ศาลเผยแนวโน้มปีหน้า คดีแพ่ง พุ่งสูง เหตุศก.ทรุด เตรียมแผนรับมือปรับเกลี่ยกำลังผู้พิพากษาใหม่รองรับ

ศาลเผยแนวโน้มปีหน้า คดีแพ่ง พุ่งสูง เหตุศก.ทรุด เตรียมแผนรับมือปรับเกลี่ยกำลังผู้พิพากษาใหม่รองรับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สำนักงานศาลยุติธรรม ระบุปี 2552 เศรษฐกิจแย่ คาดคดีแพ่งพุ่งแน่ ทั้งฟ้องร้องล้มละลาย เช่าซื้อรถ-บ้าน ร้องค่าชดเชยเลิกจ้าง เตรียมปรับเกลี่ยกำลังผู้พิพากษาเพื่อรับมือกับปริมาณคดีที่เพิ่มขึ้น

นายศราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 ถึงปริมาณคดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลแพ่งทั่วประเทศทั้งสิ้นประมาณ 560,000 คดี และคดีอาญา 480,000 คดี สำหรับคดีแพ่งที่มีสถิติการฟ้องร้องสูงเป็นอันดับ 1 ในปี 2551 คือ เรื่องเกี่ยวกับการยืม มีการฟ้องร้องทั้งสิ้นประมาณ 180,000 คดี เรื่องเกี่ยวกับการยืมและการค้ำประกันมีการฟ้องร้องกันประมาณ 110,000 คดี อันดับ 3 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเช่าซื้อประมาณ 36,000 คดี

นายศราวุธ กล่าวว่า ภาพรวมคดีแพ่งในปี 2552 ที่มีแนวโน้มจะเกิดภาวะเศรษฐกิจไม่ดี คาดว่าคดีในส่วนที่เกี่ยวกับการยืมมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่า ปี2551 รวมทั้งคดีที่เกี่ยวกับการเช่าซื้อทั้งบ้าน รถยนต์ ก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากผู้เช่าชื้ออาจขาดกำลังในการผ่อนส่งจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี รวมไปถึงคดีที่เกี่ยวกับผู้บริโภคและคดีบัตรเครดิต

นายศราวุธ กล่าวว่า นอกจากคดีแพ่งแล้วในส่วนของศาลชำนัญ อาทิ ศาลล้มละลายกลาง ก็น่าจะมีแนวโน้มสูงที่จะมีคดีเข้าสู่การพิจารณาเพิ่มมากขึ้น ขึ้นเนื่องจากบริษัทร้านค้าต่างๆอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยในปี 2551 มีเข้าสู่การพิจารณาของศาลล้มละลายกลางประมาณ 24,000 คดี ทั้งคดีฟื้นฟูกิจการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และคดีล้มละลาย ในส่วนของศาลแรงงานก็เป็นอีกศาลหนึ่งที่น่าจะมีปริมาณคดีเพิ่มขึ้น เนื่องจากเมื่อบริษัทร้านค้าเกิดภาวะขาดทุน อาจเป็นเหตุให้มีการเลิกจ้าง คดีประเภทฟ้องนายจ้างให้จ่องเรียกค่าชดเชยต่างๆ ก็จะมากขึ้นกว่าปี 2551 ที่มีคดีเข้าสู่การพิจารณาประมาณ 23,000 คดี

นายศราวุธ กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรมเตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณคดีที่จะเพิ่มสูงขึ้นในปี 2552 ด้วยการปรับเกลี่ยอัตรากำลังผู้พิพากษาในศาลที่มีปริมาณคดีน้อย ไปปฏิบัติหน้าที่ในศาลที่มีปริมาณคดีที่เพิ่มขึ้น ให้อัตรากำลังผู้พิพากษาแต่ละศาลเหมาะสมกับปริมาณคดี รวมทั้งใช้หลักการบริหารจัดการคดี อาทิเรื่องการนัดความต่างๆ ให้รวดเร็วขึ้นเพื่อให้สามารถพิจารณาพิพากษาคดีให้เสร็จสิ้นได้โดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจำนวนข้อหาที่ขึ้นสู่การพิจารณาคดีในศาลแพ่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม ตุลาคม 2551 ในส่วนของคดีมีข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวม 15.359 คดี ประกอบด้วย ลาภมิควรได้ 5 คดี ละเมิด 716 คดี ซื้อขาย 638 คดี แลกเปลี่ยน 3 คดี ให้ 14 คดี เช่าทรัพย์ 140 คดี เช่าซื้อ 7,486 คดี จ้างแรงงาน 65 คดี จ้างทำของ 325 คดี รับขน 7 คดี ยืม 3,207 คดี ฝากทรัพย์ 80 คดี ค้ำประกัน 52 คดี จำนอง 61 คดี จำนำ 14 คดี เก็บของในคลังสินค้า 134 คดี ตัวแทน 76 คดี นายหน้า 14 คดี ประนีประนอมยอมความ 12 คดี การพนันขันต่อ 6 คดี บัญชีเดินสะพัด 123 คดี ประกันภัย 77 คดี ตั๋วเงิน 333 คดี หุ้นส่วนและบริษัท 49 คดี สัญญาต่างๆ 76 คดี ที่ดิน 3 คดี ขับไล่ 1,505 คดี ทางสาธารณะ 1 คดี ทางจำเป็น 9 คดี กรรมสิทธิ์ 50 คดี ขอให้ส่งมอบที่ดิน 5 คดี ครอบครอง 1 คดี ภาระจำยอม 41 คดี สิทธิอาศัย 1 คดี มรดกและพินัยกรรม 30 คดี

นอกจากนี้ ยังมีคดีไม่มีข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อีก 3,510 คดี ประกอบด้วย ขอจัดการมรดก 2,131 คดี ขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1,357 คดี และสาบสูญ 22 คดี และข้อหาอื่นๆนอกเหนือจากบัญชี อีก 1,910 คดี ประกอบด้วย นิติกรรมอำพราง 15 คดี เพิกถอนนิติกรรม 79 คดี หนี้ 5 คดี รับสภาพหนีรับช่วงสิทธิ 19 คดี เพิกถอนการฉ้อฉล 14 คดี แปลงหนี้ใหม่ 1 คดี สัญญา 448 คดี ผิดสัญญาประกัน 5 คดี ผิดสัญญาเล่นแชร์ 10 คดี และอื่น 1,218 คดี รวมจำนวนคดีทั้งหมดทุกประเภทที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลแพ่ง 20,779 คดี

ส่วนศาลล้มละลายกลาง ตั้งแต่เปิดทำการเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2542 จนถึง วันที่ 17 ธันวาคม 2551 มีคดีเข้าสู่การพิจารณา แบ่งเป็นคดีล้มละลาย 67,203 คดี พิจารณาแล้วเสร็จ 52,040 คดี คดีฟื้นฟูโครงสร้าง 608 คดี เสร็จไป 589 คดี ส่วนคดีขอศาลสาขา 1,822 คดี เสร็จไป 1,669 คดี ส่วนการยื่นขอรับชำระหนี้จำนวน 27,230 คดี เสร็จไป 25,799 คดี รวมคดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลล้มละลายกลางทั้งสิ้นจำนวน 96,863 คดี พิจารณาเสร็จสิ้นไป 80,097 คดี เหลือคดีคงค้างที่อยู่ระหว่างการพิจารณา 17,994 คดี รวมจำนวนทุนทรัพย์คดีล้มละลายประมาณ 2,647,000,000,000 บาท ส่วนคดีฟื้นฟูกิจการ 2,000,000,000,000 บาท ค่าขอรับชำระหนี้ 2,300,000,000 บาท โดยศาลล้มละลายกลางจะย้ายจากถนนสาธร ไปเปิดทำการที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ในวันที่ 5 มกราคม 2552 เป็นต้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook