สาวอ้างเป็นเมีย"สมีคำ"ฟ้องน้องชายกล่าวหา"สำส่อน"ทำเสียชื่อเสียง

สาวอ้างเป็นเมีย"สมีคำ"ฟ้องน้องชายกล่าวหา"สำส่อน"ทำเสียชื่อเสียง

สาวอ้างเป็นเมีย"สมีคำ"ฟ้องน้องชายกล่าวหา"สำส่อน"ทำเสียชื่อเสียง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นายสมชาติ วงศ์ธราธร ทนายความจากจังหวัดร้อยเอ็ด ได้พา นางสาวเอ (นามสมมุติ) พร้อมกับ เด็กชายนน (นามสมมุติ) อายุ 11 ขวบ ที่อ้างตัวว่าเป็นอดีตภรรยาและลูกของสมีคำ เดินทางไปที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อยื่นฟ้อง นายสุริ สุขผล น้องชายของสมีคำที่ออกมารับสมอ้างแทนสมีคำว่า นางสาวเอเป็นภรรยาของตนเอง ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับสมีคำตามที่เป็นข่าวและ ด.ช.นน ก็เป็นบุตรชายของตนเอง ไม่ได้เป็นบุตรชายของสมีคำ ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านั้น ซึ่งการยื่นฟ้องดังกล่าว ศาลได้ทำการประทับรับฟ้องเป็นคดีดำ ที่ 3723 /30 และศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกในวันที่ 23 กันยายนนี้

นางสาวเอกล่าวว่า สาเหตุที่ฟ้องร้อง เนื่องจากต้องการความเป็นธรรมและได้เปิดเผยความจริง และให้ผู้กล่าวหาออกมาแสดงความรับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหาย โดยมอบหมายทุกอย่างให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการ กรณีที่ทำให้ตนเสียหายในการข้อความที่ระบุว่า เป็นผู้หลับนอนกับตนเอง ทั้งที่ตนเองไม่เคยรู้จักหรือพบหน้ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่อยู่กินกับสมีคำกว่า 3 ปี ทราบว่ามีน้องคนหนึ่ง แต่ไม่เคยแม้แต่จะพบกัน จะมามีเพศสัมพันธ์กับตนได้อย่างไร และสิ่งที่เสียหายที่สุดคือการกล่าวหาว่า ตนเองสำส่อนนอนกับผู้ชายไม่เลือกหน้า และลูกชายก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของตนเสียหาย

ด้านทนายความกล่าวว่า การยื่นฟ้องศาลที่จังหวัดร้อยเอ็ด หรือที่ไหนไม่เป็นเรื่องแปลก เพราะข่าวแพร่ไปทั้งประเทศ อาจฟ้องร้องที่ไหนอีกก็ได้ หากเจ้าทุกข์ต้องการและสาเหตุของการมายื่นฟ้องที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ตั้งสำนักงานทนายความของตน ซึ่งจะมีความสะดวก ส่วนการฟ้องคดีก็ได้รับการยืนยันว่า จะดำเนินการจนถึงที่สุดกับนายสุริ สุขผล อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 333 หมู่ 10 บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ในข้อหาหมิ่นประมาท ตามมาตรา 326 ผู้ใดใส่ความบุคคลอื่นต่อบุคคลที่สาม โดยการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 328 ถ้าความผิดพื้นฐานหมิ่นประมาท ได้กระทำโดยการโฆษณา โดยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษร ที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียงหรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร การกระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือการกระทำโดยการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

"เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความชัดเจนของลูกความที่เป็นผู้เสียหาย ให้สังคมได้รับรู้ว่า ไม่ได้ประพฤติตัวเสียหายตามที่ถูกกล่าวหา และการมายื่นฟ้องก็ยื่นฟ้องเฉพาะในนามของนางสาวเอคนเดียว โดยไม่ได้เอาลูกชายเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี แม้จะถูกพาดพิงว่า เป็นลูกคนอื่นก็ตาม เพราะไม่อยากให้เด็กต้องมาเกี่ยวข้องด้วย" ทนายความกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook