันตภัยที่เกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว และธุรกิจ เสียงหวีดร้องโหยหวนและร่ำไห้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ยังคงก้องอยู่ในมโนสำนึก