คนโคราชเครียดม็อบธุรกิจค้าปลีกยอดหด10%

คนโคราชเครียดม็อบธุรกิจค้าปลีกยอดหด10%

คนโคราชเครียดม็อบธุรกิจค้าปลีกยอดหด10%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนโคราช เครียดม็อบ ไม่ควักเงิน ส่งผลธุรกิจค้าปลีกยอดหด 10% ด้าน นักลงทุนท้องถิ่น หวั่นม็อบยืดเยื้อ ทำธุรกิจซบถึงสิ้น

นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการผู้จัดการคลังคาซ่า จำกัด ซึ่งเป็นนักลงทุนท้องถิ่นรายใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา โดยมีห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง และธุรกิจบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมหลายแห่ง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สถานการณ์บ้านเมืองเริ่มร้อนแรง ทั้งจากการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ยืดเยื้อมากว่า 1 สัปดาห์ และสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีข้อพิพาทเขาพระวิหาร ทำให้กลุ่มธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดนครราชสีมา เติบโตลดลงประมาณ 7 - 10% ทั้งนี้ซึ่งจากข้อมูลเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มธุรกิจค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า 3 แห่งของตนเองนั้นมียอดขายลดลงเป็นอย่างมากโดยเฉพาะโซนจำหน่ายสินค้าสิ้นเปลือง เช่น เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย มีความซบเซาและยอดขายลดประมาณ 10% ซึ่งคาดว่าเกิดจากการที่ประชาชนมีความวิตกกังวลกับสถานการณ์บ้านเมือง ทำให้ไม่อยากนำเงินออกมาใช้จ่ายซื้อของสิ้นเปลืองในระยะนี้ เพราะต้องการเก็บเงินไว้ในประเป๋าเพื่อความอุ่นใจกว่า ถึงอย่างไรก็ตาม ในโซนจำหน่ายสินค้าของกิน ของใช้ ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง 3 - 5% เนื่องจากทุกคนยังต้องกินต้องใช้อยู่ตลอด

นายไพจิตร กล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกตัวเลขได้ชัดเจนนัก เพราะเป็นการลงทุนระยะยาวที่ต้องดูผลประกอบการเป็นไตรมาส แต่หากสถานการณ์การชุมนุมยืดเยื้อ หรือเกิดเหตุการณ์ปะทะกันตามชายแดนไทย-กัมพูชา ก็คาดว่าจะส่งผลกระทบทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมยาวไปจนถึงสิ้นปี 2556 นี้


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook