กคช.เร่งทำกำไรล้างขาดทุน เดินหน้าตัดที่ดินขาย ของบรัฐ

กคช.เร่งทำกำไรล้างขาดทุน เดินหน้าตัดที่ดินขาย ของบรัฐ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มกราคมว่า การเคหะฯต้องทำกำไรให้ได้ในปี 2552 ถ้าปีนี้ขาดทุนอีกก็จะกลายเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เพราะขาดทุนติดต่อกันมา 2 ปีแล้ว ซึ่งตาม พรบ. หนี้สาธารณะ รัฐวิสาหกิจใดหรือหน่วยงานใดของรัฐที่ขาดทุนต่อเนื่องมา 2 ครั้ง พอครั้งที่ 3 รัฐบาลจะไม่ค้ำประกันเงินกู้ก็ไม่สามารถไปกู้เงินได้ เนื่องจากขาดความน่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม การเคหะฯ ยังมีทรัพย์สินต่อหนี้สูง เป็นจำนวนมาก แต่ที่ขาดทุนเพราะมาจากบ้านเอื้ออาทร ดังนั้น ปี 2552 จึงต้องรณรงค์จากเรื่องขายบ้านเอื้ออาทร นอกจากนี้ ก็จะขายทรัพย์สินของการเคหะที่มีอยู่ เช่นที่ดินแปลงสวยๆ ซึ่งมีจำนวนเกือบ 100 แปลง คาดว่าจะได้อีกประมาณ 1,500 ล้านบาท แต่คาดว่าไม่น่าจะง่ายนัก ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างนี้ จึงจำเป็นต้องแบ่งขายเป็นแปลงย่อย ๆ ที่ผ่านมาเคยขายแปลงละ 100 ไร่ 200 ไร่ ได้เงินครั้ง 500 - 800 ล้านบาท แต่ขณะนี้ ต้องแบ่งขายเป็นแปลงละ 10 ไร่ 30 ที่พอมีเงินประมาณ 100 ล้านบาท ก็สามารถมาซื้อได้ แม้ต้องใช้เวลาบ้าง

สำหรับขั้นตอนการขายจะต้องมีการประเมินราคาต่าง ๆ มีการประกวดราคา ซึ่งต้องเริ่มทำหลังเดือนมากราคม 2552 นี้เป็นต้นไป นอกจากนั้น การเคหะก็จะต้องไปขออนุมัติรัฐบาลช่วยสนับสนุนทางการเงินในเรื่องที่คณะรัฐมนตรีได้ต่ออายุผู้รับเหมา ขยายเวลาการก่อสร้าง 180 วัน 2 ครั้ง ให้ผู้รับเหมา ซึ่งก็คิดว่าจะแก้ไขภาวะขาดทุนที่มีถึง 2,800 กว่าล้านบาท

ส่วนแนวทางในการแก้ปัญหาขาดทุนในปี 2552 ของบ้านเอื้ออาทร ประกอบด้วย การขายที่ดิน 1,500 ล้านบาท ขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาลประมาณ 20,000 ล้านบาท หาเงินเองอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท ด้วยการขายบ้านเอื้ออาทร 51,282 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะนำไปขอสินเชื่อจากธนาคาร 30,000 กว่าหน่วยขึ้นไป หากหาสถาบันการเงินมาช่วยปล่อยสินเชื่อ และปลดเงื่อนไขในเรื่องของการไม่โอนก่อน 5 ปี ได้

"สินเชื่อประเภทนี้ หน่วยงานและราชการ ก็สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้เลย แต่ที่ผ่านมา ห้ามโอนกรรมสิทธี เราขอปลดล็อคนี้ มิเช่นนั้น 31,000 หน่วย ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ในปีที่แล้วทำได้แค่ 15,000 หน่วยเอง ซึ่งปีนี้เพิ่มอีกเท่าตัว จะเป็นไปได้อย่างไร ซึ่งผมไม่เชื่อว่าจะได้ ถ้ายังทำแบบเดิมอยู่เราอยู่ เราจึงจำเป็นต้องหาแหล่งสินเชื่อและ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเราจึงต้องขออนุมัติเงื่อนไขที่ว่าห้ามโอนสิทธิ์ก่อน 5 ปีกำลังขอครม. อยู่คาดว่าประมาณเดือนมกราคม 2552 เรายื่นขอไปนานแล้วพอดีครม. เปลี่ยนเดิมจะเข้าครม. วันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่คิดว่าครม.ใหม่ ปลายเดือนมกราคม น่าจะรู้เรื่องน่าจะเสร็จแล้ว นายศิริโรจน์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook