ตร.นำตัวไอ้โหดฆ่าแม่ลูกทำแผน-ฝากขังต่อ

ตร.นำตัวไอ้โหดฆ่าแม่ลูกทำแผน-ฝากขังต่อ

ตร.นำตัวไอ้โหดฆ่าแม่ลูกทำแผน-ฝากขังต่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบก.ภ.จว.ชลบุรี นำกำลังคุมตัวมือยิง ว่าที่เจ้าสาวและแม่ยาย ทำแผนประกอบรับคำรับสารภาพ ขณะเตรียมฝากขังต่อศาลพรุ่งนี้ พร้อมค้านประกันตัว นอนคุกวันแรกไม่เครียด ไร้คนเยี่ยม

พ.ต.ท.เตชิต กุลพาณิชย์ พงส.ผู้ชำนาญการ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จากกรณี ตำรวจสามารถจับกุม นายยศพล แหกล้า อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นางวิมล หงษ์ทอง อายุ 53 ปี และ น.ส.เกวลิน หงษ์ทอง อายุ 28 ปี สองแม่ลูกเสียชีวิตอย่างอนาถนั้น ล่าสุดเมื่อเช้านี้ ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว และนำตัวกลับมาควบคุมตัวที่ สภ.เสม็ด ทันที ซึ่งเมื่อคืนนี้ ตัวผู้ต้องหาไม่เครียดและไม่มีใครมาเยี่ยม 

ส่วนในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) จะนำตัวผู้ต้องไปฝากขังต่อศาลจังหวัดชลบุรี เป็นผลัดแรก ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรหรือจำเป็นเร่งด่วน และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน โดย พงส. จะคัดค้านการประกันตัวด้วย 

 

พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย  พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก.สภ.เสม็ด ได้นำตัว นายยศพล แหก้าน อายุ 37 ปี มือปืนก่อเหตุใช้ปืน 9 มม. ยิง น.ส.เกวลิน หงส์ทอง อายุ 27 ปี และนางวิมล หงส์ทอง อายุ 49 ปี มารดาของ น.ส.เกวลิน เสียชีวิต ภายในร้านตกแต่งเครื่องยนต์ พี.เอส. โมดิฟายด์ ริมถนนสายบายพาสเลี่ยงเมืองห้วยกะปิ ม.1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี เหตุเกิด เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา และสามารถดำเนินการติดตามจับกุมตัวได้ที่ชายแดนเขตติดต่อประเทศไทย-กัมพูชา บริเวณด่านผี ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อจะหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชานั้น

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าว และมาติดตามดูเหตุการณ์อย่างมากมาย โดยระหว่างการทำแผน นายอารมณ์  นันทชลากรกิจ  บิดาแท้ ๆ ของ น.ส.เกวลิน ผู้เสียชีวิต ได้ออกมาด่า นายยศพล และประกาศผ่านทางสื่อว่า ต้องการให้ นายยศพล เดินทางไปขอขมาศพ มิฉะนั้นจะไม่มีการเผาศพอย่างแน่นอน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook