เลขาฯอังค์ถัดห่วงอาหารขาดแคลน-จี้รับมือ

เลขาฯอังค์ถัดห่วงอาหารขาดแคลน-จี้รับมือ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการองค์การการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) กล่าวภายหลังการปาฐกถาพิเศษเรื่องวิกฤตการณ์อาหารและพลังงาน ในงานประชุมระดับนานาชาติเกี่ยวกับมันสำปะหลังปี 2009 ที่จัดขึ้นระหว่าง 14-15 ม.ค. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า ภาวะวิกฤตการเงินโลกทุกประเทศหันมาใช้มาตรการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น แต่สิ่งที่ประเทศต่างๆ ยังไม่ได้ทำคือการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวเพื่อเร่งรัดให้เกิดการลงทุนในส่วนที่ยังขาดอยู่

ขณะนี้ตัวเลขการผลิตสินค้าเกษตรทั่วโลกเริ่มลดลง เนื่องจากราคาเริ่มตกทำให้เกษตรกรทั่วโลกลดพื้นที่เพาะปลูกลง โดยเฉพาะข้าวผลผลิตเริ่มลดลงกว่า 10-15% ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน ซึ่งที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้พยายามเตือนไปยังประเทศผู้ผลิตเพราะเกรงจะเกิดปัญหาขาดแคลนอาหารขึ้นอีก เราต้องไม่รอให้เกิดวิกฤตก่อนจึงจะคิดแก้ปัญหา ขณะนี้เราทราบว่ามีนักลงทุนจำนวนมากพยายามเข้าไปจับจองซื้อพื้นที่ในประเทศแอฟริกาจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นพื้นที่ผลิตอาหารมาใช้ในประเทศของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เราต้องช่วยกันดูแลผู้ผลิตรายย่อยโดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการผลิตหากไทยจะผลักดันให้เป็นแหล่งอาหารของโลก โดยคนไทยควรลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตปุ๋ยเคมีเองเพื่อใช้ในภาคการเกษตร ไม่ควรนำเข้าปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศ และยอมให้ผู้ขายปุ๋ยไม่กี่รายในต่างประเทศเป็นผู้กำหนดราคา ซึ่งจะช่วยทำให้ต้นทุนของเกษตรกรไทยถูกลง และสามารถแข่งขันได้ นายศุภชัยกล่าว

ส่วนแนวโน้มราคาอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิงปี52 นั้นช่วงครึ่งปีแรกคาดว่าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะแกว่งตัวระหว่าง 30-40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนเฉลี่ยทั้งปีคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 50-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หากน้ำมันราคาเพิ่มขึ้น สินค้าเกษตรก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และหากเศรษฐกิจประเทศต่างๆ เริ่มเป็นปกติ ยืนยันว่าผู้บริโภคจะมีความต้องการในการบริโภคอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรจะได้ประโยชน์แน่นอน

(กรอบบ่าย)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook