ยุทธศาสตร์เสื้อแดงสรุป 3 ประเด็น จี้อภิสิทธิ์ แก้ รธน.2550 เอาผิดแกนนำพธม. ปลดกษิต แถมปาไข่โชว์

ยุทธศาสตร์เสื้อแดงสรุป 3 ประเด็น จี้อภิสิทธิ์ แก้ รธน.2550 เอาผิดแกนนำพธม. ปลดกษิต แถมปาไข่โชว์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แกนนำ นปช.หารือได้ข้อสรุปยื่นรัฐบาล เรียกร้อง 3 ข้อ หากไม่ทำ มีแผนล้อมบัวแก้ว บุกทำเนียบ จัดชุมนุมสงบที่สุวรรณภูมิ ระดมผู้รู้กม.ช่วยสมาชิกถ้าถูกจับ เหตุซ้อมฝึกปาไข่ใส่นายกฯ มาร์คพร้อมฟังข้อเรียกร้อง ขออย่าทำผิดกฎหมาย มทภ.1 ชี้พลังเงียบอยากเห็น รบ.ทำงาน เสื้อแดงซ้อมปาไข่ก่อนประชุม

กลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงประชุมวางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวโดยมีมติ 3 ประเด็นหลักให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แก้ไขรัฐธรรนูญ ฉบับ 2550 เร่งดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ภายใน 1 เดือน และให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หากไม่มีการตอบรับจะชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ(นปช.) และคนเสื้อแดงประชุมกันที่โรงแรมมิโด้ ถนนประดิพัทธ์ เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 12 มกราคม เพื่อเคลื่อนไหวระหว่างการประชุมอาเซียนซัมมิท ประกอบด้วย นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นพ.เหวง โตจิราการ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด และนายขวัญชัย ไพรพนา และตัวแทนสมาชิกกลุ่ม นปช. ประมาณ 70 คน จาก 15 จังหวัด อาทิเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง อุบลราชธานี อุดรธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนแถลงข่าวมีการประชุมของกลุ่ม นปช.และก่อนที่สมาชิกของกลุ่ม นปช.จะเข้าร่วมประชุมได้มีการแจกไข่ไก่ที่ติดรูปของนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและนายกษิต ภิรมย์ ติดอยู่ที่ไข่ด้วย และหลังการแถลงข่าว สมาชิก นปช.ได้นำรูปภาพของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ มาติดไว้ที่กระดาน และให้คนเสื้อแดงใช้ไข่ปาข้าใส่เป็นการสาธิตการปาไข่ใส่นายกรัฐมนตรี

มีมติ3ประเด็นจี้รบ.ดำเนินการ

นายวิภูแถลงกล่าวว่า แนวร่วม นปช.จากที่ประชุมมีมติให้มียุทธศาสตร์ยุทธวิธีในการเรียกร้องในประเด็นหลักๆ 1.ให้รัฐบาลต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมา พร้อมทั้งการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเมืองเพื่อสร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ 2.รัฐบาลต้องดำเนินคดีโดยเร็วในการจับกุมแกนนำพันธมิตร ที่ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ มีการใช้อาวุธปืน ระเบิดปิงปอง จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก 3.รัฐบาลต้องปลดนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เพราะได้สนับสนุนการยึดสนามบินสุวรรณภูมิและได้สนับสนุนการกระทำที่รุนแรงและเป็นการฝ่าฝีนกฎหมายบ้านเมือง

ตั้งฝ่ายกม.ช่วยทีมปาไข่หากถูกจับ

นายวิภูแถลงกล่าวว่า กลุ่มนปช.เห็นว่าการที่ชาวบ้านได้แสดงถึงความไม่พอใจต่อรัฐบาลด้วยการปาไข่เป็นการเคลื่อนไหวของชาวบ้านด้วยตัวเอง เป็นการสื่อความหมายตามข้อเรียกร้องของ นปช.และขอให้ใช้ไข่สดแทนไข่เน่าเป็นการต่อสู้อย่างสันติวิธี ซึ่งแตกต่างจากพันธมิตร ที่ใช้ระเบิดปิงปอง อาวุธปืน นปช.จะให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายหากชาวบ้านถูกดำเนินคดี จนกว่ารัฐบาลจะดำเนินคดีเอาผิดต่อโจรการเมืองพันธมิตร โดยให้รัฐบาลกำหนดกรอบการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรภายใน 1 เดือน และให้รัฐบาลดำเนินการกับนายกษิต ภิรมย์ ก่อนประชุมอาเซี่ยนซัมมิท และหากไม่มีการตอบรับจะชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่ม นปช.ที่อยู่ในต่างจังหวัดมีจำนวนสมาชิกประมาณ 2 แสนคน และได้ปรึกษากันว่าจะต้องมีเจ้าภาพในการเคลื่อนไหว ก็ได้มีมติให้นปช.ที่กทม.เป็นแกนนำ

ในวันที่ 21 มกราคม จะไปยื่นหนังสือเรียกร้องกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2550 ในวาระการประชุมด้วย แต่การไปยื่นหนังสือ นปช.จะไปเป็นกลุ่มเล็กๆเท่านั้น และทางกลุ่ม นปช.จะมีภาระกิจสองระยะเฉพาะหน้า คือ เคลื่อนไหวเรียกร้องอย่างยืดเยื้อ จัดบุคคลากรให้ความรู้เรื่องประชาธิปไตยกับประชาชนต่อต้านเผด็จการ และการตั้งเวทีถาวรชุมนุมทุกวันในพื้นที่ที่มีความพร้อมทั่วประเทศนายวิภูแถลงกล่าว

โต้ป๋าปล่อยถูกกระทืบฝ่ายเดียว

นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เรียกร้องให้คนไทยหยุดทะเลาะกันนั้น ขอให้มองไปที่จุดเริ่มต้นในวันที่19กันยายน 2549 นอกจากนี้พล.อ.เปรม ควรไปส่งเสียงให้กระบวนการยุติธรรมมีมาตรฐานเดียวกันเสียก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้อีกฝ่ายกระทืบข้างเดียว

ขณะที่นายจักรภพ กล่าวว่า เมื่อผู้ใหญ่พูดเราก็ต้องฟังแต่ไม่าพอผู้ใหญ่ได้ความต้องการไปแล้ว แต่อีกฝ่ายหนึ่งย่อยยับไม่มีที่ยื่น จนต้องโหนเถาวัลย์แล้วถึงค่อยมาบอกให้หยุดทะเลาะกัน ซึ่งตนเห็นว่าผู้ใหญ่ควรที่จะรับฟังเสียงและความคิดความเจ็บปวดของพวกเราบ้าง

มาร์คพร้อมฟังข้อเรียกร้อง

ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า รัฐบาลพยายามทำความเข้าใจกับกลุ่มคนเสื้อแดงตลอดเวลา และพยายามฟังว่าความต้องการคืออะไร บางเรื่องอาจเห็นต่างกัน แต่บางเรื่องเป็นข้อเรียกร้องที่มีเหตุมีผล เช่น การปฏิรูปการเมืองต้องพยายามสนองตอบตรงนั้น ไม่ได้ขัดข้องกับการเคลื่อนไหวภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมาย แต่ไม่สามารถให้กระทำผิดกฎหมายได้ ดังนั้นถ้าคนกลุ่มนี้ปรับรูปแบบการเคลื่อนไหว ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น

เมื่อถามว่า ห่วงการเคลื่อนไหวนอกสภาโดยฝ่ายค้านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ห่วง เพราะคิดว่าการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองและนักการเมืองมันมีขอบเขตในตัวเองอยู่แล้ว

กำชับจนท.ดูแลรมต.ลงพ.ท.

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยคณะรัฐมนตรีหลังกลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวก่อกวนการทำงานรัฐบาลว่า ไม่กังวลใจกับการนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงอีกครั้ง แต่ต้องไม่ทำนอกกรอบกฎหมาย จะพยายามกำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลความปลอดภัยรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ต่างๆให้ดีที่สุดและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการบาดเจ็บไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด พร้อมจะรักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะไม่คาดโทษข้าราชการ แต่ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายหันมาช่วยกันทำงาน

อย่าดึงเปรมกลั้วการเมือง

นายสุเทพ ยังกล่าวถึงคนเสื้อแดงพาดพิงถึงพล.อ.เปรม ว่า พล.อ.เปรมไม่เกี่ยวกับการเมือง ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมาก็ไม่เคยได้ขอคำแนะนำจากพล.อ.เปรมเลย เคยเจออยู่ครั้งเดียวคือวันที่ไปอวยพรปีใหม่ จากนั้นก็ไม่เคยคุยอะไรกันเลย การเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่าไปดึงผู้ใหญ่ที่สังคมเคารพมาทำให้ไม่สบายใจ

นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องของกองวินัย และกองกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องว่าไปตามเนื้อผ้า ไม่เอาอารมณ์เข้าไปเกี่ยวข้อง ขอเรียกร้องว่าให้เลิกระแวงได้แล้ว เมื่อถามว่าจะเป็นประเด็นให้คนเสื้อแดงลุกฮือหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีคนเอาประเด็นนี้มาทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น นักข่าวชอบสงสัยในเรื่องที่ยังไม่เกิด เอาไว้มาถามตอนเรื่องเกิดแล้วกัน

มท.2กราบเสื้อแดงอย่าทำคนอื่นเดือดร้อน

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปขอยืนยันอีกครั้งการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงเป็นการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยหรือรัฐบาลไม่ปิดกั้นในการแสดงออกเพียงแต่มีหน้าที่ติดตามสอดส่องดูแลเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยที่สำคัญที่สุด แต่อยากกราบวิงวอนพี่น้องที่ออกมาชุมนุมขอให้อยู่บนพื้นฐานกฎหมายบ้านเมืองอย่าไปทำอะไรที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น มิเช่นนั้นก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

เสื้อแดงเมินแขกตป.ป่วนทำเนียบฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ระหว่างที่รถขบวนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังจอดเทียบรอตรงประตูหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนออกเดินทางออกจากทำเนียบเพื่อนำ นายโฮเซ รามอส ฮอร์ตา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังพระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ได้มีกลุ่มเสื้อแดง กว่า 40 คน เดินทางมาชุมนุมบริเวณประตู 4 ทำเนียบฯ ฝั่งตรงข้ามสำนักงานก.พ. โดยนำป้ายผ้าสีแดงข้อความด่าทอเสียดสีรัฐบาล มาติดที่รั้วทำเนียบฯ พร้อมปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปปัตย์ อาทิ รัฐบาลโจร พร้อมประกาศว่าจะมาชุมนุมที่ทำเนียบทุกวัน และจะขยายการชุมนุมไปปิดทุกประตูของทำเนียบ อย่างไรก็ตาม ขบวนรถนายกฯได้เลี่ยงออกจากทำเนียบทางประตูสะพานอรทัย ทำให้ไม่เผชิญหน้ากับกลุ่มเสื้อแดง

มทภ.1เชื่อพลังเงียบอยากเห็นรบ.ทำงาน

เวลา 11.00 น. ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความมั่นคงในเขตพืกรุงเทพว่า ความมั่นคงในกรุงเทพมหานคร แบ่งเป็น 2 อย่าง คือ 1.คนที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ 2.คนที่ย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ อีกส่วนหนึ่งคือประชากรแฝง ซึ่งทำให้ไม่มั่นคง เมื่อรัฐบาลเข้ามามีนโยบายเร่งด่วน คือ เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ใครจะมาหมิ่นไม่ได้ และเรื่องความสมานฉันท์ ส่วนราชการทุกส่วนที่อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐ โดยการสร้างสมานฉันท์นั้นได้พยายามเข้าไปทุกภาคส่วนที่มีปัญหา โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตามเข้าใจว่าคนไทยมีความคิดแตกต่างกันได้ แต่ไม่ใช่ว่าแตกต่างกันแล้วเป็นศัตรู ไม่ใช่คิดแตกต่างแล้วจะเป็นศัตรู จุดนี้พยายามเข้าไปทำความเข้าใจว่าความเป็นคนไทยคือการให้อภัย คำที่คนไทยมักพูด คือ ไม่เป็นไร คิดว่าจะทำให้เกิดความสมานฉันท์ในอนาคต เชื่อว่าจะเกิดเป็นรูปธรรมในเร็วนี้แน่นอน

"สภาพทั่วไปประชาชนที่เป็นพลังเงียบ พยายามแสดงออกว่าหยุดเถอะ ขอให้มีการทำงานกัน และว่ากันไปตามระบบประชาธิปไตย ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาล ส่วนราชการทุกส่วนต้องเป็นองค์กรหลักรับใช้ประชาชนและบริหารงาน แกนนำแต่ละฝ่ายควรจะสลายความคิด มุ่งเข้าสู่ระบบการต่อสู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เรื่องเก่าเป็นเรื่องของเมื่อวาน ชีวิตของเราอยู่แค่วันนี้กับพรุ่งนี้ คิดว่าการชนะทางความคิด คงไม่ทำให้เหตุการณ์ยุติ การแสดงออกควรเป็นไปตามระบบ ไม่ควรนำไปสู่ความรุนแรง เราต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

อัยการส่งสอบเพิ่มคดี 9 แกนนำพธม.มั่วสุมฯ

วันเดียวกัน นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวถึงความคืบหน้าการการพิจารณาสั่งคดี 9 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ,นายสนธิ ลิ้มทองกุล ,นายพิภพ ธงไชย ,นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ,นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ ,นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาน ,นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ,นายอมร อมรรัตนานนท์ และนายเทิดภูมิ ใจดี แนวร่วมพันธมิตรฯ ผู้ต้องหาที่ 1-9 ในความผิดฐาน มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ และข้อหาอื่นรวม 3 ข้อหาว่า ขณะนี้ได้ส่งสำนวนการสอบสวนกลับคืนไปยังพนักงานสอบสวนไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็น ประกอบกับผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา และยังไม่ได้รับสำนวนกลับมา อัยการจึงยังไม่อาจสั่งคดีได้ และผู้ต้องหาเองไม่อยู่ในความควบคุมตามกฎหมาย ดังนั้นจึงยังไม่มีกำหนดแล้วเสร็จว่าจะสั่งคดีได้เมื่อใด ทั้งนี้อัยการได้นัดผู้ต้องหาทั้ง 9 มาฟังการสั่งคดีว่าจะยื่นฟ้องต่อศาลหรือไม่ ในวันที่ 21 มกราคม นี้ เวลา 10.00 น.

ผบ.ตร.ยัน ใช้มาตรฐานเดียวกับพธม.จัดการกับนปช.

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)กล่าวถึงกรณี นปช.ประกาศก่อความวุ่นวายในจุดที่คนในรัฐบาลเดินทางไป ว่า เรื่องนี้มีแผนเรื่องการชุมนุมรับมืออยู่แล้ว ทั้งนี้หากมีการปาไข่นั้นถ้าทำอะไรผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี เมื่อถามว่าจะใช้มาตรการเดียวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ใช้เหมือนกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook