นศ.สาวม.ดังโร่แจ้งความ ต้อย แอ็กเนอร์ ลวงขึ้นคอนโดทำอนาจาร

นักศึกษาฝึกงานแจ้งความเจ้าของมายาแชนแนล ใช้เพื่อน-คนขับรถเป็นนกต่อลวงขึ้นคอนโด พยายามปลุกปล้ำ เจ้าตัวอ้างไม่รู้เรื่อง ก่อนปิดโทรศัพท์หนี หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก รายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 18 มกราคม นางวรรณวิไล อายุ 51 ปี พาบุตรสาว คือ น.ส.เพชรคัมภรณ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และเคยเป็นพริตตี้ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.รักเกียรติ ปทุมวัลย์ พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเกรียงศักดิ์ เอกสกุลชัย หรือ ต้อย แอ็กเนอร์ เจ้าของนิตยสารมายาแชนแนล และหนังสือเกี่ยวกับข่าวบันเทิงหลายเล่ม ในข้อหากระทำอนาจาร

นางวรรณวิไลอ้างว่า นายเกรียงศักดิ์ลวนลามด้วยการพยายามปลุกปล้ำโอบกอด และหอมแก้ม น.ส.เพชรคัมภรณ์ ทั้งที่เป็นนักศึกษาฝึกงาน เหตุเกิดที่คอนโดเลิศอุบล ชั้น 8 ซอยลาดพร้าว 8 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา โดย น.ส.เพชรคัมภรณ์ ถูกล่อลวงจากเพื่อนนักศึกษาสาวในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ร่วมกับคนขับรถของนายเกรียงศักดิ์ ซึ่งทั้งสองคนมีลักษณะเหมือนนกต่อ

น.ส.เพชรคัมภรณ์ กล่าวว่า เป็นนักศึกษาฝึกงานของบริษัท มายาแชนแนล ในตอนแรกไม่เคยคิดจะฝึกงานที่นี่ เพราะส่งใบสมัครไปที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 แต่ได้รับการแจ้งกลับมาว่า นักศึกษาฝึกงานที่ช่อง 5 เต็มแล้ว ต่อมาเพื่อนชื่อส้ม ชวนไปฝึกที่มายาแชนแนล โดยบอกว่ารู้จักกับนายชาติ ซึ่งอ้างว่าเป็นคนสนิทของนายเกรียงศักดิ์ จึงตัดสินใจมาฝึกงานตามที่เพื่อนแนะนำ เมื่อวันที่ 12 มกราคม เป็นวันแรก ต่อมานายเกรียงศักดิ์พาไปทำงานด้วยหลายที่ โดยมีเพื่อนชื่อส้มไปด้วย จนกระทั่งวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ตนกับนายเกรียงศักดิ์พร้อมทีมงานไปดูงานที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หลังเสร็จงานในช่วงเย็นนายเกรียงศักดิ์ชวนไปรับประทานอาหารที่ร้านเบียร์หิมะ ถนนประชาชื่น

ผู้เสียหายกล่าวอีกว่า เมื่อเข้าไปนั่งที่โต๊ะภายในร้าน นายเกรียงศักดิ์ให้นั่งฝั่งขวา ส่วนเพื่อนชื่อส้มนั่งด้านซ้าย โดยนายเกรียงศักดิ์นั่งตรงกลาง ลักษณะควงตนกับเพื่อนทั้งสองคน ก็สงสัยว่าทำไมต้องให้นั่งใกล้ชิดขนาดนั้น เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว นายเกรียงศักดิ์ก็ชวนดื่มเบียร์ต่อ แต่ตนปฏิเสธ แล้วชวนคุยเรื่องงานกันว่าวันพรุ่งนี้จะต้องไปที่ใดบ้าง

ระหว่างที่นั่งคุยกัน หนูกับส้มก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปเล่น พี่ต้อยก็ขอถ่ายด้วย ก่อนจะบอกให้หนูมานั่งตัก แล้วโอบข้างหลังถ่ายรูป หนูก็รู้สึกแปลก พี่ต้อยยังบอกว่าหนูหน้าตาดี จะให้เป็นเลขาฯ ส่วนตัว และจะให้ทำงานฝ่ายทีวี วันนั้นอยู่ที่ร้านจนถึงสี่ทุ่ม หนูจึงขอตัวกลับ พี่ต้อยเลยนัดว่าให้ไปเจอกันที่คอนโดที่ลาดพร้าวซอย 8 ตอนเก้าโมงเช้า วันที่ 15 มกราคม หนูก็เดินทางไปตามนัดหมาย เมื่อไปถึงก็พบคนขับรถของพี่ต้อยยืนรออยู่ คนขับรถบอกว่าให้ขึ้นไปรอข้างบนก่อน ทีมงานยังมาไม่ครบ หนูก็เริ่มแปลกใจอีก แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะคนขับรถบอกว่ามีเพื่อนชื่อส้มอยู่ด้วย จากนั้นคนขับรถก็พาขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 8 เมื่อเข้าไปในห้องพี่ต้อย ซึ่งเป็นห้องสูท พี่ต้อยชวนมานั่งที่เก้าอี้โซฟา ซึ่งเขานั่งดูเคเบิลทีวีอยู่ น.ส.เพชรคัมภรณ์กล่าวอ้าง

น.ส.เพชรคัมภรณ์ กล่าวต่อว่า ขณะอยู่ในห้องนายเกรียงศักดิ์ก็ชวนคุย และถามว่ารู้จักพวกสาวไซด์ไลน์หรือเปล่า ตนฟังแล้วดูท่าไม่ดี จึงพูดตัดบทบอกว่าหิวข้าว และขอตัวไปกินข้าวกับส้มก่อน นายเกรียงศักดิ์ก็อนุญาต ระหว่างนั้นส้มบอกว่าแสบตา และขอไปล้างตาในห้องน้ำ ช่วงที่ตนก้มใส่รองเท้าแบบหุ้มข้อ นายเกรียงศักดิ์ก็เข้ามาทำทีเหมือนจะปล้ำ แล้วโอบกอดด้านข้าง จึงผลักออกไป แล้วร้องให้เพื่อนช่วย พอเพื่อนออกมานายเกรียงศักดิ์ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนั้นตนไปทำงานร่วมกับนายเกรียงศักดิ์ด้วยความอึดอัด พร้อมทั้งคุยกับเพื่อนว่าจะเปลี่ยนที่ฝึกงาน แต่เพื่อนบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ให้ทนเอาหน่อย

เมื่อกลับถึงบ้านหนูเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง และวันนี้ (18 ม.ค.) แม่จึงพาไปแจ้งความ เพราะเกรงจะมีเรื่องลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก และขอยืนยันว่า ที่ออกมาแจ้งความเรื่องนี้ไม่ได้อยากดัง แต่อยากให้รู้ว่า การที่ใครจะทำงานที่ไหนให้ระวังตัว หรือถ้ามีผู้บริหารมาทำกับเราแบบนี้อย่าไปยอม อยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างแก่ผู้หญิงคนอื่นว่า ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ต้องกลัวและไม่ต้องยอม อยากให้ดูหนูเป็นตัวอย่าง และหากมหาวิทยาลัยให้ติดเอฟ เรียนไม่ผ่าน หนูก็ยอม และจะไม่มีการยอมความอย่างแน่นอน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่ตอนนี้รู้สึกกลัวว่าจะถูกฝ่ายพี่ต้อยข่มขู่ จึงต้องการให้ตำรวจไปดูแลที่บ้าน หลังเกิดเรื่องเมื่อวันที่ 16 มกราคม พี่ต้อยรวมทั้งเพื่อนชื่อส้มก็โทรศัพท์มาหา แต่หนูไม่รับโทรศัพท์ น.ส.เพชรคัมภรณ์กล่าว

ร.ต.ท.รักเกียรติ กล่าวว่า หลังสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จสิ้นแล้ว จะเรียกพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำทั้งหมด และอันดับแรกจะเรียกเพื่อนที่ชื่อส้มมาสอบปากคำก่อน จากนั้นจะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำต่อไป คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนอะไรมาก และเป็นคดีกระทำอนาจารผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี เป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้ หากผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธก็ไม่มีผลต่อรูปคดี ถ้าหากผู้เสียหายมีหลักฐานชัดเจน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการสอบปากคำทุกปากภายใน 7 วัน หากพยานหลักฐานเพียงพอก็จะเรียกนายเกรียงศักดิ์มารับทราบข้อกล่าวหา ถ้าเกิดนายเกรียงศักดิ์ไม่มาจะออกหมายเรียก และถ้าเรียกถึง 3 ครั้งแล้วยังไม่มาพบเจ้าหน้าที่ จะออกหมายจับต่อไป เรื่องนี้เจ้าหน้าที่จะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

ต่อมาผู้สื่อข่าว คม ชัด ลึก โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จกรณีกับนายเกรียงศักดิ์ ซึ่งกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่รู้เรื่อง ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัด อย่าไปเชื่อ จากนั้นก็ปิดโทรศัพท์มือถือทันที