ตะลึง! สาวจีนหน้าบวมเสียโฉม หลังฉีดแก้มคลีนิคเถื่อน

ตะลึง! สาวจีนหน้าบวมเสียโฉม หลังฉีดแก้มคลีนิคเถื่อน

ตะลึง! สาวจีนหน้าบวมเสียโฉม หลังฉีดแก้มคลีนิคเถื่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(12 ต.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ว่า มีการเปิดเผยเรื่องของหญิงชาวจีน วัย 28 ปี รายหนึ่งจากมณฑลกานซู ที่ใบหน้าบวมจนไม่เหลือเค้าหน้าเดิม ซึ่งเป็นผลจากการฉีดฟิลเลอร์เสริมแก้มกับหมอเถื่อนเมื่อ 11 ปีก่อน โดยสารที่ฉีดเข้าไปบนใบหน้าเธอนั้นถูกสั่งระงับใช้ในเวลาต่อมา เนื่องจากพบว่าสามารถเป็นพิษต่อร่างกายได้ โดยหญิงสาวรายนี้เริ่มฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี เพราะแก้มของเธอตอบทำให้ดูซูบและโทรม แต่ตามคลินิกเสริมความงามการฉีดฟิลเลอร์มีราคาแพงเกินรายได้ของเธอที่เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ สุดท้ายก็มีเพื่อนแนะนำคลินิกที่รู้จักซึ่งมีราคาถูกกว่าให้ เธอระบุว่าหมอดูเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ หากแต่คลินิกแห่งนั้นไม่มีใบอนุญาตประกอบการ ซึ่งเธอมาทราบภายหลัง

หญิงสาวรายนี้ฉีดฟิลเลอร์ทั้งหมด 10 ครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพอใจ แต่ในขณะที่เธออายุ 24 ปี ความผิดปกติก็เริ่มปรากฏ เมื่อใบหน้าของเธอบวมขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ รูปร่างของตา จมูก และองค์ประกอบอื่น ๆ บนใบหน้าดูผิดรูป จนถึงปัจุบันนี้ ใบหน้าของเธอทั้งบวมทั้งบานออก หนังตาตก และผมบนศีรษะเริ่มร่วง จนเธอแทบฆ่าตัวตายเพราะรับสภาพใบหน้าของตัวเอง 

จากการตรวจสอบพบว่า สารฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเข้าใบหน้าเธอนั้นคือสาร "ไฮโดรฟิลิก โพลีอะครีลาไมด์" (hydrophilic polyacrylamide) ซึ่งเป็นเจลที่นิยมใช้ในการศัลยกรรมเสริมหน้าอกในประเทศจีน แต่แล้วก็ถูกสั่งระงับใช้ในปี 2006 เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามันเป็นพิษต่อร่างกาย ในกรณีของหญิงสาวรายนี้ ได้ผลกระทบจากพิษของสารดังกล่าวก่อนที่จะมีคำสั่งระงับใช้ โดยแพทย์ระบุว่าไม่สามารถทำให้ใหน้าเธอกลับไปสู่สภาพเดิมได้ 100% เพราะสารสะสมอยู่ในร่างกายเธอมาเป็นเวลานาน และพิษได้ถูกซึมซับเข้าสู่เนื้อเยื่อข้างเคียงไปแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook