กรณ์กล่อมลดส่วนต่างดอกเบี้ย แบงก์พร้อมหั่นดบ.-ห่วงกระทบถึงฝากออมทรัพย์
// //
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่การกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ส่วนต่าง (สเปรด) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ไทยยังสูงถึง 6% ขณะที่ในต่างประเทศมีสเปรดอยู่ที่ 1.5% เท่านั้น และอำนาจการครอบครองส่วนแบ่งตลาดจะอยู่ที่แบงก์ใหญ่ ดังนั้น จึงเห็นว่าส่วนต่างดอกเบี้ยน่าจะลดลงได้อีก ซึ่งอยากขอความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ให้ปรับลดส่วนต่างดอกเบี้ยลง เพราะหากธนาคารคิดดอกเบี้ยสูง ในระยะยาวลูกค้าไปไม่รอด แบงก์ก็ไม่สามารถดำเนินกิจการได้
แม้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ต้นทุนของผู้ประกอบการก็ไม่ได้ลดลงมากนัก เพราะในเดือนธันวาคมดอกเบี้ยนโยบายลดลง 1% ขณะที่ดอกเบี้ยในธนาคารพาณิชย์ลดลงเพียง 0.25% อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งแบงก์ต้องให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น นายกรณ์กล่าว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า การที่ธนาคารพาณิชย์จะปรับลดดอกเบี้ยลงนั้น ปกติต้องดูเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน และต้องพิจารณาต้นทุนทางการเงินด้วย แถมต้องบวกความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำด้วย ซึ่งส่วนต่างดอกเบี้ยที่ได้ทั้งระบบของธนาคารพาณิชย์จะอยู่ประมาณ 2-3%
หากดูภาพรวมก็มีความเป็นไปได้ที่ดอกเบี้ยในระบบจะปรับลดลงได้ในเร็วๆ นี้ ทั้งเงินกู้และเงินฝาก จะลด 0.5% หรือไม่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ส่วนจะลดลงเท่ากับที่ ธปท.ลดหรือไม่ ก็ต้องดูภาวะตลาดเป็นหลักเช่นกัน รวมทั้งต้องดูดีมานด์ด้วย แต่เท่าที่ดูคงไม่ถึงที่ ธปท.ลด แต่การลดดอกเบี้ยของแบงก์พาณิชย์จะทำการลดทั้ง 2 ขาคือ ทั้งเงินกู้และเงินฝาก และยืนยันว่าแบงก์ทั้งระบบมีสเปรดแค่ 2-3% เท่านั้น ไม่ใช่ 5-6% นายอภิศักดิ์กล่าว
ด้านนายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ภายหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตรา 0.75% ซึ่งสถานการณ์โดยรวมในขณะนี้ทำให้ธนาคารตัดสินใจได้ยากกว่าการปรับครั้งสุดท้ายของปี 2551 นอกจากนี้ ธนาคารกำลังพิจารณาว่าหากปรับลดดอกเบี้ย 0.75% ก็จะทำให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือนอยู่ระดับต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่ 0.75% และอาจส่งผลให้ต้องปรับลดดอกเบี้ยออมทรัพย์ลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธนาคารจะเร่งประชุมเพื่อพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสม แต่ก็ต้องดูการปรับอัตราดอกเบี้ยของ 4 แบงก์ใหญ่ด้วย ซึ่งคาดว่าจะเห็นการประกาศลดดอกเบี้ยใน 2-3 วันข้างหน้านี้ โดยสาเหตุที่ต้องเร่งพิจารณา หากไม่ปรับลดดอกเบี้ยจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามายังธนาคารจำนวนมาก ส่งผลให้ต้นทุนการเงินของธนาคารเพิ่มขึ้น
ภูมิใจไทย:ก้าวสำคัญของเนวิน
การเมืองแบบไทยๆ อะไรๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ฟัดกันแทบจะตายกันไปข้าง วันหนึ่งก็อ้าขาผวาปีกเข้าหากันได้อย่างไม่เคอะเขิน
